วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

จบโครงการออแพร์ เตรียมตัวกลับไทย

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ในฐานะผู้ถือวีซ่าชั่วคราว (Temporary non-immigrant visa) ระยะเวลาที่เป็นออแพร์ในอเมริกา 1-2 ปีนี้ได้ประสบการณ์ที่มีค่ามากมาย เมื่อจบโครงการแล้วบางคนเลือกเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดของตัวเอง และคงไม่ได้กลับมาอเมริกาอีกสักพัก


ทบทวนสิ่งที่ต้องทำก่อนเดินทางกลับประเทศ
1. มีอะไรที่อยากทำอีก
         มีอะไรที่อยากทำหรือมีที่ที่อยากไปในอเมริกาแล้วยังไม่ได้ทำ/ไปก็ทำซะ ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายทีหลัง

2. ตกลงวันทำงานวันสุดท้ายกับโฮส ใช้เวเคชั่นให้หมด
         ต้องคุยกับโฮสต์และLCC ตกลงกันให้ดีว่าจะทำงานถึงวันไหน แล้วจะได้รับค่าจ้างอย่างไร เพราะวันจบโครงการออแพร์บางคนอยู่ระหว่างกลางสัปดาห์
         อีกเรื่องคือวันลาพักร้อนหรือ Vacation ถือเป็นสิทธิของเราที่จะได้หยุดงานและไปเที่ยวโดยได้รับค่าจ้างรายสัปดาห์ปกติ บางคนเลือกที่จะเก็บไว้ใช้ 1-2 อาทิตย์ก่อนจบโครงการเพื่อเที่ยวและเตรียมตัวกลับไทย
         บางคนอาจมีช่วง Overlap time คาบเกี่ยวระหว่างออแพร์ใหม่ อาจต้องช่วยสอนงานให้ แต่ตามกฏแล้วออแพร์ไม่จำเป็นต้องมีช่วง overlap นี้ทุกคน และจะมีได้ก็ต่อเมื่อโฮสต์มีห้องว่างให้ทั้งออแพร์เก่าและออแพร์ใหม่แยกกัน
     
3. เคลมประกันให้ครบ
         ใครที่เคยไปหาหมอ หรือรับการรักษาพยาบาลใดๆ ระหว่างเป็นออแพร์ อย่าลืมทำเรื่องเคลมเงินให้เรียบร้อยก่อนกลับ เพราะบางครั้งอาจใช้เวลานาน

4. ส่งหลักฐานการเรียน
         สำหรับใครที่เรียนครบ 6 เครดิตอย่าลืมส่งหลักฐานการเรียนให้กับทางเอเจนซี่ เพราะจะได้รับใบประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการออแพร์ในอเมริกาไว้เป็นที่ระลึกและเป็นเครื่องรับรองความสำเร็จของตัวเอง โดยส่วนใหญ่จะได้รับใบประกาศนียบัตรหลังกลับจากไทยแล้ว

5. ยกเลิกสมาชิกต่างๆ
         เผื่อบางคนมีสมัครสมาชิกเสียรายเดือนอะไรไว้ อย่าลืมยกเลิกก่อนกลับไทยนะ

4. จองตั๋วเครื่องบิน
         ทางเอเจนซี่จะส่งอิเมล์มาถามประมาณ 3 เดือนก่อนจบโครงการว่าจะอยู่ต่อเดือนเที่ยวไหม หรือจะกลับประเทศไทยเลย แล้วให้ทำเรื่องจองตั๋วเครื่องบินกลับ โดยส่วนใหญ่จะให้บินวันธรรมดา และต้องบินจากสนามบินที่ใกล้บ้านโฮสต์ไปยังประเทศไทยเท่านั้น (บางเอเจ้นซี่ยกเลิกการขอตั๋วต่างสนามบิน หรือแวะไปลงประเทศอื่นๆ ที่ต้องการก่อนกลับไทย) นอกจากนี้ ออแพร์ยังสามารถขอจองตั๋วเครื่องบินกลับรอบเดียวกับเพื่อนได้ สำหรับใครที่แพ้อาหาร หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งเอเจ้นซี่ด้วย *ตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมจากเอเจ้นซี่

5. เก็บของ
         ทยอยเก็บของที่ไม่ใช้ ไม่จำเป็น ส่งต่อหรือขายต่อ จะได้มีพื้นที่กระเป๋าสำหรับใส่ของฝากกลับไทย ของบางอย่างเราส่งพัสดุทางเรือกลับไทยเอา เพราะจะเกินน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดได้
          👉 เสื้อผ้าไม่ใช้แล้ว เอาไปไว้ไหนดี

6. ซื้อของฝาก
          เช่น เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโทรศัพท์มือถือ ขนมต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกา ของที่ระลึก พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น โปสการ์ด เป็นต้น *ระวัง ถ้าจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ากลับไทย เพราะขนาดกำลังไฟฟ้าที่อเมริกาต่างจากไทย ซื้อแล้วอาจไม่สามารถใช้ที่ไทยได้

7. อำลา ให้ของที่ระลึก
         บอกลาเพื่อนๆ และโฮสต์แฟมิลี่ อาจนัดวันทานอาหารค่ำมื้อพิเศษหรือมีงานเลี้ยงอำลาเล็กๆ น้อยๆ บางคนก็อาจจะทำของที่ระลึกให้ เช่น อัลบั้มรวมรูป แลกEmail Fcebook Instragram Skype สำหรับติดต่อถึงกัน และพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ตลอดปีของการเป็นออแพร์ที่ผ่านมา
8. เช็คตั๋วเครื่องบิน
          ตรวจสอบชื่อนามสกุลและข้อมูลส่วนตัวของตนเอง ถ้าไม่ถูกต้องให้รีบแจ้งเอเจนซี่
          ตรวจสอบสายการบิน วันเวลา ต้องต่อเครื่องที่ไหน กี่ครั้ง ขึ้น-ลงที่สนามบินใด *การต่อเครื่องที่ยุโรป ถ้าlayoverเกิน 1 ครั้ง หรือระยะเวลาต่อเครื่องนานเกิน 24 ชม หรือออกจากสนามบินจะต้องมีTransit Visa ด้วย ถ้าไม่อยากเสียค่าทำวีซ่าก็ควรแจ้งเอเจ้นซี่ให้เปลี่ยนตั่ว
          ตรวจสอบน้ำหนักและจำนวนกระเป๋า อาหารบนเครื่อง และอย่าลืมแจ้งครอบครัวที่ไทยไว้ด้วย
         ก่อนเดินทางอย่างน้อย 72 ชั่วโมง ควรเข้าไปตรวจเช็ค Flight information อีกครั้ง ในเว็บของการสายกิน โดยนำรหัสการจอง (Booking Number) หรือ Flight number ใส่ และอาจกรอกข้อมูล Passenger ไว้ รวมถึงเช็คสภาพอากาศของประเทศที่ต้องไปต่อเครื่องและประเทศไทยเพื่อที่จะได้เลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม
         สำหรับใครที่ต้องการ upgrade ที่นั่งจาก Economy เป็น Business หรือ First Class สามารถทำได้เองโดยติดต่อสายการบิน หรือทำผ่านเว็บไซต์สายการบิน โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แลกกับขนาดที่นั่ง พื้นที่วางขาที่กว้างขึ้น และอาจได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มขึ้น
         *ใกล้ๆ เดินทางควรเช็คอีกรอบเผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง และนัดหมายกับที่บ้านไว้ว่าจะมารอรับที่ประตูไหน กี่โมง

9. วางแผนสิ่งที่จะทำในไทย 1 สัปดาห์แรก และเตรียมรับมือกับ reverse cultural shock
         สิ่งที่ต้องทำในระยะแรก เช่น ซื้อซิมโทรศัพท์, เที่ยว/พบปะกับครอบครัว ญาติ เพื่อน, สอบTOEIC, ตรวจสุขภาพ, สมัครงาน/สมัครเรียน เป็นต้น
          Reverse cultural shcok คือ สภาวะที่รู้สึกไม่มีความสุข/ไม่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองหลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาระยะหนึ่ง ต้องใช้เวลาและการปรับตัวทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทัศนคติ

10. โอนเงินกลับไทย ปิดบัญชี
         สำหรับคนที่ต้องการโอนเงินกลับประเทศไทย (wire transfer) ควรโอนก่อนปิดบัญชีอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เผื่อกรณีมีปัญหาจะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารและแก้ไขได้สะดวก เอกสารที่ต้องใช้คือ Passport คิดค่าธรรมเนียมในการโอนประมาณ $45 แล้วแต่ธนาคาร และต้องรู้ Swfit code ของธนาคารที่ไทยที่ต้องการโอนเงินไปด้วย ควรตรวจสอบทางเว็บไซต์หรือโทรสอบถามธนาคารก่อน หรือหากต้องการโอนผ่านแอพลิเคชัน เช่น TransferWise หรือ Paypal ก็สามารถทำได้ มีค่าธรรมเนียมและระยะเวลาที่ได้รับเงินแตกต่างกันไป                 
         หากต้องการปิดบัญชี (Close Account) ควรหยุดซื้อของออนไลน์ หรือจ่ายเงินผ่านบัตรเดบิต/เครดิต หรือทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ อย่างน้อย 3 วันก่อนปิดบัญชี เพราะว่าบางครั้งรายการที่ทำยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังขึ้นอย่า Pending หรือ Processing อยู่ ธนาคารก็จะไม่สามารถปิดบัญชีให้ได้ ต้องรอทุกรายการเสร็จสมบูรณ์ ยอดเงินในบัญชีนิ่งก่อน เอกสารที่ใช้ปิดบัญชีคือ Photo ID อย่างเดียว เมื่อปิดบัญชีแล้ว ธนาคารก็จะคืนเงินที่เหลือในบัญชีมาให้เป็นเงินสด

11. ทำความสะอาดห้องนอน คืนของ
          คืนซิมโทรศัพท์ บัตรรถไฟ กุญแจบ้าน กุญแจรถ ฯลฯ ที่โฮสต์ให้ยืมใช้ระหว่างเป็นออแพร์ให้เรียบร้อย หรือส่งต่อให้ออแพร์คนใหม่ใช้ ของที่ไม่สามารถขนกลับทางเครื่องบินหมด สามารถนำไปบริจาคหรือส่งพัสดุทางเรือกลับได้

"การจากลา ไม่ได้หมายความว่า...จะไม่เห็นหน้ากันตลอดไป 
ยังเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ไว้ในความทรงจำ
คิดถึงเมื่อไรก็โทรหาโฮสต์ เด็ก และเพื่อนๆได้"

บทความที่เกี่ยวข้อง
👉 ปีเดียวไม่พอ อยู่ต่อเลยได้ไหม (Extend Au Pair's program)
👉 เดือนเที่ยว (travel grace period) ออแพร์ในอเมริกา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น