อยากไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาต้องใช้งบเท่าไร

"ออแพร์ในอเมริกา" อีกหนึ่งโครงการดีๆ เพื่อสานฝันคนที่อยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ด้วยงบไม่ถึงแสน!!

มีน้องๆ ทักเข้ามาถามเยอะมากว่า อยากไปเป็นออแพร์ในอเมริกาต้องมีงบเท่าไร

โดยประมาณ 50,000 - 60,000 บาท (อาจมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้แล้วคน) ประกอบด้วย

1. ค่าสมัครและค่าดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่ช่วยแนะนำในเรื่องการเตรียมตัว การอบรมสัมมนา workshop ต่างๆ ค่าใบสมัคร และค่าออนไลน์โปรไฟล์ จนกระทั่งได้แมตช์ และเดินทางไปอเมริกา จนกระทั่งจบโครงการ  ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะจ่ายให้เอเจ้นซี่ ประมาณ 35,000 - 50,000 บาท

* ให้สมัครกับเอเจนซี่ที่ผ่านการรับรองโดยรัฐบาลอเมริกาเท่านั้น อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างว่าเป็นโฮสต์กำลังหาออแพร์ หรือบุคคลที่อ้างว่าสามารถทำเรื่องเป็นออแพร์ในอเมริกาได้โดยไม่ผ่านเอเจนซี่   ตรวจสอบรายชื่อเอเจนซี่ได้ที่นี่

2. ค่าทำวีซ่า J-1 จ่ายให้สถานทูตอเมริกา ประมาณ 5,000 - 5,500 บาท ($160 ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินในขณะนั้น)

3. ค่าตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน ราคาประมาณ 600 - 2,000 บาท แล้วแต่ว่าจะไปตรวจที่รพ.ไหน โดยใช้แบบฟอร์มตรวจสุขภาพของเอเจนซี่ และใบรับรองสุขภาพมีอายุไม่เกิน 2-3 เดือนก่อนเดินทาง

4.  ค่าใบรับรองประวัติอาชญากรรม โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 100 บาท

5. ค่าทำใบขับขี่ โดยสำนักงานขนส่ง ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของใบขับขี่

• ใบขับขี่รถยนต์ 2 ปี ราคา 205 บาท
• ใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี ราคา 505 บาท
• ใบขับขี่สากล ราคา 505 บาท
• ใบรับรองใบขับขี่รถยนต์ภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่เพิ่งมีใบขับขี่มาไม่ถึง 1 ปี (ไม่สามารถทำใบขับขี่สากลได้) ราคา 25 บาท

* สำหรับคนที่มีใบขับขี่รถยต์ไม่ถึง 1 ปี อย่าหลงเชื่อ หากมีคนแนะนำว่าให้ทำใบขับขี่กับเขาราคา 5,000 + บาท เพราะเป็นใบขับขี่ปลอม เสียดายเงิน ยังไงพอไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาก็ต้องสอบเพื่อทำใบขับขี่ของรัฐนั้นๆ อยู่ดี ทำแค่ใบรับรองใบขับขี่รถยนต์ภาษาอังกฤษ ราคา 25 บาท ไปก็พอ แต่ถ้าใครมีใบขับขี่มาแล้วเกิน 1 ปีก็สามารถทำใบขับขี่สากลที่ขนส่งได้เลยค่ะ 505 บาทเท่านั้น

6. ค่าประกันสุขภาพ มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับแต่ละเอเจนซี่ บางเอเจนซี่จะรวมไปในค่าโครงการแล้ว บางเอเจนซี่จะให้ซื้อเพิ่ม โดยซื้อกับเอเจนซี่เลยหรือไปหาซื้อประกันสุขภาพข้างนอกเองก็ได้ แต่วงเงินประกันต้องครอบคลุมตามที่เอเจนซี่กำหนด

ค่าสมัครโครงการของเราที่จ่ายกับเอเจนซี่ สมัยปี 2017 ตอนนี้ราคาก็เพิ่มขึ้นแล้ว

นี่ยังไม่รวมค่าทำวีซ่า ตรวจสุขภาพ และทำใบขับขี่

 ค่าใช้จ่ายที่โฮสต์จะเป็นผู้รับผิดชอบ ได้แก่

1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประเทศไทย-อเมริกา เมื่ออยู่ครบจบโครงการ กรณีรีแมชแล้วหาโฮสต์ใหม่ไม่ได้บางเอเจนซี่อาจไม่รับผิดชอบค่าตั๋วเครื่องบินขากลับมาไทย

2. ค่าที่พัก โดยออแพร์ต้องมีห้องนอนส่วนตัว และโฮสต์ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน 3 มื้อ โดยอาจให้กินข้าวร่วมกัน หรือมีค่าอาหารแยกให้ส่วนตัวอาทิตย์ละเท่าไรก็ว่าไป แต่ต้องแยกจากค่าอาหารการกินและค่าน้ำมันรถที่ใช้รับส่งเด็กๆ

3. โฮสต์จะมอบทุนการศึกษาให้ สูงสุด $500 ต่อปี ออแพร์ต้องไปบริหารเองว่าจะลงคอร์สอะไรยังไงให้ครบ 6 หน่วยกิต ถ้าเกินจากนี้ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่โฮสต์บางบ้านก็จะจ่ายส่วนเกินให้ด้วย ขึ้นอยู่กับความใจดีของโฮสต์

4. กรณีต้องติดตามโฮสต์ไปดูแลเด็กๆ นอกสถานที่ เช่น ต่างรัฐ หรือต่างประเทศ โฮสต์ต้องดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งค่าอยู่ ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าวีซ่า (ถ้ามี) ฯลฯ

5. โฮสต์ต้องดูแลเรื่องการเดินทางไปเรียน และไป Au Pair Meeting ประจำเดือน โดยอาจขับรถไปรับ-ส่ง หรือออกค่าน้ำมันรถให้ หรืออาจจ่ายเป็นค่าบัตรรถบัส/รถไฟ เป็นต้น

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

โดย "ออแพร์ไนซ์ในอเมริกา (Au Pair Nice in USA)"