วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ออแพร์คืออะไร

ออแพร์ (Au Pair) 
          คือ ผู้ช่วยงานที่เป็นชาวต่างชาติ และพักอาศัยร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host Family) มีหน้าที่ในการเลี้ยงเด็กและทำงานบ้าน โดยได้รับเงินค่าแรงตอบแทน
          ออแพร์ (Au Pair) มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า "โอแปร์" (au pair) แปลตรงตัวว่า "เท่าเทียมกัน" ซึ่งหมายความว่า ออแพร์จะมีความเท่าเทียมกับบุคคลภายในบ้าน แตกต่างจากพนักงานรับใช้ ในขณะเดียวกันเจ้าของบ้านและออแพร์นั้นจะได้มีการเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน

N-Narrater_Au Pair
รูปสรุปออแพร์คืออะไร
          ออแพร์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศยุโรป ช่วงหลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาความนิยมออแพร์เป็นที่แพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรป มีลักษณะคล้ายกับ Live-in Nanny หรือพี่เลี้ยงเด็กที่พักอาศัยอยู่กับครอบครัวของเด็ก มีหน้าที่ดูแลเด็กๆ และช่วยเหลืองานบ้านที่เกี่ยวข้องกับเด็ก โดยได้รับเงินค่าจ้างตอบแทนเป็นรายสัปดาห์ในอัตราคงที่ ไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนของเด็ก

หน้าที่ของออแพร์

1. ดูแล เลี้ยงดูเด็ก ตั้งแต่ตื่นนอน ทำอาหาร ป้อนนม/อาหาร แต่งตัว เตรียมกระเป๋าและข้าวกล่อง ไปรับ-ส่งที่โรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ ส่งเสริมพัฒนาการ เล่นเป็นเพื่อนทั้งกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง ช่วยสอนการบ้าน อาบน้ำให้ จนกระทั่งพาเข้านอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตารางงานและหน้าที่ๆ ตกลงกับโฮสต์แฟมิลี่ไว้
2. ทำงานบ้านเบาๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น ซักเสื้อผ้าเด็ก ทำอาหารให้เด็ก ทำความสะอาดห้องนอนและห้องนั่งเล่นของเด็ก ทำความสะอาดขวดนมและจานชามช้อนส้อม หรือบริเวณที่เด็กทานอาหาร เก็บของเล่น จัดระเบียบของใช้และของเล่นเด็ก เป็นต้น

ข้อดีของการเป็นออแพร์

1. พักอาศัยอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ฟรี มีห้องนอนส่วนตัว มีอาหารให้รับประทานฟรี 
2. มีการจำกัดชั่วโมงการทำงาน วันหยุด Vacation ที่แน่นอนตามกฏหมาย
3. ได้รับค่าจ้างตามอัตราที่กฏหมายกำหนดทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนตามกฏหมายแต่ละประเทศ
4. ได้รับการสนับสนุนด้านการเรียน เช่น ออแพร์ในอเมริกาจะได้รับค่าเรียนจากโฮสต์ $500 สามารถเลือกลงเรียนอะไรก็ได้ตามความสนใจ เช่น ภาษาอังกฤษ ดนตรี ศิลปะ ฯลฯ โดยต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบ 6 หน่วยกิต
5. สัญญาการเป็นออแพร์ 1 ปี และสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นออแพร์ต่ออีก 6, 9, หรือ 12 เดือน
6. ได้ท่องเที่ยวในต่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภาษา ได้พบเพื่อนต่างชาติ
7. ได้พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ รวมทั้งภาษา และได้รับประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการ สามารถนำประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศนี้ใส่ลงไปในประวัติย่อของตนเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงานได้มากขึ้น
8. เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเดินทางมาอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วยวิธีอื่นๆ เช่น Work&Travel 
9. หากเกิดปัญหาจะมีเอเจนซี่ ที่ปรึกษาท้องถิ่น และรัฐบาลช่วยเหลือ
10. มีความปลอดภัยระดับหนึ่ง เพราะโฮสต์แฟมิลี่ได้รับการประเมินจากเอเจนซี่ และออแพร์ได้พูดคุย สัมภาษณ์กับโฮสต์แฟมิลี่ก่อนมา

ทำไมโฮสต์แฟมิลี่ถึงอยากได้ออแพร์ ?

1. ค่าจ้างถูกมาก เมื่อเทียบกับการจ้างพี่เลี้ยงเด็กทั่วไป (Nanny หรือ Baby sitter)
2. ตารางการทำงานของออแพร์มีความยืดหยุ่นมากกว่า โฮสต์สามารถกำหนดตารางานและหน้าที่รับผิดชอบได้เอง
3. ออแพร์ช่วยเลี้ยงลูก เป็นเพื่อนเล่น เป็นผู้ปกครอง เป็นครูสอนการบ้าน และช่วยทำงานบ้าน
4. ค่าจ้างเท่าเดิม แม้ว่าจำนวนเด็กจะมากเท่าไรก็ตาม
5. ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภาษา 
6. ได้สมาชิกใหม่ในครอบครัวเพิ่มขึ้น ลูกๆ จะได้พี่ชาย/พี่สาว หรือเพื่อนเล่นเพิ่มขึ้น
7. สามารถไว้ใจได้ เพราะผ่านการตรวจสอบจากAgency ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน มีการอบรมความรู้พื้นฐาน และเป็นโครงการที่รัฐบาลรับรอง
8. สามารถลดหย่อนภาษีจากการจ้างออแพร์ได้

ข้อแตกต่างระหว่าง Au Pair - Nanny - Baby sitter

  • Au Pair เป็นชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยกับครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีหน้าที่ดูแลเด็กและทำงานบ้านที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ได้รับค่าตอบแทนน้อย และต้องเรียนหนังสือ
  • Nanny มีทั้งแบบที่พักอาศัยอยู่กับครอบครัวนายจ้าง เรียกว่า Live-in Nanny หรือ แบบไปเช้า-เย็นกลับ เรียกว่า Live-out Nanny คือพี่เลี้ยงเด็ก มีหน้าที่ดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเด็ก บางคนอาจเป็นทั้งพี่เลี้ยงเด็กและแม่บ้านทำความสะอาดบ้านด้วยก็ได้ ได้รายได้สูง ต้องมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กพอสมควร
  • Babysitter คือพี่เลี้ยงเด็กที่รับจ้างดูแลเด็กเป็นชั่วโมงสั้นๆ เช่น วันละ 1-3 ชั่วโมงตอนที่เด็กหลับ หรือคอยเฝ้าดูตอนเด็กเล่น ไม่ได้พักอาศัยอยู่กับครอบครัวนายจ้าง ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุน้อยที่ทำเป็นงานพิเศษเสริมรายได้
  • Manny = Male nanny
  • BroPair = Male Au Pair