วันนี้เพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่าออแพร์ อเมริกามาสดๆร้อนๆเลย อยากมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ (รูปภาพประกอบนำมาจากอินเทอร์เน็ตและถ่ายเองบางส่วนนะคะ)
หลังจากที่เตรียมเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยมีพี่เอเจนซี่ช่วยดู จัดเอกสาร และนัดวันสัมภาษณ์ให้
เราได้คิวสัมภาษณ์ 8โมงเช้า
พี่เอเจนซี่แนะนำให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อยไปเพราะเป็นสถานที่ราชการ และอย่าแต่งหน้าจัดเกินไป เพราะเราไปขอวีซ่าJ1 เป็นวีซ่าแลกเปลี่ยน เคยมีคนแต่งหน้าจัดเต็มแบบบิ๊กอาย ขนตาปลอมยาวเป็นแพ แล้วถูกปฏิเสธวีซ่าด้วยเหตุผลว่าบุคลิกลักษณะไม่เหมาะสมกับวีซ่ามาแล้ว เราก็จัดไปด้วยชุดเดรสสีสุภาพแขนยาวกระโปรงลายจุด รองเท้าหุ้มส้น
เรานั่งBTSไปลงที่สถานเพลินจิต ทางออก5 เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกไฟแดง เลี้ยวซ้ายลงจากสะพานแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆประมาณ5-10นาที หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไปก็ได้ 20บาท เราดูนาฬิกาแล้วเลือกนั่งพี่วินดีกว่า
ไปถึงหน้าสถานทูตเวลา7.30น. กำลังดี เขาบอกว่าให้ไปก่อนคิวนัดล่วงหน้าอย่างน้อย15นาที เพราะเจ้าหน้าที่จะเรียกตามคิว แต่วันนี้เขาคงกลัวแถวยาวมั้งเลยเรียกแบบใครมาก่อนได้ก่อน เราไปถึงเห็นมีคนต่อแถวรออยู่หน้าสถานทูตไม่เยอะประมาณ10คนได้ ไม่รอช้าเรารีบเดินไปต่อท้ายแถวทันที
สักพักจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยถือรายชื่อคนที่มีนัดสัมภาษณ์วีซ่าวันนี้มาแล้วถามหา เอกสารDS160 พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน(ให้เปิดหน้าที่มีรูปถ่ายให้เจ้าหน้าที่ดู) และบอกเวลานัดสัมภาษณ์ หลังจากนั้นเดินไปหน้าประตู จะมีรปภ.แนะนำให้ปิดโทรศัพท์มือถือและเตรียมบัตรประชาชนไว้สำหรับฝากโทรศัพท์มือถือ ก่อนเข้าไปฝากมือถือด้านในได้ ข้างๆกันจะให้เราวางสัมภาระทั้งหมด รวมทั้งเอกสาร กระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือทุกอย่างในกระบะพลาสติกเพื่อสแกน ในจุดนี้หากเราพกอาหารน้ำดื่มอะไรมาด้วย เจ้าหน้าที่จะให้เอาออก ดังนั้นอย่าพกมาดีที่สุด ข้างในมีบริการน้ำดื่ม ส่วนตัวเราก็ถูกสแกนร่างกายเช่นกัน โดยเดินผ่านประตูสแกน และมีเจ้าหน้าที่รปภ.ถือไม้สแกนร่างกายเราอีกรอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อผ่านแล้วจึงไปเอาสัมภาระที่อยู่ในกระบะพลาสติกได้ แล้วก็เดินผ่านประตูเข้าไปด้านในอีก
รูปภาพ คนที่มาต่อแถวรอสัมภาษณ์วีซ่าหน้าสถานทูตอเมริกา
(http://gogoamerica.com/wp-content/uploads/2013/05/1306773162.jpg)
(http://gogoamerica.com/wp-content/uploads/2013/05/1306773162.jpg)
สักพักจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยถือรายชื่อคนที่มีนัดสัมภาษณ์วีซ่าวันนี้มาแล้วถามหา เอกสารDS160 พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน(ให้เปิดหน้าที่มีรูปถ่ายให้เจ้าหน้าที่ดู) และบอกเวลานัดสัมภาษณ์ หลังจากนั้นเดินไปหน้าประตู จะมีรปภ.แนะนำให้ปิดโทรศัพท์มือถือและเตรียมบัตรประชาชนไว้สำหรับฝากโทรศัพท์มือถือ ก่อนเข้าไปฝากมือถือด้านในได้ ข้างๆกันจะให้เราวางสัมภาระทั้งหมด รวมทั้งเอกสาร กระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือทุกอย่างในกระบะพลาสติกเพื่อสแกน ในจุดนี้หากเราพกอาหารน้ำดื่มอะไรมาด้วย เจ้าหน้าที่จะให้เอาออก ดังนั้นอย่าพกมาดีที่สุด ข้างในมีบริการน้ำดื่ม ส่วนตัวเราก็ถูกสแกนร่างกายเช่นกัน โดยเดินผ่านประตูสแกน และมีเจ้าหน้าที่รปภ.ถือไม้สแกนร่างกายเราอีกรอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อผ่านแล้วจึงไปเอาสัมภาระที่อยู่ในกระบะพลาสติกได้ แล้วก็เดินผ่านประตูเข้าไปด้านในอีก
เราก็เดินตามคนหน้าไปเรื่อยๆ ถึงจุดแรกจะเป็นจุดตรวจเอกสารโดยเจ้าหน้าที่คนไทย เขาจะถามหาใบDS160 เรานี่ยื่นเอกสารทั้งปึ๊งที่เตรียมมาเลย แล้วก็ต้องแกะให้เขาใหม่ เพราะเค้าไม่รับทั้งปึ๊ง เขาเก็บไปเฉพาะใบDS160เฉพาะแผ่นแรก, ใบDS2019, SEVIS receipt, transcript และpassport ใส่แฟ้มใส แล้วถามว่าเคยยื่นJ1มาก่อนไหม ถ้าไม่เคยให้หยิบสมุดเล่มเล็กๆในกล่องไปอ่าน พร้อมกับยื่นแฟ้มใสนั้นกลับมา แล้วให้ไปอ่านป้ายสีเขียวก่อนเข้าประตูไปด้านใน
รูปภาพ สมุดเล่มเล็กที่ระบุสิทธิ และความหมายของวีซ่าชั่วคราวประเภทต่าง ๆ
ป้ายเขียวนั้นเขียนแนะนำว่าให้จดเลข tracking numberที่เราได้รับ(อยู่ในแฟ้มใส)ไว้ เพราะเป็นเลขที่พัสดุที่จะส่งพาสปอร์ตกลับมาให้เรากรณีเราผ่านวีซ่า สามารถนำเลขนี้ไปเช็คในเว็บไปรษณีย์ไทยได้ว่าพัสดุเราถึงไหนแล้ว และห้ามใส่เอกสารอย่างอื่นลงไปในแฟ้มใสเกินจากที่เจ้าหน้าที่ใส่ไว้ให้ เราเลยรีบเก็บเอกสารเยอะแยะที่เตรียมมาลงซองเอกสารทันที กลัวทำปนกัน แล้วก็เดินเข้าประตูไปยังหมายเลข15 ตอนเดินผ่านประตูแอบเห็นคนที่สัมภาษณ์เดินสวนออกมาแล้วก็พูดว่า "วีซ่าไม่ผ่าน" รู้สึกกดดัน แต่คิดว่าเราต้องผ่าน ต้องผ่านให้ได้
ด้านในเป็นห้องเล็กๆ มีช่อง1-15 คล้ายๆช่องขายตั๋วบนBTS มีกระจกกั้นระหว่างเรากับเจ้าหน้าที่ และที่กั้นระหว่างช่อง เราจะมองไม่เห็นคนข้างๆเรา แต่ได้ยินเสียง แล้วก็มีเชือกกั้นให้เราเดินคดเคี้ยวตามทางไปเรื่อยๆ
ที่ช่อง15แถวยาวมาก แต่จริงๆก็มีเจ้าหน้าที่บริการตั้งแต่11-15 ถ้าของไหนว่างเขาจะเรียกให้เข้าไปยื่นแฟ้มใสนั้นให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เป็นคนไทยทั้งหมด บางทีเขาอาจจะถามอะไรนิดหน่อย เราก็ตอบไปตามจริง ของเราเขาถามว่าเบอร์โทรศัพท์ปัจจุบันใช่เบอร์นี้หรือเปล่า เราก็ตอบใช่ค่ะ แล้วเขาก็ให้สแกนลายนิ้วมือ เสร็จแล้วจึงไปยังช่องหมายเลข10
ที่ช่องหมายเลข10 เรายื่นบาร์โค้ดที่อยู่บนDS160ให้เจ้าหน้าที่ฝรั่งสแกน เสร็จแล้วเขาจะบอกให้เราสแกนนิ้วมือขวา4นิ้วติดกัน เจ้าหน้าที่พูดภาษาไทยได้นะ แต่เราพูดอังกฤษกลับไป55 คือพยายามพูดภาษาอังกฤษจะได้ไม่หลุดตอนสัมภาษณ์ Thank you เสร็จแล้วก็เดินตามทางไปเรื่อยๆไปหยุดตรงช่องสัมภาษณ์
รูปภาพ รอสแกนนิ้วมือกับเจ้าหน้าที่
(http://www.educatepark.com/wp-content/uploads/2011/10/interview-usa-visa.jg)
(http://www.educatepark.com/wp-content/uploads/2011/10/interview-usa-visa.jg)
ช่องสัมภาษณ์จะเป็นช่อง 1-9 เวลาสัมภาษณ์ก็พูดผ่านtelecomที่ติดอยู่ คือเสียงมันดังมาก เราจะได้ยินหมดว่าใครพูดอะไร ได้ยินตั้งแต่ต่อแถวรอสแกนนิ้วอ่า ตอนนั้นสติหลุดไปนิดนึง แต่พี่เอเจนซี่ได้กำชับไว้แล้วว่าให้พยายามมีสติ มองหน้าคนสัมภาษณ์ อย่าไปสนใจว่าช่องข้างๆพูดอะไร ไม่งั้นเราจะหลุดแล้วตอบคำถามคนสัมภาษณ์ไม่ได้ ตอนเราไปช่องสัมภาษณ์เปิดอยู่3ช่อง ช่องแรกเป็นฝรั่งผู้ชายดูใจดี พูดช้า ฟังชัด ช่องกลางเป็นผู้หญิงผิวสี และช่องสุดท้ายเป็นผู้ชายผิวสี ตอนเราต่อแถวสแกนนิ้วเราก็มองๆฟังๆคนอื่นสัมภาษณ์กัน ส่วนใหญ่ก็ผ่านหมดนะ เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์พูดไทยได้ทุกคน แต่ไม่อยากเข้าช่องสุดท้ายเลย เพราะเจ้าหน้าที่หน้าดุ แต่คนที่เข้าช่องนี้ก็ผ่านนะ ถ้าใครขอวีซ่าท่องเที่ยวเขาก็สัมภาษณ์ภาษาไทย ถ้าออแพร์อย่างเราก็สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
รูปภาพ ขณะสัมภาษณ์วีซ่ากับเจ้าหน้าที่
(http://www.bloggang.com/data/a/amo-i/picture/1448169592.jpg)
(http://www.bloggang.com/data/a/amo-i/picture/1448169592.jpg)
เราได้ช่องผู้หญิงผิวสีจ้า เขาทักมาว่าสวัสดี เรารีบตอบไปGood morning พร้อมรอยยิ้มสวยๆ1ที เขามองหน้าแล้วบอก Good morningตอบ หลังจากนั้นคำถามแรกก็ยิงมาทันที
📢จนท. : ?$&@!!$&@ ?
👩เรา : ….. (สตั้นไป3วิ ถามว่าไรนะ แต่จากที่เตรียมซ้อมสัมภาษณ์มา คำถามแรกต้องถามว่าคุณจะไปอเมริกาทำไม หรือไปที่ไหนนี่แหละ แล้วมันwhere หรือ why วะ ? กลั้นใจตอบทั้งwhereและwhy) I want to be an Au Pair in Florida. (จริงๆควรตอบว่า I’ll be an Au Pair in Florida จะดีกว่า)
📢จนท. : in Florida?
👩เรา : Yes (เขาถามว่า where นี่เอง)
📢จนท. : Why do you want to be an Au Pair?
👩เรา : Because I want to get different childcare experience and improve my English skill.
📢จนท. : Do you have childcare experience in Thailand?
👩เรา: Yes, I’m a.................
📢จนท. ?$&@!!$&@host family?$&@!!$&@living?
👩เรา : …. (สตั๊นอีกแล้วจ้า) เอิ่มมม..มม my host..
📢จนท. เห็นเราเอิ่มมมนาน เลยถามอีกรอบ แต่ปากเราไวกว่าเลยชิงตอบก่อน
👩เรา : my host dad is...........and my host mom is..........................
📢จนท. : Excellent. How many children you’ll care?
👩เรา : 1 baby. about 3 months old.
📢จนท. Do you have the small book? Did you read it?
👩เรา: Yes, I have it. It's about my rights when I work there.
📢จนท. : OK. You visa’s approved. We’ll send it to you around 1 week. (พร้อมกับคืน transcript ให้ นอกนั้นเก็บไปหมดเลย)
👩เรา : OK. Thank you so much. เรารีบเก็บใบtranscripts เดินออกมาเลย กลัวเขาเปลี่ยนใจ55
เดินตามทางเดินออกมา ไม่เจอเพื่อนสักคน(เพื่อนมากันตั้งแต่6โมงกว่า) เราแลกมือถือคืน แล้วก็ออกมาด้านนอกรีบเปิดเครื่องแชทหาเพื่อนทันทีว่าต้องทำไรต่อ นี่ผ่านคือเสร็จแล้วจริงๆเหรอ แล้วก็สบายใจได้ เสร็จเรียบร้อยจริงๆ เดี๋ยวเขาจะส่งพาสปอร์ตและวีซ่ากลับมาให้ทางไปรษณีย์ ใช้เวลาทั้งหมด1ชม (7.30-8.30 น.)
ขากลับเดินไปขึ้นBTSเพลินจิตร ก็ไม่ไกลเท่าไรนะ แต่ตอนมารู้สึกไกล+รีบด้วยกลัวไม่ทัน
ตอนนี้ยังตื่นเต้นไม่หายเลย ^^ อเมริกาจ๋ารอก่อนนะ
📌สรุปการสัมภาษณ์วีซ่าออแพร์ อเมริกา📌
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
- แต่งกายให้เรียบร้อยสุภาพ แต่งหน้าพอควรให้ไม่ดูโทรมจนเกินไป
- เอาปากกาไปด้วย ไว้จดเลขพัสดุ
- ไปถึงก่อนเวลาสัก 30นาทีกำลังดี
- ไม่ต้องเอาสัมภาระไปเยอะ สิ่งของที่ห้ามเอาไปได้แก่ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ (ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ1เครื่อง) ของมีคม อาวุธ อาหาร น้ำดื่ม เอากระเป๋าถือไปแค่ใบเดียวก็พอ ซองใส่เอกสารหรือแฟ้มเอาเข้าได้
- มีสติจดจ่อกับคนสัมภาษณ์ ตอบแบบมั่นใจฉะฉาน กระชับ ไม่ต้องใส่รายละเอียดมาก แต่ต้องตอบให้ตรงคำถาม หากได้ยินไม่ชัดก็ Sorry, again pleseได้
- อย่าลืมอ่านสมุดเล่มเล็กที่เกี่ยวกับสิทธิของเราที่เขาแจกให้มาก่อนสัมภาษณ์ด้วยนะ ก็อ่านคร่าวๆตอนต่อแถวนี่แหละ เดินไปอ่านไป เปิดผ่านๆ ให้พอรู้ เผื่อเขาถาม หากตอบเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ก็บอกว่า sorry, can I explain in Thai?
เจ้าหน้าที่ไม่ได้โหดร้ายเหมือนอย่างที่เคยได้ยินมาเลย ค่อนข้างใจดีด้วยซ้ำ เขาจะคอยบอกตลอดว่าไปไหนต่อๆ ถ้าจำไม่ได้ก็เดินตามคนหน้าเลย เราเป็นพวกชอบหลงทิศทาง แล้วมาคนเดียวด้วย เลยจำสีเสื้อผู้ชายคนข้างหน้าที่เค้ามากันเป็นกลุ่มแล้วเดินตามเขาไปเรื่อยๆ ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ทำตามคนข้างหน้าเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น