วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

สัมภาษณ์กับโฮสต์แฟมิลี (Au Pair Interview)

หลังจากออนไลน์โปรไฟล์หรือใบสมัครแล้ว สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่ตามมาคือ การสัมภาษณ์กับโฮสต์แฟมิลี่ ซึ่งจะมีทั้งคุยกันผ่านทางอิเมล์และSkype และบางคนอาจได้รับโทรศัพท์จากโฮสต์แฟมิลีด้วย

สำหรับคนที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง แล้วยังคุยไม่เก่งแบบเรา ก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากหาตัวอย่างคำถามทางอินเทอร์เน็ตแล้วก็ลองซ้อมๆ ตอบคำถามดู จำได้ว่าตอนที่โฮสต์แฟมิลีบ้านแรกติดต่อมาคือยังไม่ทันเตรียมตัวเลย ตื่นเต้นสุดๆ แต่โฮสต์เป็นอเมริกันแท้มาจากฟิลาเดลเฟีย สำเนียงฟังง่าย ยิ่งโฮสต์ที่อยู่นิวยอร์กอะไรแถบนั้น คือพูดชัดมาก แต่บางบ้านก็มาแบบพ่นไฟแล่บ และปนสำเนียงภาษาอื่นๆ ด้วย จนฟังไม่รู้เรื่อง (อเมริกากว้างใหญ่และมีหลากหลายเชื้อชาติมากๆๆๆๆ) แม้ว่าจะบอกให้เขาช่วยพูดช้าๆ ชัดๆ ดังขึ้นหน่อย ก็ยังฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี จนต้องขอให้ช่วยรบกวนพิมพ์ในช่องแชทให้อ่านแทน ก็เลยพอตอบคำถามได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นที่ประทับใจโฮสต์ เพราะขณะคุยสไกป์กันนั้น ช่วงที่ฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือรู้เรื่องแต่ไม่รู้จะตอบว่ายังไง จนบางทีเงียบนานไป หรือให้โฮสต์พูดซ้ำหลายรอบ จนเขาอาจคิดว่าถ้าได้เราไปเป็นออแพร์ต้องไม่ไหวแน่เลย เพราะการสื่อสารภาษาอังกฤษสำคัญในการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมากๆ ถึงแม้ว่าเราจะไปเลี้ยงเบบี๋ก็เถอะ แล้วก็ไม่รู้จะถามอะไรโฮสต์ด้วย นึกคำถามไม่ออก ทั้งๆที่ในใจอยากรู้หลายเรื่องๆมาก แต่ก็ได้แต่บอกโฮสต์ไปว่าตอนนี้ยังไม่มี ถ้ามีจะถามในเมล์หรือสไกป์กันคราวหน้านะ ฮือๆ หลังจากที่เฟลมาหลายรอบก็เลยคิดว่าต้องพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่านี้ จึงรวบรวมคำถามมาทั้งจากอินเทอร์เน็ตและคำถามที่เคยโดนถามที่ผ่านๆมา ลองเขียนคำตอบ แล้วฝึกซ้อมพูดๆ อยู่คนเดียวจนคล่องปาก

คำแนะนำเมื่อต้องสัมภาษณ์กับโฮสต์แฟมิลี

โฮสต์แฟมิลี่ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการคุยกับเราทางอิเมล์ก่อน แล้วจึงนัดแนะเวลากันสัมภาษณ์ทางSkype และมักจะมาคุยสไกป์กับเราทั้งครอบครัว หรือเฉพาะโฮสต์พ่อกับแม่ เรามีข้อแนะนำมาฝากเล็กๆ น้อยๆ ดังนี้
  1. เรื่องเวลา นัดแนะเวลากันให้ดี ตรงต่อเวลา เพราะอเมริกากว้างใหญ่มาก มีหลายtime zone คงไม่เป็นที่ประทับใจแน่หากออแพร์ผิดนัดหรือปล่อยให้โฮสต์รอสัมภาษณ์ และควรแสดงความตื่นเต้นดีใจให้เขารับรู้ เช็คเวลาได้จากมือถือ Iphone ก็ได้ง่ายๆ



    (เวลาในอเมริกาช้ากว่าไทย และมีการปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น/ช้าลงปีละ 2 ครั้ง เช่น NY เวลาต่างจากไทย 11 ชั่วโมงในฤดูใบไม้ผลิ แต่ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมงในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น)

  2. หาสถานที่คุยสไกป์ที่เงียบสงบ มีแสงสว่างให้โฮสต์เห็นหน้าเราชัดๆ ฉากหลังควรเป็นระเบียบเรียบร้อย และแต่งกายให้สุภาพ ไม่ควรเคี้ยวอาหารขณะสัมภาษณ์กับโฮสต์ นั่งด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผยแต่ไม่เกร็งจนฝืน เพื่อสร้างความประทับใจแรกพบ ที่สำคัญอย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์โดยเฉพาะหูฟังให้พร้อม เพื่อให้การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างราบรื่น
  3. ควรเริ่มต้นด้วยการทักทาย ถามคำถามทั่วไป เช่น how are you? และแนะนำตัวสั้นๆ ก่อน
  4. พูดให้เสียงดังฟังชัด พูดช้าไม่เป็นไร ตอบช้าไม่เป็นไร แต่ไม่ควรเงียบนาน หรือบอกเค้าก่อนว่าเราไม่เก่งภาษาอังกฤษนะ อาจตอบช้านิดนึง
  5. ควรเน้นคำถามเกี่ยวกับการดูแลเด็กๆ ให้มากๆ โดยเฉพาะตารางงาน ลักษณะนิสัยใจคอเด็กๆ กิจกรรมรอบครัว และข้อมูลทั่วไปของโฮสต์พ่อและแม่ เช่นทำงานอะไร ออกจากบ้าน กลับบ้านกี่โมง วันหยุดชอบทำอะไร เพราะแสดงให้เห็นว่าเราสนใจครอบครัวเขาจริงๆ และเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถไปอยู่กับครอบครัวที่ไลฟ์สไตล์แบบนั้นๆได้จริง
  6. ถ้าเด็กโตแล้วก็ขอคุยกับเด็กได้
  7. พยายามเป็นตัวของตัวเอง ผ่อนคลาย ยิ้มมากๆ อาจชวนคุยเรื่องทั่วไป ดินฟ้าอากาศ ความสนใจที่มีร่วมกัน เช่น โฮสต์บอกว่าชอบดูการ์ตูนกับรายการร้องเพลงเหมือนเรา เราก็บอกไปว่าฉันก็ชอบเหมือนกัน คุณดูรายการ.........นี้ไหม? หรือฉันเป็นแฟนคลับการ์ตูนเรื่อง..............นี้นะ เพื่อให้บรรยากาศไม่เป็นทางการหรือตึงเครียดไร้ชีวิตชีวาจนเกินไป
         **เพิ่มเติม** สำหรับโฮสต์ที่มีเด็กเล็กที่พูดคุยได้แล้ว มีเพื่อนออแพร์แชร์ไอเดียเอาชนะใจเด็กๆได้ไม่ยาก ใส่ความแบ๊วไปนิดนึง โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ขณะคุยสไกป์โชว์ตุ๊กตาหรือของเล่น และเล่นกับเด็กไปด้วย อาจพากย์เสียงตุ๊กตาหรือเล่นจ๊ะเอ๋ หรือคุยเรื่องตัวการ์ตูน เจ้าหญิง อะไรที่เด็กชอบ บางครั้งแค่การพูดคุยหยอกเล่นกับเด็ก เช่น เด็กชอบกินซีเรียล ป้อนซีเรียลฉันบ้างได้ไหม แล้วทำท่าอ้าปากอ้ำ แค่นี้ก็ทำให้โฮสต์ประทับใจและเด็กๆหลงคุณได้แล้ว
  8. พยายามขายข้อดีของตัวเอง แต่ขอให้ซื่อสัตย์พูดความจริง
  9. เราสามารถขอให้โฮสต์พาดูห้องนอนออแพร์หรือบริเวณบ้านได้นะ
  10. เราเคยเจอโฮสต์ถามคำถามซ้ำๆ ทั้งที่เราเขียนบอกในโปรไฟล์เราละเอียดแล้ว แต่เขาก็ยังถามแล้วให้เหตุผลว่า ถามอีกครั้งเพื่อให้ชัวร์ เช่นกัน เราก็สามารถถามโฮสต์ซ้ำได้ถึงแม้ว่าเขาจะเขียนในโปรไฟล์อย่างละเอียดแล้วก็ตาม เพื่อความมั่นใจ เพราะโฮสต์บางคนก็ตอบไม่ตรงกับที่เขียนในโปรไฟล์นะ แต่ควรจำข้อมูลพื้นฐานของโฮสต์ได้ 
  11. ถ้าโฮสต์เคยมีออแพร์หรือพี่เลี้ยงมาก่อน ควรขอคุยกับเขาด้วย
  12. ขอบคุณทุกครั้งหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ เรามักจะให้เวลาตัวเองนอนคิดสัก1คืนดูว่าเราชอบครอบครัวนี้จริงๆ ไหม อยากแมตช์เลยหรือเปล่า หรือจะkeep in touchไปเรื่อยๆ ก่อน แล้วเราก็จะส่งอิเมล์ไปขอบคุณโฮสต์แฟมิลี่ที่สนใจและสละเวลาคุยกับเรา รวมทั้งบอกความรู้สึกของเราหลังคุยด้วย หากรู้สึกชอบครอบครัวนั้นจริงๆ แต่ติดบางอย่าง เช่น เวลาในการเดินทาง หรือตารางงาน ให้ลองต่อรองดูก่อนว่าจะได้ไหมค่อยตัดสินใจแมตช์หรือปฏิเสธ

ตัวอย่างคำถามที่รวบรวมมา

💙เราควรถามโฮสต์ว่าอะไรบ้าง? 💙

    1. What type of Au Pair are you looking for?
    2. What will be your Au Pair's duties and responsibilities?
    3. If the family have a child with special needs, are there any additional duties or responsibilities that Au Pair will have regarding this child?
    4. What additional household duties do you wish the Au Pair to perform?
    5. Do you observe any religious dietary laws or have any dietary restrictions/preference that the Au Pair must follow while in your home?
    6. If the host family expect Au Pair to drive, what are the driving duties required?
    7. If there are pets in the home, will the nanny be required to care for them?
    8. Can you please describe a worst-day scenario in your home?
    9. How would you describe your parenting style?
    10. How do you typically interact and communicate with your children?
    11. Are you looking for someone to replicate your style completely, partner with you fifty-fifty in terms of style, or bring her own style and approach?
    12. Are there any specific positions on childrearing that you would like your Au Pai to have or not have?
    13. Have you ever employed a childcare provider before?
    14. Are there any practices or behaviors that are Deal-Breakers for you?
    15. What are your child's current developmental needs?
    16. How can you describe the caregiver personality best suited to your child?
    17. If your child is older, how does he or she feel about having an Au Pair?
    18. What activities does your child like to do?
    19. What toys does your child like to play with?
    20. How can the Au Pair best engag your child? How can the Au Pair encourage interaction?
    21. Are the certain things that the nanny should not do or say to your children?
    22. What is the child's daily routine? 
    23. Does your child have any chores or daily responsibilitues?
    24. What is the best way to resolve the conflict for your children?
    25. Under what circumstances should the nanny use a time-out?

💜คำถามที่โฮสต์จะถามเรา💜

    1. ทำไมอยากเป็นออแพร์
    2. อธิบายบุคลิกภาพของเรา 
    3. อธิบายกิจวัตรประจำวัน
    4. กิจกรรมยามว่างชอบทำอะไร
    5. ประเภทของอาหารที่ทำ
    6. อธิบายประสบการณ์ดูแลเด็ก
    7. กิจกรรมที่ชอบทำกับเด็ก
    8. ประสบการณ์ที่ดี และไม่ดีเกี่ยวกับเด็ก
    9. เหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดกับเด็กที่เคยเจอคืออะไร และเราทำอย่างไร
    10. ถ้าเด็กไม่ยอมกินข้าว อยากกินแต่ขนมจะทำอย่างไร
    11. ถ้าเด็กทารกร้องไห้จะทำอย่างไร
    12. คุณคาดหวังกับโฮสต์แฟมิลี่แบบไหน
    13. จบโครงการแล้วจะทำอะไรต่อ
    14. อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการเลี้ยงเด็กวัยนี้
    15. คาดหวังโฮสต์แฟมิลี่แบบไหน อะไรคือ Part of family ในความคิดของคุณ
  • สำหรับคนที่รีแมทช์ จะต้องถูกถามว่า ทำไมถึงรีแมทช์?
  • สำหรับคนที่ต่อปีสองกับบ้านใหม่
    1. ทำไมถึงไม่ต่อบ้านเดิม
    2. ตอนนี้อยู่ที่ไหน
    3. ขับรถได้ไหม มีใบขับขี่ของอเมริกาไหม เคยมีอุบัติเหตุหรือเปล่า
    4. เล่าหน้าที่รับผิดชอบให้ฟังหน่อย
    5. เล่าเกี่ยวกับโฮสต์ปัจจุบัน
    6. อะไรคือประสบการณ์ที่ดี / ชอบในการเป็นออแพร์ปีแรก
    7. อะไรคือประสบการณ์ที่ไม่ดี / สิ่งที่ยากในการเป็นออแพร์ปีแรก
    8. ขอคุยกับโฮสต์ปัจจุบันได้ไหม
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน และขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์ค่ะ




แหล่งอ้างอิง http://www.thaiaupairclub.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538689645\


2 ความคิดเห็น:

  1. จอบคุณมากๆเลยนะคะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังออนไลน์ และไม่เก่งภาษาอังกฤษอย่างเรามากเลยค่ะ

    ตอบลบ