วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ออแพร์ต้องรู้


https://www.youtube.com/watch?v=_xO065mp1qg

          เราได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่ออแพร์ต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลเด็ก เหมาะสำหรับว่าที่ออแพร์ไทยทุกคนที่กังวลว่าภาษาอังกฤษของตนเองยังไม่ค่อยดี ไม่เคยมีประสบการณ์ดูแลเด็กมาก่อน และเป็นประโยชน์ในการสัมภาษณ์กับเอเจนซี่และโฮสต์แฟมิลี่ด้วย



Host family (โฮสต์แฟมิลี่) แปลว่า ครอบครัวอุปถัมภ์ คือครอบครัวที่ออแพร์อาศัยอยู่ด้วย ประกอบด้วย
Host mom (โฮสต์มัม) คุณแม่, Host dad (โฮสต์แด๊ด) คุณพ่อ , และ Host kids (โฮสต์คิดส์) ลูกๆ หรือเด็กที่ออแพร์จะต้องดูแลนั่นเอง


Look after (ลุค อาฟเตอร์) มีความหมายว่า Take care (เทคแคร์) แปลว่า ดูแล นั่นเอง

Pick up (พิค อัพ) คือการไปรับ เช่น I'll pick you up from the school at 4PM. 
Drop off (ดร็อพ ออฟ) คือการไปส่ง
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของออแพร์เลยที่จะต้องไปรับ-ส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ

Nap (แน็พ) คือการงีบหลับ หรือการนอนกลางวันนั่นเอง เด็กๆ โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็กจะมีช่วงนอนกลางวัน ซึ่งทำให้ออแพร์ได้พักเหนื่อยบ้าง หรืออาจใช้เวลานี้ทำงานบ้านที่ค้างไว้


Play date (เพลย์ เดท) คือ การที่เด็กๆ วัยเดียวกันมาเล่นด้วยกัน 
Play pal (เพลย์ พาวล์) คือ เด็กวัยเดียวกัน หรือเพื่อนเล่น 
(ไม่ใช่แอพจ่ายเงินเพย์พาลว์นะจ๊ะ แม้จะสะกดเหมือนกันก็ตาม)

Play date เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กๆ ได้เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ช่วยเพิ่มทักษะทางสังคม และยังช่วยผ่อนแรงออแพร์ที่จะต้องวิ่งเล่นกับเด็กๆ ทั้งวันอีกด้วย 
ออแพร์จึงมักจะพาเด็กๆ ไป Play date ด้วยกัน เช่น ที่สวนสาธารณะ หรือบ้านของคนใดคนหนึ่ง แต่ทั้งนี้ต้องดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาด้วยนะ


High and Seek (ไฮด์ และซีค) คือ เกมเล่นซ่อนหานั่นเอง แปลตรงๆ ตัวเลย

Treats (ทรีทส์) หมายถึง ขนมหวานต่างๆ ลูกอม ช็อคโกแลต เค้ก ฯลฯ เหมือนกับคำว่า "Trick or treats" ที่พูดกันในวันฮาโลวีน ซึ่งแน่นอนว่าขนมหวานเป็นของโปรดของเด็กๆ ทุกคน ดังนั้นบางบ้านจะมีกฏในการให้ขนมเด็กๆ ออแพร์จะต้องถามเรื่องกฏนี้กับโฮสต์ด้วย เพื่อไม่ให้เด็กกินขนมหวานมากเกินไป

Time out (ไทม์ เอ้าท์) แปลว่า หมดเวลา ในที่นี้หมายถึง วิธีการลงโทษเด็กรูปแบบหนึ่งที่นิยมมากในอเมริกา และยุโรป เพราะว่าฝรั่งจะไม่ตีเด็กเด็ดขาด ถือว่าเป็นการทารุณกรรมเด็ก ผิดกฏหมาย

วิธีการ Time out  เมื่อเวลาเด็กๆ ทำผิดซ้ำๆ หลายครั้ง แม้ว่าจะมีการเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง ยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่ ก็จะจับเด็กมานั่งเก้าอี้ แล้วหันหน้าเข้ามุมห้อง หรือผนัง และจับเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาที จนถึงไม่กี่นาที (ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก) เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่ตัวเองได้ทำลงไป โดยระหว่างที่ทำ นี้จะต้องอยู่ในสายตาคนดูแล แต่จะไม่เข้าไปอยู่ใกล้ๆ ให้เด็กเห็น หรือว่าให้เห็น แต่จะไม่เข้าไปเล่น ไม่คุยด้วย จะอยู่เงียบๆ จนครบเวลา จึงเข้าไปพูดคุยว่าเด็กๆ เข้าใจที่ถูกทำโทษไหม รู้สึกอย่างไร และต่อไปจะไม่ทำอีก ประมาณนี้ เด็กก็จะเรียนรู้เหตุผล และรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองได้มากขึ้น


Go pee pee(โก พี๊ ผิ) เป็นคำที่ใช้กับเด็กๆ แปลว่า ไปฉี่ ถ้าเด็กโตหน่อยอาจจะใช้แค่คำว่า Go pee 
Go poo poo (โก พู๊ ผุ) แปลว่า ไปอึ เด็กโตใช้คำว่า Go poop ได้

Diaper (ไดเพอะ) แปลว่า ผ้าอ้อมเด็ก หรือแพมเพิสนั่นเอง


Diaper pail (ไดเพอะ เพล) หมายถึง ถังสำหรับทิ้งผ้าอ้อม 

Potty (พ้อตตี้) แปลว่า กระโถน 
เด็กเล็กๆ เมื่อถึงวัยที่ต้องเลิกใส่ผ้าอ้อม จะมีการฝึกให้นั่งกระโถน เรียกว่า Potty tain (พ้อตตี้ เทรน) เพื่อให้เด็กรู้จักบอกความต้องการของตัวเอง และช่วยเหลือตัวเอง

wee wee (วี๊ หวิ) ใช้เรียก จู๋ของเด็กผู้ชาย

Boo boo (บู๊ บู้) หมายถึง ได้รับบาดเจ็บ หรือบาดแผล เช่น เวลาเด็กหกล้ม เป็นต้น

Bed time (เบ้ด ไทม์) แปลว่า เวลาเข้านอน
ซึ่งบางบ้านก็จะฝึกเด็กให้มี Bed time routine หรือสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำก่อนนอน ตั้งแต่ อาบน้ำ กินนม แปรงฟัน อ่านหนังสือ (Story time) บอกราตรีสวัสดิ์คนในครอบครัว แล้วจึงเข้านอน

Play pen (เพลย์ เพ็น) คือ คอกกั้นเด็ก หรือรั้วกั้นบริเวณที่เด็กเล่น มักจะใช้ในบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งเดินได้ เพื่อความปลอดภัย ให้เด็กเล่นในที่ที่จัดไว้ และไม่เดินเพ่นพ่านไปหยิบอะไรอันตราย หรือละสายตา
High chair (ไฮ แชร์) คือ เก้าอี้สูง สำหรับเด็กที่คอแข็ง และนั่งได้แล้ว จะฝึกเด็กให้นั่งทานอาหารบนโต๊ะพร้อมกันกับผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักทานอาหารตามเวลา และเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร ไม่เดินไปป้อนไป และเด็กก็จะสามารถไปร่วมโต๊ะในร้านอาหารกับผู้ใหญ่ได้ด้วย

Bumbo chair (บัมโบ้ แชร์) บัมโบ้คือชื่อยี่ห้อเก้าอี้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้หัดนั่งสำหรับทารก โดยจะวางเก้าอี้ที่พื้นแลจับทารกที่คอแข็งแล้วฝึกนั่ง ก่อนจะย้ายไปให้นั่งบนเก้าอี้สูง (High chair)

Baby gym (เบบี้จิม) คือเสื่อที่มีของเล่นห้อยแขวนไว้เหนือศีรษะทารก ช่วยฝึกพัฒนาการทางด้านสายตา การได้ยิน และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้ทารกได้ไขว่คว้า และเตะของเล่น ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี และได้เคลื่อนไหวร่างกาย
Lunch box (ลั้นช์ บ็อกซ์) คือ ข้าวกล่องที่เด็กๆ พกไปกินเป็นอาหารกลางวันที่โรงเรียน เพราะบางโรงเรียนจะไม่มีอาหารกลางวันให้ ออแพร์ก็จะมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารใส่กล่องแพ็คใส่กระเป๋าให้เด็กๆ โดยอาหารก็จะเป็นอาหารง่ายๆ เช่น พาสต้า แซนวิช ข้าวผัด ผลไม้ ชีส แครกเกอร์ น้ำผลไม้ นม เป็นต้น
Baby food / Solid food (เบบี้ฟู้ด หรือโซลิดฟู้ด) คืออาหารสำหรับทารกที่เริ่มทานอาหารอื่นๆ นอกจากนม โดยเริ่มจากอาหารเหลว เช่น โอ้ตมีล เบบี้ซีเรียลที่ลักษณะคล้ายๆ โจ๊ก ผลไม้ปั่น แล้วค่อยๆ เริ่มหยาบขึ้นๆ จนกระทั่งเป็นผัก ผลไม้ พาสต้า หรือเนื้อนิ่มๆ หั่นเป็นชิ้นๆ ให้เด็กสามารถหยิบเข้าปากด้วยตนเองได้ เรียกว่า Finger food (ฟิงเกอร์ฟู้ด) 
Bib (บิ๊บ) คือ ผ้ากั้นเปื้อนเด็ก 
ป้ายเบอร์ที่ติดที่อกเสื้อสำหรับนักวิ่งก็เรียกว่า Bib เช่นกัน

Pacifier (แพซิไฟเออะ) คือ จุกหลอกนั่นเอง เรียกสั้นๆว่า แพ้ซซี่ ก็ได้
White noise (ไวท์น้อยส์) แปลว่า เสียงสะอาด หมายถึงเสียงคลื่น หรือเสียงความถี่ต่ำที่ใช้เปิดกล่อมเด็กนอน ซึ่งช่วยว่าการให้เด็กฟัง White noise ตอนนอนจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา
Crib (คริป) คือ เตียงที่มีรั้วกั้นสำหรับเด็กเล็กๆ
Changing table / changing mat (เช้งกิ้ง เทเบิ้ล หรือ เช้งกิ้ง แม็ท) คือโต๊ะ หรือเบาะสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กเล็กๆ 

Monitor (มอนิเตอร์) คือกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ในบ้าน ส่วนใหญ่จะติดในห้องนอนเด็ก เพื่อดูว่าเด็กตื่นกลางคืนหรือเปล่า มีหลายแบบ บางชนิดสามารถดูผ่านมือถือได้
Stroller  (สโตรเลอร์) มาจากคำกริยา Stroll (สโตรล์) แปลว่า เดินทอดน่อง เดินเอื่อยๆ ชมนกชมไม้ ดังนั้น Stroller จึงหมายถึงรถเข็นเด็ก ไว้ให้เด็กนั่งเวลาพาเด็กทารกและเด็กเล็กออกไปเดินเล่น
Car seat (คาร์ซีท) คือ ที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก ซึ่งมีหลายแบบ ถ้าเป็นเด็กทารกและเด็กเล็กก็คือส่วนที่ถอดออกจาก Stroller ได้ แล้วมาวางบนที่นั่งด้านหลังของรถ โดยหันหน้าเข้าทีนั่งในรถ แต่ถ้าเป็นเด็กโตมาหน่อย จะมีลักษณะคล้ายเก้าอี้ติดอยู่กับรถ และหันหน้าออก
Rattle (แร้ทเทิ้ล) คือ เครื่องดนตรีเขย่า รวมถึงของเล่นเขย่าสำหรับเด็ก
Teething ring (ที๊ทติ้ง ริง) คือ ยางสำหรับให้ทารกกัด เพราะช่วงเวลาที่ฟันทารกกำลังจะขึ้น จะมีอาการคันและเจ็บเหงือก หมั่นเขี้ยว เรียกว่า Teething ต้องหารอะไรมากัด บางบริษัทจะผลิตแบบเป็นตุ๊กตายางน่ารักๆ หรือเป็นเจลที่สามารถแช่ตู้เย็นได้ ความเย็นจะช่วยบรรเทาความปวดของทารกได้



บทความที่เกี่ยวข้อง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น