วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

มาดู Au Pair Academy (Au Pair Care) ได้นอนโรงแรมหรู อยู่สบาย


https://www.youtube.com/watch?v=D6-AyiPRvZQ

          มาดูบรรยากาศปฐมนิเทศออแพร์สัปดาห์แรกที่ Au Pair Academy ที่จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐ New Jersey (ใกล้กับรัฐ New York) ของเอเจนซี่ Au Pair Care หรือบริษัทในไทยคือ American learning 

วันแรกที่บินมาถึงอเมริกา จะมีเจ้าหน้าที่มารับที่สนามบินและพาไปยังโรงแรมที่พัก เจ้าหน้าที่จะต้อนรับและอธิบายในเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการปฐมนิเทศตลอดเวลา 1 สัปดาห์ที่นี่ แล้วมอบกุญแจห้อง และเอกสารต่างๆ ให้ 

ห้องนอน จะนอนกับรูมเมทที่ทางเอเจนซี่จัดไว้ให้ อาหารสามมื้อฟรีที่โรงแรม การอบรมความรู้และทำกิจกรรมต่างๆ จะจัดขึ้นภายในห้องสัมมนาของโรงแรมตามตารางตั้งแต่ 8-17 น. โดยเนื้อหาที่เรียนประกอบด้วย

https://www.aupaircare.com/sites/default/files/documents/_DSC8087.jpg

  • การพรีเซ้นส์หรือนำเสนองาน Pre-Departure Orientation project ที่ออแพร์ทุกคนจะต้องทำมาจากประเทศตัวเอง เพื่อมานำเสนอเกี่ยวกับตัวเอง ประเทศของตัวเอง วัฒนธรรม และเป้าหมายของการเป็นออแพร์ รวมทั้งโฮสต์แฟมิลี่ของตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับเพื่อนออแพร์ทั่วโลก ซึ่งจะมีรางวัลสำหรับคนที่ทำชิ้นงานออกมาได้ดีด้วย
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/pre-departure.png?itok=2h281AeD

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhw_hsv4RcMhxeikfRgfsPSqYrSnEuEKHh3oXAy6R4YGORH4LnK20xb2-js7NoW6ILxSfeTfLuqM91zRmJpsn1aD4YfUyXIbz4rsW-KIX49pngwqZdhf53hSWZIrzL9a7qr0xIVyvLd9Z6B/s1600/15.jpg

  • อบรมเรื่องพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย ความปลอดภัย
  • วัฒนธรรมอเมริกัน การปรับตัว และการจัดการความเครียด
  • บทบาทหน้าที่ของออแพร์
  • ความปลอดภัยในการขับขี่ในอเมริกา
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/AuPairCare_Academy_Training.jpg?itok=AfdLoxar
  • การปฐมพยาบาลขั้นต้นและการกู้ชีพขั้นต้น (CPR)
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/aupair-academy-special.png?itok=crJZiFIb

  • พาไปเที่ยวในเมืองนิวยอร์ก (New York City Tour) ไปถ่ายรูปกับเทพีเสรีภาพ ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และลิ้มลองอาหารอเมริกัน

ตารางการอบรมปฐมนิเทศ
แบบหลักสูตรทั่วไป


แบบหลักสูตรเฉพาะเด็กทารก ซึ่งเพิ่มการนวดสัมผัสทารก และภาษามือสำหรับทารก (American sign language) ด้วย



ช่วงเวลาตอนเย็นแต่ละวันที่ว่างจากการอบรม สามารถพักผ่อนอยู่ภายในโรงแรม หรือออกไปเที่ยวยังสถานที่ใกล้เคียงได้ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำเส้นทางให้

หลังปฐมนิเทศจบ ก็ได้เวลา Say goodbye เพื่อนๆ เพราะทุกคนจะต้องแยกย้ายกันเดินทางต่อไปยังบ้านโฮสต์ตัวเอง บางคนที่อยู่ใกล้ก็รอโฮสต์มารับที่โรงแรม  

ชีวิตออแพร์จริงๆ จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้

ที่มา http://www.american-learning.com/wp-content/uploads/2015/08/Orientation.pdf


บทความที่เกี่ยวข้อง



วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ออแพร์ต้องรู้


https://www.youtube.com/watch?v=_xO065mp1qg

          เราได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่ออแพร์ต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลเด็ก เหมาะสำหรับว่าที่ออแพร์ไทยทุกคนที่กังวลว่าภาษาอังกฤษของตนเองยังไม่ค่อยดี ไม่เคยมีประสบการณ์ดูแลเด็กมาก่อน และเป็นประโยชน์ในการสัมภาษณ์กับเอเจนซี่และโฮสต์แฟมิลี่ด้วย



Host family (โฮสต์แฟมิลี่) แปลว่า ครอบครัวอุปถัมภ์ คือครอบครัวที่ออแพร์อาศัยอยู่ด้วย ประกอบด้วย
Host mom (โฮสต์มัม) คุณแม่, Host dad (โฮสต์แด๊ด) คุณพ่อ , และ Host kids (โฮสต์คิดส์) ลูกๆ หรือเด็กที่ออแพร์จะต้องดูแลนั่นเอง


Look after (ลุค อาฟเตอร์) มีความหมายว่า Take care (เทคแคร์) แปลว่า ดูแล นั่นเอง

Pick up (พิค อัพ) คือการไปรับ เช่น I'll pick you up from the school at 4PM. 
Drop off (ดร็อพ ออฟ) คือการไปส่ง
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของออแพร์เลยที่จะต้องไปรับ-ส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ

Nap (แน็พ) คือการงีบหลับ หรือการนอนกลางวันนั่นเอง เด็กๆ โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็กจะมีช่วงนอนกลางวัน ซึ่งทำให้ออแพร์ได้พักเหนื่อยบ้าง หรืออาจใช้เวลานี้ทำงานบ้านที่ค้างไว้


Play date (เพลย์ เดท) คือ การที่เด็กๆ วัยเดียวกันมาเล่นด้วยกัน 
Play pal (เพลย์ พาวล์) คือ เด็กวัยเดียวกัน หรือเพื่อนเล่น 
(ไม่ใช่แอพจ่ายเงินเพย์พาลว์นะจ๊ะ แม้จะสะกดเหมือนกันก็ตาม)

Play date เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กๆ ได้เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ช่วยเพิ่มทักษะทางสังคม และยังช่วยผ่อนแรงออแพร์ที่จะต้องวิ่งเล่นกับเด็กๆ ทั้งวันอีกด้วย 
ออแพร์จึงมักจะพาเด็กๆ ไป Play date ด้วยกัน เช่น ที่สวนสาธารณะ หรือบ้านของคนใดคนหนึ่ง แต่ทั้งนี้ต้องดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาด้วยนะ


High and Seek (ไฮด์ และซีค) คือ เกมเล่นซ่อนหานั่นเอง แปลตรงๆ ตัวเลย

Treats (ทรีทส์) หมายถึง ขนมหวานต่างๆ ลูกอม ช็อคโกแลต เค้ก ฯลฯ เหมือนกับคำว่า "Trick or treats" ที่พูดกันในวันฮาโลวีน ซึ่งแน่นอนว่าขนมหวานเป็นของโปรดของเด็กๆ ทุกคน ดังนั้นบางบ้านจะมีกฏในการให้ขนมเด็กๆ ออแพร์จะต้องถามเรื่องกฏนี้กับโฮสต์ด้วย เพื่อไม่ให้เด็กกินขนมหวานมากเกินไป

Time out (ไทม์ เอ้าท์) แปลว่า หมดเวลา ในที่นี้หมายถึง วิธีการลงโทษเด็กรูปแบบหนึ่งที่นิยมมากในอเมริกา และยุโรป เพราะว่าฝรั่งจะไม่ตีเด็กเด็ดขาด ถือว่าเป็นการทารุณกรรมเด็ก ผิดกฏหมาย

วิธีการ Time out  เมื่อเวลาเด็กๆ ทำผิดซ้ำๆ หลายครั้ง แม้ว่าจะมีการเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง ยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่ ก็จะจับเด็กมานั่งเก้าอี้ แล้วหันหน้าเข้ามุมห้อง หรือผนัง และจับเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาที จนถึงไม่กี่นาที (ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก) เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่ตัวเองได้ทำลงไป โดยระหว่างที่ทำ นี้จะต้องอยู่ในสายตาคนดูแล แต่จะไม่เข้าไปอยู่ใกล้ๆ ให้เด็กเห็น หรือว่าให้เห็น แต่จะไม่เข้าไปเล่น ไม่คุยด้วย จะอยู่เงียบๆ จนครบเวลา จึงเข้าไปพูดคุยว่าเด็กๆ เข้าใจที่ถูกทำโทษไหม รู้สึกอย่างไร และต่อไปจะไม่ทำอีก ประมาณนี้ เด็กก็จะเรียนรู้เหตุผล และรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองได้มากขึ้น


Go pee pee(โก พี๊ ผิ) เป็นคำที่ใช้กับเด็กๆ แปลว่า ไปฉี่ ถ้าเด็กโตหน่อยอาจจะใช้แค่คำว่า Go pee 
Go poo poo (โก พู๊ ผุ) แปลว่า ไปอึ เด็กโตใช้คำว่า Go poop ได้

Diaper (ไดเพอะ) แปลว่า ผ้าอ้อมเด็ก หรือแพมเพิสนั่นเอง


Diaper pail (ไดเพอะ เพล) หมายถึง ถังสำหรับทิ้งผ้าอ้อม 

Potty (พ้อตตี้) แปลว่า กระโถน 
เด็กเล็กๆ เมื่อถึงวัยที่ต้องเลิกใส่ผ้าอ้อม จะมีการฝึกให้นั่งกระโถน เรียกว่า Potty tain (พ้อตตี้ เทรน) เพื่อให้เด็กรู้จักบอกความต้องการของตัวเอง และช่วยเหลือตัวเอง

wee wee (วี๊ หวิ) ใช้เรียก จู๋ของเด็กผู้ชาย

Boo boo (บู๊ บู้) หมายถึง ได้รับบาดเจ็บ หรือบาดแผล เช่น เวลาเด็กหกล้ม เป็นต้น

Bed time (เบ้ด ไทม์) แปลว่า เวลาเข้านอน
ซึ่งบางบ้านก็จะฝึกเด็กให้มี Bed time routine หรือสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำก่อนนอน ตั้งแต่ อาบน้ำ กินนม แปรงฟัน อ่านหนังสือ (Story time) บอกราตรีสวัสดิ์คนในครอบครัว แล้วจึงเข้านอน

Play pen (เพลย์ เพ็น) คือ คอกกั้นเด็ก หรือรั้วกั้นบริเวณที่เด็กเล่น มักจะใช้ในบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งเดินได้ เพื่อความปลอดภัย ให้เด็กเล่นในที่ที่จัดไว้ และไม่เดินเพ่นพ่านไปหยิบอะไรอันตราย หรือละสายตา
High chair (ไฮ แชร์) คือ เก้าอี้สูง สำหรับเด็กที่คอแข็ง และนั่งได้แล้ว จะฝึกเด็กให้นั่งทานอาหารบนโต๊ะพร้อมกันกับผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักทานอาหารตามเวลา และเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร ไม่เดินไปป้อนไป และเด็กก็จะสามารถไปร่วมโต๊ะในร้านอาหารกับผู้ใหญ่ได้ด้วย

Bumbo chair (บัมโบ้ แชร์) บัมโบ้คือชื่อยี่ห้อเก้าอี้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้หัดนั่งสำหรับทารก โดยจะวางเก้าอี้ที่พื้นแลจับทารกที่คอแข็งแล้วฝึกนั่ง ก่อนจะย้ายไปให้นั่งบนเก้าอี้สูง (High chair)

Baby gym (เบบี้จิม) คือเสื่อที่มีของเล่นห้อยแขวนไว้เหนือศีรษะทารก ช่วยฝึกพัฒนาการทางด้านสายตา การได้ยิน และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้ทารกได้ไขว่คว้า และเตะของเล่น ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี และได้เคลื่อนไหวร่างกาย
Lunch box (ลั้นช์ บ็อกซ์) คือ ข้าวกล่องที่เด็กๆ พกไปกินเป็นอาหารกลางวันที่โรงเรียน เพราะบางโรงเรียนจะไม่มีอาหารกลางวันให้ ออแพร์ก็จะมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารใส่กล่องแพ็คใส่กระเป๋าให้เด็กๆ โดยอาหารก็จะเป็นอาหารง่ายๆ เช่น พาสต้า แซนวิช ข้าวผัด ผลไม้ ชีส แครกเกอร์ น้ำผลไม้ นม เป็นต้น
Baby food / Solid food (เบบี้ฟู้ด หรือโซลิดฟู้ด) คืออาหารสำหรับทารกที่เริ่มทานอาหารอื่นๆ นอกจากนม โดยเริ่มจากอาหารเหลว เช่น โอ้ตมีล เบบี้ซีเรียลที่ลักษณะคล้ายๆ โจ๊ก ผลไม้ปั่น แล้วค่อยๆ เริ่มหยาบขึ้นๆ จนกระทั่งเป็นผัก ผลไม้ พาสต้า หรือเนื้อนิ่มๆ หั่นเป็นชิ้นๆ ให้เด็กสามารถหยิบเข้าปากด้วยตนเองได้ เรียกว่า Finger food (ฟิงเกอร์ฟู้ด) 
Bib (บิ๊บ) คือ ผ้ากั้นเปื้อนเด็ก 
ป้ายเบอร์ที่ติดที่อกเสื้อสำหรับนักวิ่งก็เรียกว่า Bib เช่นกัน

Pacifier (แพซิไฟเออะ) คือ จุกหลอกนั่นเอง เรียกสั้นๆว่า แพ้ซซี่ ก็ได้
White noise (ไวท์น้อยส์) แปลว่า เสียงสะอาด หมายถึงเสียงคลื่น หรือเสียงความถี่ต่ำที่ใช้เปิดกล่อมเด็กนอน ซึ่งช่วยว่าการให้เด็กฟัง White noise ตอนนอนจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา
Crib (คริป) คือ เตียงที่มีรั้วกั้นสำหรับเด็กเล็กๆ
Changing table / changing mat (เช้งกิ้ง เทเบิ้ล หรือ เช้งกิ้ง แม็ท) คือโต๊ะ หรือเบาะสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กเล็กๆ 

Monitor (มอนิเตอร์) คือกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ในบ้าน ส่วนใหญ่จะติดในห้องนอนเด็ก เพื่อดูว่าเด็กตื่นกลางคืนหรือเปล่า มีหลายแบบ บางชนิดสามารถดูผ่านมือถือได้
Stroller  (สโตรเลอร์) มาจากคำกริยา Stroll (สโตรล์) แปลว่า เดินทอดน่อง เดินเอื่อยๆ ชมนกชมไม้ ดังนั้น Stroller จึงหมายถึงรถเข็นเด็ก ไว้ให้เด็กนั่งเวลาพาเด็กทารกและเด็กเล็กออกไปเดินเล่น
Car seat (คาร์ซีท) คือ ที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก ซึ่งมีหลายแบบ ถ้าเป็นเด็กทารกและเด็กเล็กก็คือส่วนที่ถอดออกจาก Stroller ได้ แล้วมาวางบนที่นั่งด้านหลังของรถ โดยหันหน้าเข้าทีนั่งในรถ แต่ถ้าเป็นเด็กโตมาหน่อย จะมีลักษณะคล้ายเก้าอี้ติดอยู่กับรถ และหันหน้าออก
Rattle (แร้ทเทิ้ล) คือ เครื่องดนตรีเขย่า รวมถึงของเล่นเขย่าสำหรับเด็ก
Teething ring (ที๊ทติ้ง ริง) คือ ยางสำหรับให้ทารกกัด เพราะช่วงเวลาที่ฟันทารกกำลังจะขึ้น จะมีอาการคันและเจ็บเหงือก หมั่นเขี้ยว เรียกว่า Teething ต้องหารอะไรมากัด บางบริษัทจะผลิตแบบเป็นตุ๊กตายางน่ารักๆ หรือเป็นเจลที่สามารถแช่ตู้เย็นได้ ความเย็นจะช่วยบรรเทาความปวดของทารกได้



บทความที่เกี่ยวข้อง




วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

1st week ของการเป็นออแพร์ในอเมริกา กับบรรยากาศใน Training school (Culturalcare Au Pair)

          เอเจนซี่ใหญ่ๆ จะมีการปฐมนิเทศเพื่ออบรมความรู้และเตรียมความพร้อมให้ออแพร์ในสัปดาห์แรกที่บินไปถึงอเมริกา ในโรงเรียนที่เรียกว่า "Au Pair Trainig School" หรือ "Au Pair Academy" ซึ่งอาจจะยืมสถานที่จากมหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนภาษา หรือโรงแรมแล้วแต่เอเจนซี่ (แต่ละเอเจ้นซี่ไม่เกี่ยวข้องกันนะคะ บางคนเข้าใจว่าทุกเอเจ้นซี่จะไปเจอกันที่ Training school เดียวกัน) โดยส่วนใหญ่จะจัดที่รัฐ New York ซึ่งแน่นอนว่า ออแพร์ก็จะได้ไปทัวร์นิวยอร์กซิตี้ด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางไปยังบ้านโฮสต์แฟมิลี่ แตบางเอเจ้นซี่อาจจะมีเพียงการสัมมนาทำ workshop เตรียมความพร้อมในไทยเท่านั้น แล้วบินไปบ้านโฮสต์เลย

https://youtu.be/FXyyME2Wrv8
July 2019

ในคลิปเป็นตัวอย่างของเอเจนซี่ "Culturalcare aupair" ออแพร์ทุกคนจะได้รับการปฐมนิเทศที่ Training school ในเมือง Terry town รัฐนิวยอร์ก โดยอาศัยพื้นที่ของมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนสอนภาษา EF Education เป็นสถานที่อบรมและอาศัย ก็จะได้บรรยากาศความเป็นนักเรียนประจำกินนอนและเรียนอยู่ที่นี่ตลอด 4 วัน ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่สำคัญมากๆ ในการสร้าง Connection กับเพื่อนใหม่ที่มาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ยิ่งรู้จักคนเยอะยิ่งดี เพราะนอกจากจะได้ฝึกภาษาอังกฤษและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันแล้ว เวลาเวเคชั่นเผื่อเราไปเที่ยวรัฐอื่นๆ จะได้ไปพักบ้านโฮสต์ของเพื่อนฟรี ประหยัดค่าที่พักไปได้มากๆเลย

✈️ สำหรับออแพร์ไทยส่วนใหญ่จะเริ่มออกเดินทางจากเมืองไทยวันอาทิตย์ และไปถึงที่อเมริกาวันอาทิตย์ (เพราะเวลาที่นั่นช้ากว่าไทย) แล้วเริ่มอบรมตั้งแต่วันจันทร์ ไฟลท์บินรวมระยะเวลาทั้งหมดเกือบ24ชม รวมเวลาต่อเครื่อง ยาวๆ ไป จะไปต่อเครื่องที่ไหนอยู่ที่สายการบินที่บินมา ของเราได้ไปต่อเครื่องที่โดฮา ประเทศกาตาร์ เราก็กินๆ นอนๆ ดูหนังจบไปหลายเรื่องก็ยังไม่ถึงสักที นั่งจนเส้นยึด 😆 แถมบินกลางคืนแต่ดันเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง มองอะไรไม่เห็นเลยจ้ะแม่ ลุกออกมาเข้าห้องน้ำลำบากอีก เข็ดเลย

https://secureservercdn.net/166.62.115.136/44c.8b7.myftpupload.com/wp-content/uploads/2019/01/AuPairSchoolDates-2019.jpg
ตารางวันบินมาอบรมปฐมนิเทศออแพร์ของ Cultureal care au pair ปี 2019


🚐เมื่อมาถึงสนามบินในนิวยอร์ก ก็จะมีจนท.จากculturalcare มารับ ยกกระเป๋าขึ้นรถ รถจะคล้ายๆรถตู้ผสมรสบัส แล้วพาไปยัง training school ตอนนี้ตื่นเต้นกับบรรยากาศ2ข้างทางมากๆ ฉันได้มาเหยียบอเมริกาแล้วว 😄

https://rebeccamaude.weebly.com/au-pair-year-photos.html

🏫ไปถึงโรงเรียนจะมีจนท.👩🏼มาต้อนรับ พูดคุย และอธิบายว่าเราจะทำอะไรกันบ้างในระยะเวลา4วันที่อยู่โรงเรียน ตึกเรียนอยู่ไหน โรงอาหารไปทางไหน ห้องนอนอยู่ไหน ซึ่งจนท.ใจดีและพยายามพูดภาษาอังกฤษแบบชัดและช้ามากๆ แล้วทุกคนก็ได้รับแจกบัตรประจำตัว กุญแจ และเอกสารต่างๆที่จำเป็นก่อนแยกย้ายกันไปเก็บของและพักผ่อนในห้อง

เข้าห้องมาปุ๊บ มีของเซอร์ไพรส์จากโฮสต์วางอยู่บนโต๊ะ เป็นกระเป๋าเสื้อผ้า และตั๋วทัวร์นิวยอร์ก


ห้องนอนของเราจะแบ่งกันอยู่กับรูมเมท ใครอยู่รัฐเดียวกันจะนอนด้วยกัน มีทั้งแบบห้อง 2 คน - 6 คน เตียงเป็นเตียงสองชั้นเหมือนในหอพักนักเรียน มีห้องน้ำในตัว มีผ้าขนหนูให้ นี่เป็นประสบการณ์แปลกประหลาดของเรามากๆ ในการที่ไม่มีที่ฉีดก้น แล้วใช้ทิชชู่เช็ดเสร็จทิ้งลงชักโครกเลย แล้วก็อาบน้ำน้อยมาก วันละครั้ง เด็กไทยทุกคนถูกปลูกฝังมาว่าควรอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดี พอมาอยู่นี่อาบ 2 ครั้งกลายเป็นตัวประหลาดไปเลย 😅 หลังๆ ก็อาบวันละครั้งพอ เพราะหนาวววว

พอเก็บของเสร็จ ออแพร์ส่วนใหญ่ก็จะออกมาเดินถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ส่วนเรากับเพื่อนเดินไปไกลถึงร้านค้าข้างนอกเลย

http://adonovan.aupairnews.com/files/2010/06/stj1.jpeg

Cultural care จะมีโครงการ "Au pair ambassador" ด้วย พูดง่ายๆ คือคล้ายๆกับ ยุวทูตออแพร์ หรือบัดดี้ ซึ่งเป็นออแพร์ที่เดินทางมาอยู่ในอเมริกาก่อนสักระยะนึงแล้วสมัครเป็นตัวแทนที่คอยให้ความช่วยเหลือออแพร์ใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาถึงอเมริกา ในเรื่องการปรับตัว และตอบปัญหาข้อสงสัยต่างๆ รวมทั้งถ่ายรูปหรือโพสต์เรื่องราวชีวิตออแพร์ในอเมริกาเพื่อประชาสัมพันธ์ Cultural care au pair อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งออแพร์อาจจะไม่ได้มีบัดดี้ทุกคน เพราะเราก็ไม่มี แต่เพื่อนเรามี


โรงอาหารที่โรงเรียน (cafeteria) จะให้บรรยากาศเหมือนในหนังฝรั่งเลย จะใหญ่มาก อาหาร 3 มื้อฟรีหมด เติมได้ไม่อั้น

 
🥐🥓🍎อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ พวกขนมปังชนิดต่างๆ มัฟฟิน แยม พีนัทบัตเตอร์ นูเทลล่า ซีเรียล ซุปต่างๆ โยเกิร์ต นม ชีส ผลไม้ ไข่ต้ม ฯลฯ เหมือนเดิมทุกวัน



 





🍛🍗อาหารกลางวันและเย็นจะเป็นร้านๆ ให้เลือกหลายเมนู เป็นอาหารนานาชาติทั้งฝรั่ง อินเดีย ไทย สเปน หมุนเวียนปะปนไป มีแม่ครัวตักให้ และมีสลัดบาร์ ออแพร์สามารถเขียนรีเควสเมนูอาหารให้แม่ครัว👨🏻‍🍳ทำให้ได้ด้วย อาหารเย็นบางวันจะมีพิซซ่าให้ เพราะ 🍕New York pizza คือของขึ้นชื่อของนิวยอร์กเลย

https://image.slidesharecdn.com/prsentation1-130414105220-phpapp02/95/cultural-care-au-pair-training-school-6-638.jpg?cb=1365936780

บางคนเห็นรูปแล้วอาจจะรู้สึกว่าอาหารไม่มีอะไรน่ากินเลย จริงค่ะ เห็นด้วย มาแรกๆ คืออาหารให้เลือกเยอะมากกกก แต่ไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย ไม่มีอะไรอร่อยเลย เหมือนเรายังไม่คุ้นเคยกับอาหารฝรั่ง ตื่นเช้ามาก็ขนมปังๆ อาหารกลางวันและเย็นก็ไม่มีอะไรแซ่บๆ เผ็ดๆ เหมือนที่ไทย กินได้ 2 วันเริ่ม Home sick คิดถึง 🍜มาม่าที่ไทย เพื่อนเราต้องกลับห้องไปเอามาม่าต้มยำกุ้งที่พกมามาต้มกินแก้อยาก แต่อยู่อเมริกาไปสักพักก็จะเริ่ม Enjoy eating น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวกันเกือบทุกคน 😂

ลืมบอกว่ามาถึงที่อเมริกาแล้ว จะต้องกรอกใบต.ม.ออนไลน์ โดยจนท.ที่โรงเรียนจะแนะนำวิธีการกรอกให้โดยใช้โทรศัพท์มือถือตัวเอง (มีอินเตอร์เน็ตไวไฟ) หรือคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนได้เลย
อ่านเพิ่มเติม เอกสารที่ต้องทำเมื่อถึงอเมริกา
มาที่คลาสเรียนกันบ้าง จะมีทั้งคลาสกลุ่มย่อย ซึ่งต้องจำให้ดีว่าเราอยู่กลุ่มไหน เรียนห้องไหน และคลาสแบบรวมซึ่งเรียนที่ห้องประชุมใหญ่ โดยเรียนตั้ง่วันจันทร์-วันพฤหัส

https://www.slideshare.net/ststangl/cultural-care-au-pair-training-school

เอกสารประกอบการเรียน

เนื้อหาที่เรียนจะเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
  •  ออแพร์คืออะไร กฏของออแพร์ บทบาทหน้าที่ของออแพร์
  • พัฒนาการและโภชนาการของเด็กแต่ละวัย
  • วิธีการเลี้ยงดูเด็กของครอบครัวอเมริกันและการจัดการกับพฤติกรรมเด็ก
  •  ปัญหาที่พบระหว่างการเป็นออแพร์ และวิธีแก้ไข (Conflict & Resolution) รวมทั้งกรณีศึกษา (case study) วิธีการจัดการกับความเครียด และวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโฮสแฟมิลี่
  •  ทักษะการสื่อสารและแก้ปัญหา (Communication skill) 
  •  วัฒนธรรมอเมริกัน (American culture & cultural shock)
  •  ข้อควรระวัง กฏจราจร และความปลอดภัยต่างๆ🚗

  •  🏥การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการกู้ชีพขั้นต้น (CPR) ซึ่งทุกคนจะได้ฝึกซ้อมกับหุ่นจริงๆ โดยมีจนท.สอนที่มาจาก American red crossโดยตรงเลย ได้รับเกียรติบัตร (PDF file) หลังจบการปฐมนิเทศด้วย มีอายุ 2 ปี
  • ร่วมสนุกกับ 🍬 Candy picnic นานาชาติ🍭โดยออแพร์แต่ละคนจะนำลูกอมจากประเทศตัวเองมาแชร์กัน แนะนำให้พกกระเป๋าไปใส่55 ส่วนใหญ่ออแพร์ยุโรปจะเอาช็อตโกแลตมา ซึ่งอร่อยมากกกก บางคนก็จะเอาลูกอมเปรี้ยวจี๊ด ผลไม้กวน กาละแมร์ ถั่ว หรือแม้แต่ขนมหวานที่ไม่ใช่ลูกอม ชิมกันเพลิน 
  •  🏙และจะมี 1 วันที่พาเข้าเมืองไปเที่ยวใน New York City เมืองที่ไม่เคยหลับใหลและคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไปถ่ายรูป🗽เทพีเสรีภาพ 🛍ช้อปปิ้ง ขึ้นตึกไปดูวิวต่างๆ ได้ตามใจ ทำตัวเป็น New Yorker สักวัน พอถึงเวลาก็ไปเจอกันที่จุดที่นัดหมาย
https://images.contentful.com/dae87kefnvx7/4lcJn8b3AsmGWEOCaAYaIQ/6369f55dcdca840014be0b6319db82b2/classroom.jpg

ตอนเรียนรู้สึกฟังไรแทบไม่ออกเลย ออแพร์ยุโรปก็พูดภาษาอังกฤษกันไฟแล่บ แต่ออแพร์ต่างชาติที่ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆเหมือนเราก็มี ครูที่สอนก็เข้าใจ พยายามพูดช้าๆ และอธิบายให้เราเข้าใจ ทำท่าทางประกอบ ก็ไม่ต้องซีเรียสไป พยายามจำคำศัพท์ เปิดดิกชันนารี่ หรือถามเพื่อนเอา เค้าให้ทำอะไรก็ทำไป พยายามพูด พยายามร่วมกิจกรรม ผิดถูกไม่เป็นไร ต้องกล้าแสดงออก แล้วก็พยายามเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย และกรณีศึกษาต่างๆ เพราะเป็นเรื่องอันตรายที่เกิดขึ้นจริง เราต้องระวังไว้


แล้วเวลา 1 สัปดาห์ใน Training school ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึก รุ่นเรามาหลายสิบคนเลย

แล้ววันศุกร์ก็เป็นวันเดินทางจาก training school ไปยังบ้านโฮสท์แต่ละคน ใครที่อยู่ต่างรัฐก็จะมีรถไปส่งที่สนามบิน✈️ ส่วนใครที่อยู่นิวยอร์ก รถก็จะไปส่งที่สถานีรถไฟ 🚉หรือรอโฮสมารับที่โรงเรียน🚘

https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/30705233_1052717181536379_3422953325614596096_o.jpg?_nc_cat=109&_nc_oc=AQn6pMVkGVHf87VKYK-cDW9gtu7FByXg1fGCa_16t9eMi7I3Co98BHr17iiDzHJZuSg&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.fna&oh=c98a837fe7535d6a20e9ea1357660cf1&oe=5E21C0E0

เป็นช่วงเวลาร่ำลาเพื่อนๆ ประเทศต่างๆ แอดเองไฟลท์บินตอนบ่ายๆ รอเวลารถไปส่งที่สนามบินอยู่ที่ร.ร.ก็นั่งรอเป็นเพื่อนคนที่รอโฮสมารับ ตื่นเต้นมาก ลุ้นว่าโฮสของเพื่อนคนนี้ๆจะมาเมื่อไร จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ โฮสบางบ้านก็มาทั้งครอบครัวเลย👨‍👩‍👧 อุ้มลูกจูงหมามา 🐶มีป้ายต้อนรับ มีลูกโป่ง ช่อดอกไม้💐

ของแอดโฮสแด๊ดมารับที่สนามบินในฟลอริด้าคนเดียว ไม่มีอะไรมาเลย แต่พาไปซื้ออาหารไทยก่อนกลับไปดินเนอร์กันที่บ้าน หรือบางบ้านจะมีของต้อนรับอยู่ที่บ้านหรือห้องนอนออแพร์ แต่ถ้าใครไม่ได้อะไรก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ สิ่งของพวกนี้ไม่สำคัญเท่ากับการที่โฮสต์ดีกับเราและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข 💗

ของต้อนรับจากโฮสต์บ้านที่สอง

ปล.รูปภาพและวิดีโอมาจากอินเทอร์เน็ตเกือบทั้งหมดนะคะ ใส่เครดิตไว้ใต้ภาพแล้ว เพราะมือถือเราเมมเต็ม ตอนนั้นเลยลบรูปออกไปหมด เหลือรูปสุดท้ายรูปเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่


เว็บนี้รีวิวบรรยากาศ Training school ของ CC ได้น่าติดตามทีเดียว https://minimore.com/b/ze5x2/2


บทความที่เกี่ยวข้อง