แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กำลังเป็นออแพร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กำลังเป็นออแพร์ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563

รวมคำถาม-คำตอบ inbox จากลูกเพจ ปี2019



Q1: สนใจค่ะ ขอรายละเอียดได้ไหมคะ?
A: สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่สนใจในเนื้อหาของเพจนะคะ ขอแจ้งว่าทางเพจนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่บทความที่เขียนขึ้นเกี่ยวกับชีวิตออแพร์ในอเมริกา ไม่ได้มีส่วนในการจัดหาออแพร์มาอเมริกาค่ะ

ทางเพจแนะนำได้แค่ขั้นตอนการเป็นออแพร์ในอเมริกาค่ะ สนใจอ่านต่อที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/04/howtobecomeaupair.html?m=1


Q2: อยากทราบว่า การเก็บชั่วโมงนี่ต้องได้ใบรับรองหรือ อะไรยังไงไหมคะ?
A: แต่ละเอเจนซี่จะให้ใบสำหรับเขียนรับรองประสบการณ์ดูแลเด็กมาให้ค่ะ ซึ่งแบ่งเป็นประสบการณ์แบบเป็นทางการ เช่น เป็นครู เป็นพยาบาล เรียนจิตวิทยาเด็กโดยตรง เคยฝึกงานที่เนิร์สเซอรี่ ฯลฯ อีกแบบนึงคือประสบการณ์แบบไม่เป็นทางการ เช่น เคยเลี้ยงน้อง เลี้ยงลูกให้พี่สาว ให้ญาติ ให้เพื่อน เป็นต้น ก็เอาใบที่เอเจนซี่แจกไปให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเขียนรับรองให้ค่ะ เช่นอาจารย์ที่เคยสอนตอนเรียนพยาบาล เพื่อนร่วมงาน เจ้าของเนิร์สเซอรี่ หรือแม่ของเด็กที่เราเลี้ยงให้ ฯลฯ




Q3: ช่วยแนะนำฝึกภาษาอังกฤษให้หน่อยคะ ว่าควรจะต้องลงอะไร?
คำง่ายๆของเด็กป.5ยังอ่านไม่ออกเลยคะ พึ่งมาได้5เดือนคะ ภาษายังไม่ค่อบไปถึงไหนเลย
ตอนนี้ก็ลง ESL class อยู่คะ แต่แบบอยากได้แบบเจาะจง สะกดคำ แล้วก้อเขียนให้ออกคะ

A: จริงๆมีหลายวิธีเลยแล้วแต่ว่าชอบอะไร อย่างแอดไม่ชอบดูหนังฟังเพลง แอดชอบอ่านหนังสือ เริ่มจากหนังสือเด็กเลย เล่มบางๆหน้านึงมีอยู่ไม่กี่ประโยค
ที่บ้านมีหนังสือเยอะไหมคะ แอดชอบเอาหนังสือมาอ่านกับน้อง แล้วก็เรียนคำศัพท์ไปด้วย พวกสัตว์ต่างๆ ฟาร์ม อาชีพ ห้องสมุดจะมีโซนหนังสือเด็กค่า

มันใช้เวลาค่า จุดสำคัญคือความสม่ำเสมอ ไม่ต้องรีบร้อน
แต่ถ้าจะเอาศัพท์ระดับสูงขึ้นมาหน่อยที่เจอบ่อยๆ โหลดชีท4หน้าของคุณครูสมศรีมาท่องค่ะ มีsynonym ให้ด้วย เวลาจำๆเป็นคู่
แอดลงesl 2class แล้วก็ลง grammar&writing กับ Toefl preparation
ตอนเย็นแอดก็ไปเรียนeslฟรีที่ห้องสมุดค่า

ถ้าไม่รุ่ศัพท์ ไม่ต้องอายที่จะถามนะคะ แอดถามตลอดเลย สะกดให้หน่อย
จริงๆมีeslฟรีทุกห้องสมุดเลย แล้วก็บางโบสถ์

อีกอย่างนึง เวลาจำศัพท์ ให้ดูว่าชนิดของคำด้วยว่าเป็นคำนามทกริยา adj แล้วก็ดูตัวอย่างประโยคด้วยนะ  หรือลองโหลดเกมที่ฝึกจำศัพท์มาเล่น จะได้ไม่เบื่อ

แนะนำหนังสือvocabอีกเล่มที่แอดชอบ

Oxford picture dictionary ค่ะ จะแบ่งศัพท์เป็นหมวดๆ ตั้งแต่เบสิคเลย พร้อมรูปภาพประกอบ จำง่าย น่าอ่าน มีเล่มที่เป็นแบบฝึกหัดให้เติมศัพท์ลงในรูปด้วยค่ะ ลองดู ในเน็ตมีให้โหลดฟรี หรือยืมห้องสมุด ซื้อในแอมะซอนก็ได้ค่ะ มันมีหลายเวอร์ชั่น ลองเลือกดูนะคะ

ของทุกอย่างใช้เวลา ค่อยๆเป็นค่อยๆไป พยายามฝึกสม่ำเสมอ สู้ๆค่ะ

Q4: มีเอเจนซี่ไหนแนะนำมั้ยคะ?
A: https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/04/agency.html?m=1 นี่เป็นรายชื่อเอเจนซี่ที่มีในไทยทั้งหมดตอนนี้นะคะ  แอดไม่แนะนำเอเจนซี่ไหนเป็นพิเศษเพราะแอดไม่ได้ค่าโฆษณา 55


รวมโปรโมชั่นแต่ละเอเจนซี่  https://www.facebook.com/aupairniceinusa/photos/a.482805425584890/615737782291653/?type=3&theater ดูที่คอมเม้นต์ใต้โพสต์ได้เลยค่ะ


Q5: มีญาติอยู่ที่อเมริกา ไปได้ไหม?
A: จริงๆถ้ามีญาติแต่ไม่เคยไปหามาก่อน เป็น ญาติไม่สนิทก็ไม่เป็นไรนะ  ก็บอกไปว่าไม่มีญาติ ไม่รู้จัก คนนามสกุลซ้ำกันมีเยอะแยะ


Q6: เรื่องเรียน คือเราเลือกเรียนอะไรก็ได้หรอคะ?
A: เรียนอะไรก็ได้ตามที่สนใจเลยค่า แต่ตามกฏโฮสจะให้แค่ $500 ถ้าเกินจากนี้ออแพร์ต้องออกเอง ยกเว้นโฮสบางบ้านใจดีก็จะออกให้ค่ะ ต้องเรียนให้ครบ 6 หน่วยกิต ราคาถูกแพงแล้วแต่ว่าอยุ่รัฐไหนและลงเรียนคลาสอะไร เพราะค่าครองชีพแต่ละรัฐไม่เท่ากัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม วิธีการหาคอร์สเรียนสำหรับออแพร์ได้ที่นี่ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/06/aupaireducation.html




Q7: สอบถามหน่อยได้ไหมคะ พอดีกำลังจะทำเรื่องไปออแพร์ ของCultural Care เลยอยากทราบว่า เอเจนนี้เวลาบินใช้สายการบินอะไรคะ ? ขอบคุณค่าา

A: เท่าที่ทราบนะ เขาจะไม่ได้เจาะจงสายการบินว่าต้องสายการบินไหน ขึ้นอยู่กับเวลาบินมากกว่า คือที่นี่จะมีปฐมนิเทศวันจันทร์สัปดาห์แรกก่อนเข้าบ้านโฮสต์ เขาก็จะจองสายการบินที่บินไปถึงวันจันทร์เช้าให้ แอดได้นั่งQuarta แต่ก็มีเพื่อนได้นั่งChina, Japan ฯลฯ หลากหลายเลยค่ะ

Q8: พอดีเราสมัครกับเพื่อนล้วถ้าเพื่อนได้แมชก่อน อย่างนี้จะได้บินก่อนไหม?
พอดีอยากบินพร้อมเพื่อนอ่ะค่ะ

A: ขึ้นอยู่กับว่าโฮสต์อยากได้ออแพร์ช่วงไหน แล้วออแพร์สะดวกตรงกันไหม
บางคนแมตช์แล้วบินในเดือนเดียวเลย บางคนแมตช์แล้วรอสามสี่เดือนค่อยบิน

Q9: วัดระดับภาษา หลังสัมมนายากไหมคะ ต้องไปติวเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ?
A: ที่จริงเราไม่ได้เก่งอังกฤษอะไรโดยเฉพาะฟังพูด ได้แค่อ่าน แต่อันนี้คิดว่าไม่ยากเพราะคนสัมภาษณ์คือคนไทย สำเนียงไทยมาก ฟังออกแน่นอน แล้วคำถามก็จะวนอยู่ไม่กี่อย่าง ลองคิดคำตอบไปก่อน พี่เค้าไม่ได้ต้องการคนพูดเก่งอะไรมาก แค่ตอบตรงคำถาม อธิบายดีเทลได้บ้าง(ไม่ใช่ถามคำตอบคำ)
จะมียากหน่อยตรงคำถามสถานการณ์ พอดีแอดโดนไม่ยาก เช่น เด็กทารกร้องไห้ทำยังไง


ลองศึกษาดูในลิ้งค์นี้นะคะ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/04/howtobecomeaupair.html?m=1

Q10: น้องอยู่คุ้มใหนดงมะไฟจ้าลูกเพอน้อ
A: ??????????? งงมาก ใครก็ได้ช่วยแอดมินที

Q11: อยากสอบถามเรื่องไปออแพร์อ่า ตัวเองไปของเอเจ้นอะไรหรอ ?
A: Culturalcareจ้า

Q12: อยากถามประสบการณ์แอดมินตอนสัมภาษณ์โฮสค่ะ
คือสัมภาษณ์มา 5 บ้านแล้ว วิว 8 บ้าน ไม่ได้ซักบ้าน แล้วเหมือนที่กำลังจะได้เราก็ไม่อยากได้

A: ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆเลือกไปอย่ารีบร้อน ไม่เป็นไรนะคะ ถือว่าเค้ายังไม่ใช่
ตอนนั้นแอดก็เป็นเหมือนกัน
ไม่ใช่เราไม่ดี แต่บางครั้งด้วยเวลาที่ไม่พอดี บุคลิก ความชอบ หลายๆอย่าง ครั้งต่อไปก็พยายามpresentข้อดีของตัวเอง แสดงว่าเราอยากไปเลี้ยงลูกเค้าจริงๆ
 แต่ต้องพยายามเปิดใจ ให้โอกาสตัวเองได้คุย 
เข้าใจว่าตอนหาโฮสมันรู้สึกนานมากก เมื่อไรจะได้แมช แอดก็เป็น แต่ก็ดีกว่ารีบแมชแล้วได้โฮสไม่ดีนะ ค่อยๆคุยไป 
สู้ๆนะ เดี๋ยวโฮสที่ใช่ก็จะมาเอง

Q13: ดีจังที่ได้ไป อิจฉา
A: ก็ดีที่ได้ไป แต่ถ้าไม่ได้ไปก็ใช่ว่าจะไม่ดี ชีวิตออแพร์ไม่ได้สวยหรูเสมอไป

Q14: ไปออแพร์อเมริกายากไหมคะ เดี๋ยวนี้เข้มงวดมาก ไม่ผ่านวีซ่าเยอะเลย
A: ก็มีคนได้ไปเรื่อยๆอยู่นะ แค่ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อน
ลูกเพจคนนึงก็เพิ่งบินไปอาทิตย์ที่แล้วทักมาคุย เป็นกำลังใจให้ค่า

Q15: อยากไปออแพร์ อเมริกาค่ะแต่ไม่เก่งภาษาเลยค่ะ อายุก็กำลัง 25 ค่ะ แบบนี้มีโอกาสได้ไปมั้ยคะ มีอะไรแนะนำมั้ยคะ

A: ไม่เก่งคือแค่ไหนคะ ฟัง-ตอบคำถามในชีวิตประจำวันพอได้มั้ยคะ
คือต้องผ่านการวัดระดับภาษาอังกฤษจากเอเจนซี่ก่อนค่ะว่าเราพอไหวไหม ไม่ต้องเก่งมาก เน้นสื่อสารรู้เรื่อง เพราะการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นและดูแลลูกให้เค้าจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษค่ะ เป็นเรื่องของความปลอดภัยด้วย
ถ้ายังไงลองติดต่อเอเจ้นซี่ดุก่อนนะคะ

แล้วก็ฝึกฟังเพลง ดูวิดีโอ ฝึกพูดประโยคในชีวิตประจำวันไว้ค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้โชคดี
แอดก็ไม่ได้เก่งภาษามากค่ะก่อนไป แต่พอฟังตอบคำถามง่ายๆได้ ประโยคสั้นๆ

Q16: อยากไปออแพร์อเมริกาต้องมีอะไรบ้างคะ

A: คุณสมบัติผู้สมัครออแพร์  https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/03/qualification.html





Q17: พี่คะ โครงการนี้ไปได้ยังไงคะ?
A: สมัครผ่านเอเจนซี่ค่า https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/04/agency.html?m=1 นี่เป็นรายชื่อเอเจนซี่ที่มีในไทยทั้งหมดตอนนี้นะคะ

Q18: รบกวนปรึกษาเรื่องการจ่ายภาษีค่ะ 
พอดีไปเป็นออแพร์ระหว่าง สิงหา 2017 สิงหา 2018 แล้วไม่เคยยื่นภาษีเลยถามคนอื่นก้บอกว่าไม่ต้องอยู่ไม่ครบปีภาษี ถามโฮส โฮสก้บอกว่ายูเงินไม่ถึงไม่ต้องยื่นก้ได้ จนมาถึงตอนนี้ ถ้าอยากยื่นย้อนหลังจะต้องทำยังไงคะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ

มันจะมีผลตอนขอวีซ่าใช่มั้ยคะ กำลังจะขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ไม่รู้จะผ่านป่าว

A: ถ้ายื่นย้อนหลังไม่ทราบเลยค่ะ ต้องติดต่อ IRS โดยตรง
แต่ไม่มีผลต่อวีซ่าจ้า ส่วนใหญ่จะมีผลกับคนที่แต่งงานแล้วบ้ายไปอยู่ที่นั่น เค้าจะเช็คประวัติ ถ้าเค้าเช็คเจอก็จะต้องจ่ายภาษีย้อนหลังและโดนค่าปรับค่ะ

Q19: ค่าโครงการรวมทั้งหมดประมานเท่าไหร่คะ

A: ประมาณคร่าวๆประมาณ50,000ค่า (อาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้แล้วแต่แต่ละเอเจ้นซี่ค่ะ)



Q20: ขอทราบรายละเอียดสถานที่เลี้ยงเด็กของ จังหวัดเชียงใหม่หน่อยได้มั้ยคะ

A: น้องมีเอเจนซี่ยังคะ บางเอเจ้นเค้าจะเป็นpartnerกับพวกnursery ให้ออแพร์ไปเก็บชมได้ หรือมีแนะนำที่ๆออแพร์ในสังกัดชอบไปเก็บชม.แล้วมาแชร์

ถ้าหาเองน้องลองเสิชพวกnursery หรือพวกสถานรับเลี้ยงเด็กแถวบ้าน แล้วโทรไปถาม แล้วเอาจดหมายจากออเจ้นซี่/ทำจดหมายเองก็ได้ค่ะ แบบแนะนำตัวแล้วก็วัตถุประสงค์ของการมาสมัครดูแลเด็ก แนบสำเนาบัตรปชช เป็นต้น

หรือไปทำอาสาสมัครก็ได้นะคะ ตามรร.หรือสถานสงเคราะห์ ลองโทรไปถามก่อนอ่าจ้า

มีคนแนะนำมาว่าแถวมช., connie’s House, Kido, Egg tots house, Super kids, Little start kiddergarten, 
ลานนาเบบี้โฮม, Hana Christian kindergarten ฯลฯ ลองหาข้อมูลดูนะคะ


Q21: ต้องพูดอังกิดเก่งมากมั้ย กว่าจะไปออแพร์ได้
A: ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษค่า แค่พอสื่อสารได้ ถามตอบคำถามในชีวิตประจำวันได้ เพราะก่อนสัมภาษณ์แต่ละเอเจนซี่จะมีการสัมภาษณ์ทดสอบระดับภาษาอังกฤษก่อน การออนไลน์หาโฮสก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และด่านสุดท้ายคือการสัมภาษณ์วีซ่าค่า

การไปทำงานในอเมริกาต้องใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เขาต้องแน่ใจว่าเราจะไปอยู่ได้
ถ้าด่านแรกสัมภาษณ์กับเอเจนซี่แล้วเค้าประเมินว่าภาษายังไม่ค่อยโอเคก็จะให้น้องไปฝึกฝนเพิ่มแล้วค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่ค่า

แต่ไม่จำเป็นต้องเก่ง แอดก็พูดแบบสำเนียงไทยๆนี่แหละ แต่พยายามตอบ พยายามอธิบาย ไม่ใช่แค่ถามคำตอบคำแบบ yes no จบ เพราะทำงานกับเด็กต่างบ้านต่างเมืองก็มีประเดเรื่องความปลอดภัยด้วยว่าเราจะฟังที่โฮสบอกรู้เรื่องหรือเวลาเกิดเหตุอะไรเราจะสามารถขอความช่วยเหลือได้ค่า ช่วงนี้ก็ฝึกฝนภาษาอังกฤษไปก่อนเนอะ


Q 23: อยากเป็นออแพร์ เริ่มจากไรดีคะ?

A: เริ่มจากมีเป้าหมายค่า ทำไมอยากไป ไปเมื่อไร  ไปแล้วอยากทำอะไรบ้าง กลับมาแล้วอยากทำอะไรต่อ จะเอาประสบการณ์ที่ได้มาต่อยอดอย่างไร 

คือออแพก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรนะ เงินก็น้อยกว่าถ้าเทียบกับคนมี่ทำงานที่ไทยมาสักพักแล้ว ก็ตกประมาณ2หมื่นเอง เหมือนเด็กจบใหม่ ถ้าไม่ติดรื่องเงินแล้วอยากพัฒนาภาษา พัฒนาตนเองก็มาเถอะค่ะ ประสบการณ์แบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว ได้ฝึกอะไรเยอะมาก ถึงแม้จะมีคนเจอโฮสต์ไม่ดี ประสบการณ์แย่ๆแต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าถ้าให้ย้อนเวลากลับไปก็จะมาสมัครออแพร์อยู่ดี
แอดไปมาแล้วรู้สึกภาษาดีขึ้นจริงๆ แล้วก็ตัวเองโตขึ้นมาก เพราะไปอยู่นั่นต้องทำอะไรด้วยตนเอง ความคิดก็เปิดกว้างขึ้น ได้เห็นมุมมองอะไรหลายๆอย่าง
ก่อนไปแอดเงินเดือนสามหมื่นกว่านะ ยอมลาออกไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเงินเดือนน้อยนิด แต่ก็เหมือนพักผ่อนท่องเที่ยวไปในตัวจากที่เอาแต่ทำงานหนัก แล้วก็ไปพัฒนาตนเองด้วยอย่างที่บอกไป

Q24: เป็นออแพร์ มีเงินเก็บมั้ยคะ?

A: มีค่ะ ขึ้นอยู่กับการบริหารเงินแต่ละคน
อ่านต่อเรื่องเงินๆ ทองๆ กับออแพร์ได้ที่นี่ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/10/money.html



วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

มาดู Au Pair Academy (Au Pair Care) ได้นอนโรงแรมหรู อยู่สบาย


https://www.youtube.com/watch?v=D6-AyiPRvZQ

          มาดูบรรยากาศปฐมนิเทศออแพร์สัปดาห์แรกที่ Au Pair Academy ที่จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในรัฐ New Jersey (ใกล้กับรัฐ New York) ของเอเจนซี่ Au Pair Care หรือบริษัทในไทยคือ American learning 

วันแรกที่บินมาถึงอเมริกา จะมีเจ้าหน้าที่มารับที่สนามบินและพาไปยังโรงแรมที่พัก เจ้าหน้าที่จะต้อนรับและอธิบายในเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการปฐมนิเทศตลอดเวลา 1 สัปดาห์ที่นี่ แล้วมอบกุญแจห้อง และเอกสารต่างๆ ให้ 

ห้องนอน จะนอนกับรูมเมทที่ทางเอเจนซี่จัดไว้ให้ อาหารสามมื้อฟรีที่โรงแรม การอบรมความรู้และทำกิจกรรมต่างๆ จะจัดขึ้นภายในห้องสัมมนาของโรงแรมตามตารางตั้งแต่ 8-17 น. โดยเนื้อหาที่เรียนประกอบด้วย

https://www.aupaircare.com/sites/default/files/documents/_DSC8087.jpg

  • การพรีเซ้นส์หรือนำเสนองาน Pre-Departure Orientation project ที่ออแพร์ทุกคนจะต้องทำมาจากประเทศตัวเอง เพื่อมานำเสนอเกี่ยวกับตัวเอง ประเทศของตัวเอง วัฒนธรรม และเป้าหมายของการเป็นออแพร์ รวมทั้งโฮสต์แฟมิลี่ของตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับเพื่อนออแพร์ทั่วโลก ซึ่งจะมีรางวัลสำหรับคนที่ทำชิ้นงานออกมาได้ดีด้วย
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/pre-departure.png?itok=2h281AeD

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhw_hsv4RcMhxeikfRgfsPSqYrSnEuEKHh3oXAy6R4YGORH4LnK20xb2-js7NoW6ILxSfeTfLuqM91zRmJpsn1aD4YfUyXIbz4rsW-KIX49pngwqZdhf53hSWZIrzL9a7qr0xIVyvLd9Z6B/s1600/15.jpg

  • อบรมเรื่องพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย ความปลอดภัย
  • วัฒนธรรมอเมริกัน การปรับตัว และการจัดการความเครียด
  • บทบาทหน้าที่ของออแพร์
  • ความปลอดภัยในการขับขี่ในอเมริกา
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/AuPairCare_Academy_Training.jpg?itok=AfdLoxar
  • การปฐมพยาบาลขั้นต้นและการกู้ชีพขั้นต้น (CPR)
https://www.aupaircare.com/sites/default/files/styles/story_full/public/images/aupair-academy-special.png?itok=crJZiFIb

  • พาไปเที่ยวในเมืองนิวยอร์ก (New York City Tour) ไปถ่ายรูปกับเทพีเสรีภาพ ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และลิ้มลองอาหารอเมริกัน

ตารางการอบรมปฐมนิเทศ
แบบหลักสูตรทั่วไป


แบบหลักสูตรเฉพาะเด็กทารก ซึ่งเพิ่มการนวดสัมผัสทารก และภาษามือสำหรับทารก (American sign language) ด้วย



ช่วงเวลาตอนเย็นแต่ละวันที่ว่างจากการอบรม สามารถพักผ่อนอยู่ภายในโรงแรม หรือออกไปเที่ยวยังสถานที่ใกล้เคียงได้ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำเส้นทางให้

หลังปฐมนิเทศจบ ก็ได้เวลา Say goodbye เพื่อนๆ เพราะทุกคนจะต้องแยกย้ายกันเดินทางต่อไปยังบ้านโฮสต์ตัวเอง บางคนที่อยู่ใกล้ก็รอโฮสต์มารับที่โรงแรม  

ชีวิตออแพร์จริงๆ จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้

ที่มา http://www.american-learning.com/wp-content/uploads/2015/08/Orientation.pdf


บทความที่เกี่ยวข้อง



วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ออแพร์ต้องรู้


https://www.youtube.com/watch?v=_xO065mp1qg

          เราได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่ออแพร์ต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลเด็ก เหมาะสำหรับว่าที่ออแพร์ไทยทุกคนที่กังวลว่าภาษาอังกฤษของตนเองยังไม่ค่อยดี ไม่เคยมีประสบการณ์ดูแลเด็กมาก่อน และเป็นประโยชน์ในการสัมภาษณ์กับเอเจนซี่และโฮสต์แฟมิลี่ด้วย



Host family (โฮสต์แฟมิลี่) แปลว่า ครอบครัวอุปถัมภ์ คือครอบครัวที่ออแพร์อาศัยอยู่ด้วย ประกอบด้วย
Host mom (โฮสต์มัม) คุณแม่, Host dad (โฮสต์แด๊ด) คุณพ่อ , และ Host kids (โฮสต์คิดส์) ลูกๆ หรือเด็กที่ออแพร์จะต้องดูแลนั่นเอง


Look after (ลุค อาฟเตอร์) มีความหมายว่า Take care (เทคแคร์) แปลว่า ดูแล นั่นเอง

Pick up (พิค อัพ) คือการไปรับ เช่น I'll pick you up from the school at 4PM. 
Drop off (ดร็อพ ออฟ) คือการไปส่ง
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของออแพร์เลยที่จะต้องไปรับ-ส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ

Nap (แน็พ) คือการงีบหลับ หรือการนอนกลางวันนั่นเอง เด็กๆ โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็กจะมีช่วงนอนกลางวัน ซึ่งทำให้ออแพร์ได้พักเหนื่อยบ้าง หรืออาจใช้เวลานี้ทำงานบ้านที่ค้างไว้


Play date (เพลย์ เดท) คือ การที่เด็กๆ วัยเดียวกันมาเล่นด้วยกัน 
Play pal (เพลย์ พาวล์) คือ เด็กวัยเดียวกัน หรือเพื่อนเล่น 
(ไม่ใช่แอพจ่ายเงินเพย์พาลว์นะจ๊ะ แม้จะสะกดเหมือนกันก็ตาม)

Play date เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กๆ ได้เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ช่วยเพิ่มทักษะทางสังคม และยังช่วยผ่อนแรงออแพร์ที่จะต้องวิ่งเล่นกับเด็กๆ ทั้งวันอีกด้วย 
ออแพร์จึงมักจะพาเด็กๆ ไป Play date ด้วยกัน เช่น ที่สวนสาธารณะ หรือบ้านของคนใดคนหนึ่ง แต่ทั้งนี้ต้องดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาด้วยนะ


High and Seek (ไฮด์ และซีค) คือ เกมเล่นซ่อนหานั่นเอง แปลตรงๆ ตัวเลย

Treats (ทรีทส์) หมายถึง ขนมหวานต่างๆ ลูกอม ช็อคโกแลต เค้ก ฯลฯ เหมือนกับคำว่า "Trick or treats" ที่พูดกันในวันฮาโลวีน ซึ่งแน่นอนว่าขนมหวานเป็นของโปรดของเด็กๆ ทุกคน ดังนั้นบางบ้านจะมีกฏในการให้ขนมเด็กๆ ออแพร์จะต้องถามเรื่องกฏนี้กับโฮสต์ด้วย เพื่อไม่ให้เด็กกินขนมหวานมากเกินไป

Time out (ไทม์ เอ้าท์) แปลว่า หมดเวลา ในที่นี้หมายถึง วิธีการลงโทษเด็กรูปแบบหนึ่งที่นิยมมากในอเมริกา และยุโรป เพราะว่าฝรั่งจะไม่ตีเด็กเด็ดขาด ถือว่าเป็นการทารุณกรรมเด็ก ผิดกฏหมาย

วิธีการ Time out  เมื่อเวลาเด็กๆ ทำผิดซ้ำๆ หลายครั้ง แม้ว่าจะมีการเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง ยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่ ก็จะจับเด็กมานั่งเก้าอี้ แล้วหันหน้าเข้ามุมห้อง หรือผนัง และจับเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาที จนถึงไม่กี่นาที (ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก) เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่ตัวเองได้ทำลงไป โดยระหว่างที่ทำ นี้จะต้องอยู่ในสายตาคนดูแล แต่จะไม่เข้าไปอยู่ใกล้ๆ ให้เด็กเห็น หรือว่าให้เห็น แต่จะไม่เข้าไปเล่น ไม่คุยด้วย จะอยู่เงียบๆ จนครบเวลา จึงเข้าไปพูดคุยว่าเด็กๆ เข้าใจที่ถูกทำโทษไหม รู้สึกอย่างไร และต่อไปจะไม่ทำอีก ประมาณนี้ เด็กก็จะเรียนรู้เหตุผล และรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองได้มากขึ้น


Go pee pee(โก พี๊ ผิ) เป็นคำที่ใช้กับเด็กๆ แปลว่า ไปฉี่ ถ้าเด็กโตหน่อยอาจจะใช้แค่คำว่า Go pee 
Go poo poo (โก พู๊ ผุ) แปลว่า ไปอึ เด็กโตใช้คำว่า Go poop ได้

Diaper (ไดเพอะ) แปลว่า ผ้าอ้อมเด็ก หรือแพมเพิสนั่นเอง


Diaper pail (ไดเพอะ เพล) หมายถึง ถังสำหรับทิ้งผ้าอ้อม 

Potty (พ้อตตี้) แปลว่า กระโถน 
เด็กเล็กๆ เมื่อถึงวัยที่ต้องเลิกใส่ผ้าอ้อม จะมีการฝึกให้นั่งกระโถน เรียกว่า Potty tain (พ้อตตี้ เทรน) เพื่อให้เด็กรู้จักบอกความต้องการของตัวเอง และช่วยเหลือตัวเอง

wee wee (วี๊ หวิ) ใช้เรียก จู๋ของเด็กผู้ชาย

Boo boo (บู๊ บู้) หมายถึง ได้รับบาดเจ็บ หรือบาดแผล เช่น เวลาเด็กหกล้ม เป็นต้น

Bed time (เบ้ด ไทม์) แปลว่า เวลาเข้านอน
ซึ่งบางบ้านก็จะฝึกเด็กให้มี Bed time routine หรือสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำก่อนนอน ตั้งแต่ อาบน้ำ กินนม แปรงฟัน อ่านหนังสือ (Story time) บอกราตรีสวัสดิ์คนในครอบครัว แล้วจึงเข้านอน

Play pen (เพลย์ เพ็น) คือ คอกกั้นเด็ก หรือรั้วกั้นบริเวณที่เด็กเล่น มักจะใช้ในบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งเดินได้ เพื่อความปลอดภัย ให้เด็กเล่นในที่ที่จัดไว้ และไม่เดินเพ่นพ่านไปหยิบอะไรอันตราย หรือละสายตา
High chair (ไฮ แชร์) คือ เก้าอี้สูง สำหรับเด็กที่คอแข็ง และนั่งได้แล้ว จะฝึกเด็กให้นั่งทานอาหารบนโต๊ะพร้อมกันกับผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักทานอาหารตามเวลา และเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร ไม่เดินไปป้อนไป และเด็กก็จะสามารถไปร่วมโต๊ะในร้านอาหารกับผู้ใหญ่ได้ด้วย

Bumbo chair (บัมโบ้ แชร์) บัมโบ้คือชื่อยี่ห้อเก้าอี้ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเก้าอี้หัดนั่งสำหรับทารก โดยจะวางเก้าอี้ที่พื้นแลจับทารกที่คอแข็งแล้วฝึกนั่ง ก่อนจะย้ายไปให้นั่งบนเก้าอี้สูง (High chair)

Baby gym (เบบี้จิม) คือเสื่อที่มีของเล่นห้อยแขวนไว้เหนือศีรษะทารก ช่วยฝึกพัฒนาการทางด้านสายตา การได้ยิน และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้ทารกได้ไขว่คว้า และเตะของเล่น ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี และได้เคลื่อนไหวร่างกาย
Lunch box (ลั้นช์ บ็อกซ์) คือ ข้าวกล่องที่เด็กๆ พกไปกินเป็นอาหารกลางวันที่โรงเรียน เพราะบางโรงเรียนจะไม่มีอาหารกลางวันให้ ออแพร์ก็จะมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารใส่กล่องแพ็คใส่กระเป๋าให้เด็กๆ โดยอาหารก็จะเป็นอาหารง่ายๆ เช่น พาสต้า แซนวิช ข้าวผัด ผลไม้ ชีส แครกเกอร์ น้ำผลไม้ นม เป็นต้น
Baby food / Solid food (เบบี้ฟู้ด หรือโซลิดฟู้ด) คืออาหารสำหรับทารกที่เริ่มทานอาหารอื่นๆ นอกจากนม โดยเริ่มจากอาหารเหลว เช่น โอ้ตมีล เบบี้ซีเรียลที่ลักษณะคล้ายๆ โจ๊ก ผลไม้ปั่น แล้วค่อยๆ เริ่มหยาบขึ้นๆ จนกระทั่งเป็นผัก ผลไม้ พาสต้า หรือเนื้อนิ่มๆ หั่นเป็นชิ้นๆ ให้เด็กสามารถหยิบเข้าปากด้วยตนเองได้ เรียกว่า Finger food (ฟิงเกอร์ฟู้ด) 
Bib (บิ๊บ) คือ ผ้ากั้นเปื้อนเด็ก 
ป้ายเบอร์ที่ติดที่อกเสื้อสำหรับนักวิ่งก็เรียกว่า Bib เช่นกัน

Pacifier (แพซิไฟเออะ) คือ จุกหลอกนั่นเอง เรียกสั้นๆว่า แพ้ซซี่ ก็ได้
White noise (ไวท์น้อยส์) แปลว่า เสียงสะอาด หมายถึงเสียงคลื่น หรือเสียงความถี่ต่ำที่ใช้เปิดกล่อมเด็กนอน ซึ่งช่วยว่าการให้เด็กฟัง White noise ตอนนอนจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา
Crib (คริป) คือ เตียงที่มีรั้วกั้นสำหรับเด็กเล็กๆ
Changing table / changing mat (เช้งกิ้ง เทเบิ้ล หรือ เช้งกิ้ง แม็ท) คือโต๊ะ หรือเบาะสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กเล็กๆ 

Monitor (มอนิเตอร์) คือกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ในบ้าน ส่วนใหญ่จะติดในห้องนอนเด็ก เพื่อดูว่าเด็กตื่นกลางคืนหรือเปล่า มีหลายแบบ บางชนิดสามารถดูผ่านมือถือได้
Stroller  (สโตรเลอร์) มาจากคำกริยา Stroll (สโตรล์) แปลว่า เดินทอดน่อง เดินเอื่อยๆ ชมนกชมไม้ ดังนั้น Stroller จึงหมายถึงรถเข็นเด็ก ไว้ให้เด็กนั่งเวลาพาเด็กทารกและเด็กเล็กออกไปเดินเล่น
Car seat (คาร์ซีท) คือ ที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก ซึ่งมีหลายแบบ ถ้าเป็นเด็กทารกและเด็กเล็กก็คือส่วนที่ถอดออกจาก Stroller ได้ แล้วมาวางบนที่นั่งด้านหลังของรถ โดยหันหน้าเข้าทีนั่งในรถ แต่ถ้าเป็นเด็กโตมาหน่อย จะมีลักษณะคล้ายเก้าอี้ติดอยู่กับรถ และหันหน้าออก
Rattle (แร้ทเทิ้ล) คือ เครื่องดนตรีเขย่า รวมถึงของเล่นเขย่าสำหรับเด็ก
Teething ring (ที๊ทติ้ง ริง) คือ ยางสำหรับให้ทารกกัด เพราะช่วงเวลาที่ฟันทารกกำลังจะขึ้น จะมีอาการคันและเจ็บเหงือก หมั่นเขี้ยว เรียกว่า Teething ต้องหารอะไรมากัด บางบริษัทจะผลิตแบบเป็นตุ๊กตายางน่ารักๆ หรือเป็นเจลที่สามารถแช่ตู้เย็นได้ ความเย็นจะช่วยบรรเทาความปวดของทารกได้



บทความที่เกี่ยวข้อง