อยากเป็นออแพร์ในอเมริกา ไม่ยาก
😀คุณสมบัติพื้นฐาน ใครมีก็สมัครออแพร์ได้
1. อายุไม่เกิน 26 ปี
ตามเงื่อนไขของวีซ่าและเอเจนซี่ ส่วนใหญ่กำหนดอายุประมาณ 18-26 ปี (*ศึกษาเพิ่มเติมจากตัวแทนเอเจนซี่) แต่เอเจนซี่ไทยมักจะรับคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะพื้นฐานคนไทยคือ ยังอยู่กับพ่อแม่ตลอดตั้งแต่เด็กจนโต เด็กไทยที่เรียนจบมัธยมแล้วต้องเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจบมาค่อยหางานทำ ไม่เหมือนเด็กฝรั่งที่ออกไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง เรียนจบมัธยมแล้วจะออกมาทำงานก่อนหรือเดินทางไปต่างประเทศเพื่อค้นหาตัวตน ทำให้ดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่า อีกทั้งถ้าคนที่จะสมัครออแพร์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ต้องทำเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองอีก (อเมริกานี่อยู่คนละซีกโลกเลยนะ ไม่ใช่ใกล้ๆ ต้องไปอยู่กับใครที่ไม่รู้จักมาก่อน) เอเจนซี่ไทยส่วนใหญ่เลยมักจะรับคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ดูโตเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบ (แต่ถ้ายังเรียนไม่จบแล้วมีคุณสมับติครบถ้วน มีวุฒิภาวะเพียงพอก็สมัครได้นะ)
2. จบการศึกษาขั้นต่ำ ม.6
3. สุขภาพแข็งแรง
4. ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม
5. มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก อย่างต่ำประมาณ 200 ชั่วโมง
ทั้งประสบการณ์ทางการ คือ การทำงานในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก เช่น หมอ พยาบาล ครูอนุบาล เคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เนิร์สเซอรี่/เดย์แคร์ เป็นต้น หรือผ่านการอบรมการดูแลเด็ก มีหลักฐานชัดเจน และประสบการณ์ที่ไม่เป็นทางการ เช่น เลี้ยงน้องที่บ้าน เลี้ยงลูกเพื่อน เลี้ยงหลาน ไม่มีหลักฐานชัดเจนแต่มีพยาน คือคนที่สามารถเขียนใบรับรองได้ว่าเราได้เลี้ยงลูกหลานเขาจริงๆ ถ้ามีทั้งสองอย่างก็เลิศ!
6. สื่อสารภาษาอังกฤษได้
ไม่จำเป็นต้องเก่ง เป๊ะ หรือ perfect เลย หนึ่งในเหตุผลของออแพร์ไทยที่อยากไปอเมริกาก็คือไปเรียนรู้และฝึกภาษานี่แหละ โฮสต์ส่วนใหญ่ก็รู้เหตุผลในข้อนี้ดี และรู้ด้วยว่าเราไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่จะให้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษเป็น 0 กะไปเริ่มใหม่หมดเลยที่อเมริกาก็ไมไ่ด้ อย่างน้อยขอแค่เราสามารถสื่อสารได้ บอกความต้องการ มีปฏิสัมพันธ์กับโฮสต์และเด็กๆ (นึกภาพคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทย ไม่จำเป็นต้องพูดชัด พูดเก่งเลย แค่พอสื่อสารได้และทำงานได้) ซึ่งตรงนี้ทางเอเจนซี่จะมีการสอบสัมภาษณ์วัดระดับภาษาเราก่อน ถ้าถึงระดับที่กำหนดจึงจะสามารถสมัครได้ ถ้ายังไม่ถึงก็จะให้กลับไปฝึกหรือเรียนภาษาเพิ่มเติมก่อนค่อยกลับมาสัมภาษณ์อีกครั้ง
7. มีใบขับขี่
ออแพร์ไม่จำเป็นต้องขับรถให้เด็กทุกคน (โดยเฉพาะเด็กทารกและเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่เข้าร.ร.) แต่ออแพร์จำเป็นต้องมีใบขับขี่ทุกคน นี่เป็นข้อกำหนดของเอเจนซี่ที่ไทย เพราะว่าช่วยให้เราเพิ่มโอกาสในการหาโฮสต์ เรื่องขับรถนี้เป็นจุดอ่อนของออแพร์ไทยเลย เราต้องไปแข่งขันกับพวกออแพร์ยุโรปที่มีประสบการณ์ขับรถตั้งแต่วัยรุ่น ขับรถคันใหญ่ เช่น มินิแวน รถตู้ SUV และเคยขับบนหิมะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ที่บ้านไม่มีรถและไม่เคยขับรถเลย แต่จะไปทั้งที ทุกอย่างคือการลงทุน เราก็ไปเรียนขับรถและสอบจนผ่านได้ใบขับขี่มาถึงค่อยมาสมัครออแพร์
8. มีเงินจ่าย
ทุกอย่างคือการลงทุน ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ การเป็นออแพร์ก็เช่นกัน ต้องจ่ายเงินค่าโครงการ ค่าออนไลน์ใบสมัคร ค่าตรวจสุขภาพ บางคนต้องจ่ายค่าเรียนภาษาเพิ่ม ค่าเรียนขับรถ ค่าสอบใบขับขี่ ค่าทำใบขับขี่สากล ค่าทำวีซ่า ค่าประกันสุขภาพ ฯลฯ ยังไม่รวมค่าอื่นๆ อีก เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง ของฝากโฮสต์และเด็กๆ เงินทั้งนั้น รวมๆ แล้วก็ 50,000-60,000 บาทได้ แล้วแต่การใช้จ่ายของแต่ละคน
ข้อ 1-8 ข้างต้นนี้เป็นคุณสมบัติที่ "ต้องมีครบ" จึงจะสามารถสมัครเพื่อเป็นออแพร์ในอเมริกาได้ ขั้นตอนต่อไปก็คือเลือกว่าเราจะไปสมัครกับเอเจนซี่ไหนดี แต่สมัครได้แล้วโฮสต์จะเลือกเราหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ บางคนออนไลน์มาเป็นปีไม่ได้แมทช์กับโฮสต์บ้านไหนเลยก็มี(เเสียเงิน เสียเวลาฟรีๆ) ดังนั้นเรามาดูคุณสมบัติที่ทำให้โฮสต์เลือกเราดีกว่า
😲คุณสมบัติออแพร์ที่โฮสต์อยากได้
9. Maturity มีวุฒิภาวะ โฮสต์บางบ้านจะกำหนดไว้เลยว่าขอออแพร์ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปเป็นต้น แต่บ้านที่ไม่กำหนดก็มีเยอะ
10. Infant Qualified (IQ) มีประสบการณ์ดูแลเด็กทารก เพราะโฮสต์ส่วนใหญ่จะมีลูกคนที่สอง คนที่สามแล้วคิดว่าเลี้ยงไม่ไหวจึงเข้าร่วมออแพร์ ดังนั้นถ้าใคร IQ ก็(อาจ)จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหาโฮสต์ได้ บางบ้านก็ไม่ต้องการเพราะเด็กๆ โตกันหมดแล้ว
11. Strong & good history driving อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโฮสต์บ้านที่มีเด็กวัยเข้าร.ร.แล้ว เราต้องขับไปรับไปส่งที่ร.ร. และพาไปทำกิจกรรมตอนเย็นหรือวันหยุด เช่น พาไปสวนสาธารณะ ไปสระว่ายน้ำ ไปเรียนพิเศษเสริม เป็นต้น บางบ้านก็กำหนดมาเลยว่าขอคนที่มีประสบการณ์ขับรถอย่างน้อย 2 ปี แต่บางบ้านก็ขอแค่มีใบขับขี่มาจากไทยพอ ค่อยมาฝึกหัดที่นั่นได้ ไม่ยาก
12. Swimmer คิดว่าเกือบ 100% ของคนที่นี่ว่ายน้ำได้ และชอบไปว่ายน้ำที่ทะเล หรือมีสระว่ายน้ำที่บ้าน โฮสต์จึงอยากได้คนที่ว่ายน้ำได้ ดูแลเด็กๆ ขณะว่ายน้ำได้ แต่ไม่ต้องกังวลมาก เราก็ว่ายไม่เป็นยังได้แมทช์เลย
13. Great English Speaker บางบ้านโดยเฉพาะโฮสต์ที่มีเด็กโตจะขอคนที่พูดภาษาอังกฤษได้เก่งๆ เพราะต้องสื่อสารกับลูกเขา แต่บางบ้านก็ไม่ได้กำหนดเพราะเขาเข้าใจว่าเราไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ หรือลูกเขาอาจจะเป็นแค่เด็กทารก และเรามาเป็นออแพร์เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ
14. Good Cooker ออแพร์มีหน้าที่ต้องทำอาหารให้เด็กๆ ด้วย เด็กบางคนต้องมีข้าวกล่องไปกินกลางวันที่ร.ร.อีกต่างหาก แต่คนที่นี่กินง่ายๆ มื้อเช้าแค่ขนมปังทาแยม แพนเค้ก ข้าวโอ้ต หรือซีเรียล ส่วนกลางวันก็อาจจะเป็นแซนวิชแฮมชีส ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเก่งทำอาหารหรอก แค่พอทำได้ แต่ถ้าชอบทำอาหารและทำเก่งจะได้คะแนนพิเศษ เพราะโฮสต์ชอบอาหารไทย(แบบไม่ค่อยเผ็ด)กัน และอาหารไทยก็เป็นที่รู้จักของคนที่นี่ด้วย
15. Pets lover คนที่นี่ชอบเลี้ยงหมา แมวกัน บางบ้านก็มีมากกว่านั้น เช่นนก หรือบ้านที่อยู่ชนบทมีฟาร์มม้า ฟาร์มแกะ หากใครเคยเลี้ยงหมาแมวที่บ้านก็จะได้คะแนนเพิ่มในข้อนี้
ข้อ 9-15 นี้เป็นคุณสมบัติที่ผู้สมัครออแพร์ "ควรมี" เพราะหน้าที่ของออแพร์ไม่ใช่เลี้ยงเด็กไปวันๆ แต่เปรียบเสมือนผู้ปกครองเด็กอีกคนเลย (บางคนก็เปรียบเสมือนครู) ต้องดูแลทุกอย่าง อาหารการกิน ความสะอาด ความปลอดภัย การเรียนรู้ ข้อไหนไม่มีก็ไปฝึกฝนเพิ่มพูนประสบการณ์เยอะๆ ยิ่งมีมากยิ่งได้เปรียบในการหาโฮสต์มากขึ้น แต่ถ้ามีไม่ครบก็ไม่เป็นไร บางบ้านก็ไม่ได้ต้องการคุณสมบัติข้อนั้น
😙Plus คะแนนพิเศษ สิ่งที่ควรใส่ในโปรไฟล์เรา
- พูดภาษาที่สามได้ เช่น สเปน, จีน, เยอรมัน ฯลฯ คนอเมริกันใช่ว่าจะมีแต่ฝรั่ง บางบ้านก็อยากได้คนที่พูดภาษาเดียวกับเขา โดยเฉพาะสเปนซึ่งถือเป็นภาษาที่สองของอเมริกา หรือโฮสต์จีนก็อยากได้คนพูดจีนได้ โฮสต์ที่เคยมีออแพร์ชาติไหนมาก่อนก็อยากได้ออแพร์ชาตินั้นต่อ เพราะออแพร์คนเก่าเคยสอนภาษาเด็กไว้ เด็กจะได้เรียนรู้ต่อเนื่อง
- Professional childcare experience เช่น พยาบาล, ครูปฐมวัย, โค้ชกีฬา, ครูสอนศิลปะ เป็นต้น อันนี้จะดูมีภาษีดีกว่าคนอื่น เพราะถือเป็นประสบการณ์เลี้ยงเด็กที่เป็นทางการ แต่ใครไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ พยายามพรีเซ้นต์ข้อดีอื่นๆ ของตัวเอง
- Flexible โฮสต์มาเป็นโฮสต์ก็เพราะว่างานยุ่งไม่มีเวลากันทั้งนั้น ดังนั้นเค้าก็เลยชอบออแพร์ที่ยืดหยุ่นได้ถ้าเขามีธุระ และวัฒนธรรมคนที่นี่คือต้องมีคืน date night กับสามี/ภรรยาของตัวเองอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง และต้องไปกินข้าว ไปปาร์ตี้ ไปเจอเพื่อนฝูง บางครั้งต้องการออแพร์ที่สามารถเฝ้าเด็กตอนกลางคืนได้ เพราะกฏหมายที่นี่ห้ามทิ้งเด็กอยู่บ้านคนเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ยืดหยุ่นจนเอาเปรียบออแพร์หรือผิดกฏออแพร์ที่ห้ามทำงานเกินวันละ 10 ชม และรวมกันไม่เกิน 45 ชมต่อสัปดาห์ และมีวันหยุดให้อย่างน้อย 1 full weekend ต่อเดือน หากจำเป็นต้องทำเกินจริงๆ ควรจ่ายโอที/เอ้กตร้าให้
- บุคลิกภาพและความสนใจอื่นๆ เช่น Proactive, Energic, Organized, Independen, Funny, รับผิดชอบ, ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง, ชอบงานศิลปะ, ชอบร้องเพลง เล่นดนตรี เป็นต้น อันนี้อยู่ที่การนำเสนอภาพและการเขียนโปรไฟล์ของแต่ละคน ลองนึกดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ในการทำกิจกรรมกับเด็ก โฮสต์คงไม่ชอบใจออแพร์ที่เฉื่อยชาเลี้ยงลูกเขาไปวันๆ นั่งเล่นมือถือเท่าไร (ถึงเขาจะเป็นเองก็ตาม) เขาอยากได้คนที่สามารถพาลูกเขาทำกิจกรรมได้ในขณะที่เขาไม่ว่างต้องไปทำงาน ส่วนความสนใจร่วมกันก็เป็นสิ่งที่ทำให้โฮสต์เลือกเราเหมือนกัน ใครจะคิดว่าการชอบดูหนังเกาหลีจะทำให้โฮสต์แมทช์กับเพื่อนเรา ดังนั้น จงเป็นตัวของตัวเอง พยายามบรรยายสิ่งที่เราชอบ การที่ได้แมชกับโฮสที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกับเรานั้นโชคดีมากๆ
ทำไมโอสต์ถึงเลือกออแพร์ไทย ?
ออแพร์นั้นมาจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเยอรมัน โคลัมเบีย แอฟริกาใต้ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโฮสต์สนใจออแพร์ไทย เพราะประเทศไทยมีชื่อเสียงมาก คนที่นี่รู้จักอาหารไทย และโฮสต์บางบ้านก็เคยไปเที่ยวประเทศไทยหรือมีคนรู้จักเคยไป ออแพร์จากไทยก็เยอะเช่นกัน จากประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัว โฮสต์ที่เลือกออแพร์ไทยเพราะว่า ชอบกินอาหารไทย และลักษณะนิสัยของคนไทยคือใจดี สุภาพ อ่อนโยน อดทน และที่สำคัญมีสัมมาคารวะ ออแพร์ไทยเข้ากับพ่อแม่โฮสต์ได้ดีเลย เขาจะเอ็นดูเรามาก (จากประสบการณ์ตรง)
ใครคิดว่ามีคุณสมับติพร้อม ย้ำอีกครั้ง คุณสมบัติข้อ 1-8 เป็นข้อบังคับ ส่วน 9-15 นั้นค่อยเพิ่มเติมหรือต่อยอดระหว่างออนไลน์ใบสมัครได้ สนใจอยากเป็นออแพร์ ขั้นตอนต่อไป เลือกเอเจนซี่
สนใจก็ลองดู ประสบการณ์ที่มีค่ารอคุณอยู่!
บทความที่เกี่ยวข้อง