วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563

คิดถึงอาหารไทย ต้องไปเอเชียนมาร์เก็ต

สวัสดีค่ะออแพร์ไทยในต่างแดน กินแต่อาหารฝรั่งขนมปังแห้งๆ ชีสมันๆเค็มๆ นมเนยกินจนท้องอืด ท้องผูกกันไป บางครั้งก็เกิดอาการเหงาปาก คิดถึงอะไรแซ่บๆ บ้างใช่มั้ยคะ


แรกๆ ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ก็พุ่งไปเลยค่ะ Thai restaurant สามารถเสิร์ชหาร้านใกล้บ้านได้โดยแอพลิเคชันยอดนิยม Yelp (คล้ายๆ แอพวงในบ้านเรา)

 
(http://is4.mzstatic.com/image/thumb/Purple122/v4/72/89/cb/7289cbe3-8b43-210e-9542-d74e51e1fc94/source/1200x630bb.jpg)
 (http://is4.mzstatic.com/image/thumb/Purple122/v4/72/89/cb/7289cbe3-8b43-210e-9542-d74e51e1fc94/source/1200x630bb.jpg)

👉 แอพลิเคชันที่ควรมีเมื่อไปอเมริกา

 

โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ หรือเมืองท่องเที่ยว จะมีร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ (Authentic Thai food) อร่อยๆ เยอะมาก อู้ววว ตำถาดก็มี ปลาร้านัวๆ แกงส้มชะอมไข่ ต้มเลือดหมูก็มี นอกจากนี้ยังมีขนมไทยอร่อยๆ ตบท้ายด้วย  หรือจะโทรสั่งตามเพจเฟสบุ๊คคนไทยที่ทำอาหารไทยขาย ไส้อั่วเอย น้ำพริกเอย เดลิเวอรี่ถึงที่เลย สะอาดปลอดภัยไร้สารกันบูด

แต่ครั้นจะไปทานอาหารไทยใน Restaurant บ่อยๆ หรือซื้อทานข้างนอกก็กระเป๋าฟีบเหมือนกัน เพราะออแพร์ ออพัวร์ (Poor) อย่างเรารายได้แสนจะน้อยนิด เราจึงต้องหัดทำอาหารเอง เชื่อว่าออแพร์ทุกคนที่ไม่เคยมีพื้นฐานทำอาหารมาก่อนจบโครงการกลับไปมีสกิลการทำอาหารเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าแน่นอน

แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้จักแหล่งวัตถุดิบกันก่อน

ที่ๆ เราจะสามารถหาวัตถุดิบ เครื่องปรุง หรือแม้แต่อุปกรณ์สำหรับทำอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นครก หวดนึ่งข้าวเหนียว ฯลฯ รวมถึงขนมนมเนยที่แสนคุ้นปากในไทยแต่หาไม่ได้ในGrocery ทั่วไปของอเมริกา
สถานที่แห่งนั้นคือ Asian market นั่นเอง!!

https://www.youtube.com/watch?v=Z8ITfW7M3fU

เอเชียนมาร์เก็ต มีทั้งเจ้าของคนไทย คนจีน คนญี่ปุ่น คนเกาหลี คนเขมร คนลาว ฯลฯ โดยถ้าเจ้าของเป็นชนชาติไหนก็จะมีสินค้าของประเทศนั้นเยอะหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีวัตถุดิบไทยๆ ด้วย เช่นเครื่องแกงต่างๆ กะทิกระป๋อง ผักสด พริกสด ซีอิ๋ว น้ำปลา น้ำจิ้มสุกี้ น้ำพริกเผา เต้าเจี้ยว มาม่า เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดต่างๆ หน่อไม้กระป๋อง เต้าหู้ เนื้อสัตว์ ลูกชิ้นแช่แข็ง ลูกอม ขนมกรุบกรอบ ป๊อกกี้ ฯลฯ 

น้ำพริกยี่ห้อแม่ศรี เป็นยี่ห้อที่พบเห็นได้ทั่วไปในเอเชียนมาร์เก็ตของอเมริกา กระป๋องละ $1 กว่าๆ แต่ทำแกงได้หม้อนึง ประหยัดกว่าไปซื้อกินนอกบ้านมาก
บางที่ก็จะมีผงปรุงรสโลโบขายด้วย ราคาประมาณ $1-2 เท่านั้น


ใบชาต่างๆ

หมูแผ่น หมูหยองก็มีนะ

ผลไม้และผักสด ส่วนใหญ่จะปลูกในอเมริกาเลย เป็นไร่สวนของชาวจีน ว่ากันว่าต้องล้างให้สะอาดเพราะยาฆ่าแมลงเยอะ (ไม่รุ้จริงหรือเปล่า) แต่เราก็ชอบมาซื้อที่นี่เพราะถูกกว่า Grocery ของฝรั่ง แล้วก็มีผักที่เราต้องการ เช่น ผักบุ้ง กุยช่าย ผักกาดขาว ผักคะน้า ที่หาไม่ได้ใน Grocery ของฝรั่ง
แต่ผลไม้ เราจะซื้อผลไม้ฝรั่งกินเพราะมันถูกกว่ามาก พวกเบอร์รี่ถ้าเทียบกับเมืองไทย กินให้คุ้มก่อนกลับไทย พวกผลไม้Tropical พวกนี้มาขายที่อเมริกาแพงมาก แล้วก็ไม่ค่อยหวาน ไม่มีน้ำชุ่มๆ เหมือนซื้อที่ไทย เคยเจอสาลี่แพงมากกก แต่จืดสนิทและแห้งมาก มังคุดลูกแคระแกระไม่มีเนื้อเลย กินผลไม้เมืองนอกดีกว่า

ที่เอเชียนมาร์เก็ตนี้จะมีมุมขายเนื้อสัตว์เหมือนตลาดสดบ้านเราด้วย มีทั้งหมู เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง หอย ปลาหมึก เค้าก็จะจับสดๆ แบบนี้แล้วฆ่าให้เราเลย มีบริการล้าง ถอดเกล็ด และสับให้ด้วย เราไม่ค่อยกล้าซื้อเพราะดูสกปรก ส่วนใหญ่จะซื้อเนื้อสัตว์ที่Grocery ฝรั่งมากกว่า 

นอกจากนี้ก็จะมีมุมอาหารแช่แข็ง ลูกชิ้นต่างๆ ซาลาเปา เกี๊ยว แหนม ฯลฯ ซึ่งเราก็นานๆ กินทีเพราะพวกนี้ใส่สารเยอะ ไม่ดีต่อสุขภาพ ไปซื้อแบบที่เขาทำสดๆ ดีกว่า

เอเชียนมาร์เก็ตบางแห่งก็มีมุมร้านอาหารด้วยนะ


มาดูกันว่าตลอด 2 ปี เราทำเมนูอะไรกินบ้าง ??

เราพยายามเลือกเมนูที่กลิ่นไม่ฉุน เพราะบ้านฝรั่งเป็นระบบปิด และเครื่องปรุงของไทย น้ำปลา กะปิ กระเทียม กลิ่นแรงๆ ทั้งนั้น

อาหารส่วนใหญ่เราทำกินเอง ทำเผื่อโฮสบางที เมนูที่ทำบ่อยที่สุดคือผัดไทวุ้นเส้น เพราะโฮสไม่เคยกินวุ้นเส้น และโฮสบอกว่าเราทำอร่อยกว่าที่เค้าเคยกินที่ร้าน (เราดัดแปลงสูตรเล็กน้อย โดยใส่เกลือแทนน้ำปลา)

ข้าวคลุกกะปิ อยากกินมาก พอทำเสร็จได้กินน้ำตาจะไหล คิดถึงบ้าน (หมูหวานนี้ใช้เนื้อไก่แทน แล้วก็ไม่ได้ใส่ซีอิ๊วดำเลยสีไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่รสชาติอร่อยมาก T^T )

หมูมะนาวพริกสด กับข้าวสวยร้อนๆ ข้าวหอมมะลิที่นี่อร่อยมาก คงเพราะคัดพิเศษสำหรับส่งออก
ลืมบอกว่าที่นี่เค้ามีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเหมือนเมืองไทยนะ แต่เค้าไม่นิยมใช้กัน เค้าชอบใช้หม้อธรรมดาหุงเอา ก็ออกมาเม็ดสวยอยู่นะ 

ลาบไก่ ปูอัดผัดผงกะหรี่ ใช้เครื่องปรุงโลโบ แล้วก็ซุปมันฝรั่งน่องไก่

วันดีคืนดีก็ต้มมาม่ากิน ที่นี่มีขายมาม่าต้มยำกุ้ง มาม่าเกาหลี มาม่ามาเลย์ก็อร่อยนะ

เมนูนี้ไม่ได้ทำเอง แต่โฮสซื้อชุดผัดผักรวมมิตรแบบแช่แข็งมาให้ วิธีปรุงก็แค่เอาออกมาผัดๆ แล้วใส่เครื่องปรุงที่เค้าให้มา อาหารแช่แข็งแบบนี้ที่นี่สดมากแล้วก็ไม่เค็มเหมือนอาหารแช่แข็งบ้านเราเลย แบบหน้าซองเป็นรูปยังไงทำออกมาก็เป็นอย่างนั้น

เมี่ยงปลานึ่งกินกับขนมจีน อลังการมาก เมนูนี้เพื่อนทำให้ เรามีหน้าที่ซื้อวัตถุดิบ ปลาที่ถูกที่สุดของที่นี่หนีไม่พ้นปลานิล เรียกว่า Tilapia เวลาไปซื้อก็ชี้ว่าจะเอาตัวไหน แล้วก็ให้เขาล้างทำความสะอาด ขอดเกล็ดให้ แต่ต้องรีบบอกว่าอย่าหั่นนะ เพราะฝรั่งเค้าไม่กินปลาทั้งตัวแบบนี้กัน แต่คนเอเชียกินเป็นเรื่องธรรมดา มาถึงก็ล้างอีกรอบ ยัดไส้ปลาด้วยเครื่องสมุนไพร ตะไคร้ใบมะกรูด เอาไปนึ่ง แล้วก็ทำน้ำจิ้มถั่วแซ่บๆๆ เรียกเพื่อนมากินกัน อร่อยมาก

เมนูเพื่อนทำ ผัดกะเพราไข่ดาว ที่ไม่มีใบกะเพรา 555 ขนาดโฮสต์คิดส์ยังมากินด้วยเลย เลี้ยงจนเป็นลูกคนไทยไปแล้ว วันดีคืนดีก็นึ่งข้าวเหนียวให้กินกับชีส

เมนูข้าวมันไก่ เพื่อนทำอีกเช่นกัน อร่อยได้ไม่ต้องใช้โลโบ

อันนี้ดูไม่ค่อยน่ากินเพราะเอาใส่กล่องข้าวไว้ มันคือเมนูขนมจีนแกงเขียวหวานเต้าหู้ เพราะมีช่วงนึงเบื่อไก่มาก หน่อไม้ที่ใช้เป็นหน่อไม้กระป๋อง กับข้าวโพดอ่อนกระป๋อง แล้วก็ใช้ซูกินีแทนฟัก กับพริกหวานเพิ่มสีสันและรสชาติ เครื่องแกงเขียวหวานยี่ห้อแม่ศรีเช่นเคย หลังๆ ใช้ไม่หมดกระป๋องเพราะโฮสต์บอกเผ็ดไป

เมนูโปรดอีกหนึ่งของโฮสต์ เพราะโฮสต์ไม่เคยกินราดหน้า ใช้เส้นหมี่แทนเพราะเส้นหมี่แห้งเก็บได้นาน จริงๆ ผักคะน้าที่นี่ก็มี แต่เราชอบใช้ Bokchoi มากกว่าเพราะถูกกว่า ที่บ้านชอบซื้อเบบี้แครอทก็ใส่ลงไป เห็ดอะไรไม่รู้โฮสชอบซื้อ ผสมๆกับผักกาด เนื้อไก่ ใช้แป้งข้าวโพดแทนแป้งมัน เพราะขี้เกียจไปซื้อ ซื้อมาก็ใช้ไม่หมด เปลืองเงิน

เมนูโปรดของโฮสต์ ทำบ่อยมาก ต้มข่าไก่ หรือ Coconut soup ทำง่ายมากใช้ผงโลโบ หรือจะทำเองก็ได้

เมนูง่ายๆ ข้าวผัด กับแกงจืดผักกาดขาวใส่สาหร่าย

เมนูนี้ก็ทำค่อนข้างบ่อย เพราะขี้เกียจ เลยไปซื้อเกี๊ยวแช่แข็งมาก ลวกเส้นบะหมี่กับผัก ราดซีอิ๊วดำ ปรุงรส อร่อยมาก

ก๋วยเตี๋ยวไก่พะโล้ เส้นเล็ก

อันนี้เพื่อนทำ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เส้นหมี่ มีลูกชิ้นด้วย




ใครจะเชื่อนี่คือเมนู หมูกระทะ!!! เพื่อนทำให้ หมักหมูหมักเนื้อ ทำน้ำจิ้มรสเด็ด ย่างกันกลิ่นตลบอบอวลห้องไปเลย กินแล้วน้ำตาจะไหลอีกเช่นกัน

ที่เอเชียนมาร์เก็ตมีชาตรามือด้วยนะ เหงาๆ ก็ต้มชาเย็นกิน มีนมข้นหวานขายด้วย

สลัดผลไม้จ้า
บางครั้งเพื่อนก็ตำส้มตำให้กิน วัตถุดิบก็ดัดแปลงกันไปตามที่มี ตำบีทรูทใส่ปลาร้าก็อร่อยนะ กรุบๆกรอบๆ เพราะมะละกอที่นี่แพง

เอเชียนมาร์เก็ตเล็กๆ แถวบ้านไม่มีเต้าหู้ไข่ขาย ทำเองเลยจ้า ตอกไข่ใส่นมถั่วเหลือง ใส่เหลือนิดหน่อย เอาไปนึ่งไฟอ่อนๆ ออกมาหน้าตาเหมือนไข่ม้วน แต่รสชาติกับเนื้อสัมผัสใช่เลย

แล้วก็เอามาทำเมนูนี้ ผัดเต้าหู้ไข่

จริงๆ เมนูที่ทำบ่อยสุดคือแกงมัสมั่น เพราะชอบกินมันฝรั่ง บางครั้งก็กินกับอาจาดและแป้งของชาวเปอร์เซียที่คล้ายๆ โรตี ฟินมาก

แล้วก็ผัดไทย เพราะโฮสต์ชอบขอให้ทำให้กิน บางครั้งก็ไปซื้อกุยช่ายมาใส่จริงๆ กุยช่ายที่นี่กลิ่นไม่แรงเท่าที่ไทย แทบไม่มีกลิ่นเลย บางครั้งก็ใช้ต้นหอมแทนเพราะหาซื้อได้ทั่วไป ฝากโฮสต์ซื้อGroceryธรรมดาเอา ขี้เกียจไปเอเชียนมาร์เก็ต แล้วก็ซื้อเต้าหู้ ที่นี่ไม่มีเต้าหู้เหลืองที่ใส่ผัดไทยนะ มีแต่เต้าหู้ขาวกับเต้าหู้หลอด ก็เลือกเต้าหู้ญี่ปุ่นแบบแข็งที่สุดมา เพื่อเวลาผัดจะได้ไม่เละ น้ำซอสผัดไทยแบบสำเร็จรูปก็มีขายนะ แต่หวานไป ทำเองเลย ใช้น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เกลือ น้ำตาล ผัดๆ รวมกับเส้น ใส่ไข่ ใส่ถั่วงอก ใส่กุยช่าย ใส่เต้าหู้ เสิร์ฟพร้อมถั่วลิสงที่ทุบเองกับมือ บีบน้ำมะนาวใส่ อร่อยน้ำตาไหล

ว่างๆ ก็ทำขนมไทยด้วยนะ เคยซื้อถั่วเขียวกะเทาะเปลือกมานั่ง ปั่นลูกชุบจ้า ว่างไปอีก เพราะว่าโฮสต์ไปเที่ยว ทิ้งเราอยู่บ้านคนเดียว

พอให้หายคิดถึงอาหารไทย จริงๆ ทำเยอะกว่านี้ แต่รูปหายไปหมดแล้ว

ไปเอเชียนมาร์เก็ตทีละ $50-60 ทำอาหารให้คนกินได้ทั้งบ้าน ประหยัดมากๆ Healthy ด้วย วิธีทำก็ดูในกูเกิล ในยูทูปเอา ทำๆ ไปก็อร่อยเอง ตอนอยู่ไทยเราไม่เคยทำอาหารเลย มากสุดแค่ไข่เจียวกับผัดกะเพรา มาอยู่นี่ทำแกงกินเอง แม่ไม่เชื่อ เลยต้องถ่ายรูปไปยืนยัน

อยู่ที่ไหนเราก็ Enjoy eating ได้

ปิดท้ายวันนี้ด้วยคำถามที่โฮสต์สงสัย
"Red Curry, Yellow Curry, Green Curry, แกงไหนเผ็ดน้อยสุด?"
ทำเอาเรางงไปเลย Red curry  ยังพอเดาได้ ว่าแกงเผ็ด, Green curry น่าจะเป็นแกงเขียวหวาน, Yelloww curry นี่สิ ต้องไปหาดูในเอเชียนมาร์เก็ตแล้วถึงบางอ้อว่า มันคือแกงกะหรี่นั่นเอง
ไม่รู้อะไรเผ็ดน้อยสุดเลยตอบไปว่าต้มข่าไก่ (Coconut soup) โฮสต์บอกนั่นไม่ใช่แกง นั่นคือซุป 55


บทความที่เกี่ยวข้อง
👉 แหล่งช้อปปิ้งในอเมริกา












วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563

รวมคำถาม-คำตอบ inbox จากลูกเพจ ปี2019



Q1: สนใจค่ะ ขอรายละเอียดได้ไหมคะ?
A: สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่สนใจในเนื้อหาของเพจนะคะ ขอแจ้งว่าทางเพจนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่บทความที่เขียนขึ้นเกี่ยวกับชีวิตออแพร์ในอเมริกา ไม่ได้มีส่วนในการจัดหาออแพร์มาอเมริกาค่ะ

ทางเพจแนะนำได้แค่ขั้นตอนการเป็นออแพร์ในอเมริกาค่ะ สนใจอ่านต่อที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/04/howtobecomeaupair.html?m=1


Q2: อยากทราบว่า การเก็บชั่วโมงนี่ต้องได้ใบรับรองหรือ อะไรยังไงไหมคะ?
A: แต่ละเอเจนซี่จะให้ใบสำหรับเขียนรับรองประสบการณ์ดูแลเด็กมาให้ค่ะ ซึ่งแบ่งเป็นประสบการณ์แบบเป็นทางการ เช่น เป็นครู เป็นพยาบาล เรียนจิตวิทยาเด็กโดยตรง เคยฝึกงานที่เนิร์สเซอรี่ ฯลฯ อีกแบบนึงคือประสบการณ์แบบไม่เป็นทางการ เช่น เคยเลี้ยงน้อง เลี้ยงลูกให้พี่สาว ให้ญาติ ให้เพื่อน เป็นต้น ก็เอาใบที่เอเจนซี่แจกไปให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเขียนรับรองให้ค่ะ เช่นอาจารย์ที่เคยสอนตอนเรียนพยาบาล เพื่อนร่วมงาน เจ้าของเนิร์สเซอรี่ หรือแม่ของเด็กที่เราเลี้ยงให้ ฯลฯ




Q3: ช่วยแนะนำฝึกภาษาอังกฤษให้หน่อยคะ ว่าควรจะต้องลงอะไร?
คำง่ายๆของเด็กป.5ยังอ่านไม่ออกเลยคะ พึ่งมาได้5เดือนคะ ภาษายังไม่ค่อบไปถึงไหนเลย
ตอนนี้ก็ลง ESL class อยู่คะ แต่แบบอยากได้แบบเจาะจง สะกดคำ แล้วก้อเขียนให้ออกคะ

A: จริงๆมีหลายวิธีเลยแล้วแต่ว่าชอบอะไร อย่างแอดไม่ชอบดูหนังฟังเพลง แอดชอบอ่านหนังสือ เริ่มจากหนังสือเด็กเลย เล่มบางๆหน้านึงมีอยู่ไม่กี่ประโยค
ที่บ้านมีหนังสือเยอะไหมคะ แอดชอบเอาหนังสือมาอ่านกับน้อง แล้วก็เรียนคำศัพท์ไปด้วย พวกสัตว์ต่างๆ ฟาร์ม อาชีพ ห้องสมุดจะมีโซนหนังสือเด็กค่า

มันใช้เวลาค่า จุดสำคัญคือความสม่ำเสมอ ไม่ต้องรีบร้อน
แต่ถ้าจะเอาศัพท์ระดับสูงขึ้นมาหน่อยที่เจอบ่อยๆ โหลดชีท4หน้าของคุณครูสมศรีมาท่องค่ะ มีsynonym ให้ด้วย เวลาจำๆเป็นคู่
แอดลงesl 2class แล้วก็ลง grammar&writing กับ Toefl preparation
ตอนเย็นแอดก็ไปเรียนeslฟรีที่ห้องสมุดค่า

ถ้าไม่รุ่ศัพท์ ไม่ต้องอายที่จะถามนะคะ แอดถามตลอดเลย สะกดให้หน่อย
จริงๆมีeslฟรีทุกห้องสมุดเลย แล้วก็บางโบสถ์

อีกอย่างนึง เวลาจำศัพท์ ให้ดูว่าชนิดของคำด้วยว่าเป็นคำนามทกริยา adj แล้วก็ดูตัวอย่างประโยคด้วยนะ  หรือลองโหลดเกมที่ฝึกจำศัพท์มาเล่น จะได้ไม่เบื่อ

แนะนำหนังสือvocabอีกเล่มที่แอดชอบ

Oxford picture dictionary ค่ะ จะแบ่งศัพท์เป็นหมวดๆ ตั้งแต่เบสิคเลย พร้อมรูปภาพประกอบ จำง่าย น่าอ่าน มีเล่มที่เป็นแบบฝึกหัดให้เติมศัพท์ลงในรูปด้วยค่ะ ลองดู ในเน็ตมีให้โหลดฟรี หรือยืมห้องสมุด ซื้อในแอมะซอนก็ได้ค่ะ มันมีหลายเวอร์ชั่น ลองเลือกดูนะคะ

ของทุกอย่างใช้เวลา ค่อยๆเป็นค่อยๆไป พยายามฝึกสม่ำเสมอ สู้ๆค่ะ

Q4: มีเอเจนซี่ไหนแนะนำมั้ยคะ?
A: https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/04/agency.html?m=1 นี่เป็นรายชื่อเอเจนซี่ที่มีในไทยทั้งหมดตอนนี้นะคะ  แอดไม่แนะนำเอเจนซี่ไหนเป็นพิเศษเพราะแอดไม่ได้ค่าโฆษณา 55


รวมโปรโมชั่นแต่ละเอเจนซี่  https://www.facebook.com/aupairniceinusa/photos/a.482805425584890/615737782291653/?type=3&theater ดูที่คอมเม้นต์ใต้โพสต์ได้เลยค่ะ


Q5: มีญาติอยู่ที่อเมริกา ไปได้ไหม?
A: จริงๆถ้ามีญาติแต่ไม่เคยไปหามาก่อน เป็น ญาติไม่สนิทก็ไม่เป็นไรนะ  ก็บอกไปว่าไม่มีญาติ ไม่รู้จัก คนนามสกุลซ้ำกันมีเยอะแยะ


Q6: เรื่องเรียน คือเราเลือกเรียนอะไรก็ได้หรอคะ?
A: เรียนอะไรก็ได้ตามที่สนใจเลยค่า แต่ตามกฏโฮสจะให้แค่ $500 ถ้าเกินจากนี้ออแพร์ต้องออกเอง ยกเว้นโฮสบางบ้านใจดีก็จะออกให้ค่ะ ต้องเรียนให้ครบ 6 หน่วยกิต ราคาถูกแพงแล้วแต่ว่าอยุ่รัฐไหนและลงเรียนคลาสอะไร เพราะค่าครองชีพแต่ละรัฐไม่เท่ากัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม วิธีการหาคอร์สเรียนสำหรับออแพร์ได้ที่นี่ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/06/aupaireducation.html




Q7: สอบถามหน่อยได้ไหมคะ พอดีกำลังจะทำเรื่องไปออแพร์ ของCultural Care เลยอยากทราบว่า เอเจนนี้เวลาบินใช้สายการบินอะไรคะ ? ขอบคุณค่าา

A: เท่าที่ทราบนะ เขาจะไม่ได้เจาะจงสายการบินว่าต้องสายการบินไหน ขึ้นอยู่กับเวลาบินมากกว่า คือที่นี่จะมีปฐมนิเทศวันจันทร์สัปดาห์แรกก่อนเข้าบ้านโฮสต์ เขาก็จะจองสายการบินที่บินไปถึงวันจันทร์เช้าให้ แอดได้นั่งQuarta แต่ก็มีเพื่อนได้นั่งChina, Japan ฯลฯ หลากหลายเลยค่ะ

Q8: พอดีเราสมัครกับเพื่อนล้วถ้าเพื่อนได้แมชก่อน อย่างนี้จะได้บินก่อนไหม?
พอดีอยากบินพร้อมเพื่อนอ่ะค่ะ

A: ขึ้นอยู่กับว่าโฮสต์อยากได้ออแพร์ช่วงไหน แล้วออแพร์สะดวกตรงกันไหม
บางคนแมตช์แล้วบินในเดือนเดียวเลย บางคนแมตช์แล้วรอสามสี่เดือนค่อยบิน

Q9: วัดระดับภาษา หลังสัมมนายากไหมคะ ต้องไปติวเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ?
A: ที่จริงเราไม่ได้เก่งอังกฤษอะไรโดยเฉพาะฟังพูด ได้แค่อ่าน แต่อันนี้คิดว่าไม่ยากเพราะคนสัมภาษณ์คือคนไทย สำเนียงไทยมาก ฟังออกแน่นอน แล้วคำถามก็จะวนอยู่ไม่กี่อย่าง ลองคิดคำตอบไปก่อน พี่เค้าไม่ได้ต้องการคนพูดเก่งอะไรมาก แค่ตอบตรงคำถาม อธิบายดีเทลได้บ้าง(ไม่ใช่ถามคำตอบคำ)
จะมียากหน่อยตรงคำถามสถานการณ์ พอดีแอดโดนไม่ยาก เช่น เด็กทารกร้องไห้ทำยังไง


ลองศึกษาดูในลิ้งค์นี้นะคะ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/04/howtobecomeaupair.html?m=1

Q10: น้องอยู่คุ้มใหนดงมะไฟจ้าลูกเพอน้อ
A: ??????????? งงมาก ใครก็ได้ช่วยแอดมินที

Q11: อยากสอบถามเรื่องไปออแพร์อ่า ตัวเองไปของเอเจ้นอะไรหรอ ?
A: Culturalcareจ้า

Q12: อยากถามประสบการณ์แอดมินตอนสัมภาษณ์โฮสค่ะ
คือสัมภาษณ์มา 5 บ้านแล้ว วิว 8 บ้าน ไม่ได้ซักบ้าน แล้วเหมือนที่กำลังจะได้เราก็ไม่อยากได้

A: ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆเลือกไปอย่ารีบร้อน ไม่เป็นไรนะคะ ถือว่าเค้ายังไม่ใช่
ตอนนั้นแอดก็เป็นเหมือนกัน
ไม่ใช่เราไม่ดี แต่บางครั้งด้วยเวลาที่ไม่พอดี บุคลิก ความชอบ หลายๆอย่าง ครั้งต่อไปก็พยายามpresentข้อดีของตัวเอง แสดงว่าเราอยากไปเลี้ยงลูกเค้าจริงๆ
 แต่ต้องพยายามเปิดใจ ให้โอกาสตัวเองได้คุย 
เข้าใจว่าตอนหาโฮสมันรู้สึกนานมากก เมื่อไรจะได้แมช แอดก็เป็น แต่ก็ดีกว่ารีบแมชแล้วได้โฮสไม่ดีนะ ค่อยๆคุยไป 
สู้ๆนะ เดี๋ยวโฮสที่ใช่ก็จะมาเอง

Q13: ดีจังที่ได้ไป อิจฉา
A: ก็ดีที่ได้ไป แต่ถ้าไม่ได้ไปก็ใช่ว่าจะไม่ดี ชีวิตออแพร์ไม่ได้สวยหรูเสมอไป

Q14: ไปออแพร์อเมริกายากไหมคะ เดี๋ยวนี้เข้มงวดมาก ไม่ผ่านวีซ่าเยอะเลย
A: ก็มีคนได้ไปเรื่อยๆอยู่นะ แค่ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อน
ลูกเพจคนนึงก็เพิ่งบินไปอาทิตย์ที่แล้วทักมาคุย เป็นกำลังใจให้ค่า

Q15: อยากไปออแพร์ อเมริกาค่ะแต่ไม่เก่งภาษาเลยค่ะ อายุก็กำลัง 25 ค่ะ แบบนี้มีโอกาสได้ไปมั้ยคะ มีอะไรแนะนำมั้ยคะ

A: ไม่เก่งคือแค่ไหนคะ ฟัง-ตอบคำถามในชีวิตประจำวันพอได้มั้ยคะ
คือต้องผ่านการวัดระดับภาษาอังกฤษจากเอเจนซี่ก่อนค่ะว่าเราพอไหวไหม ไม่ต้องเก่งมาก เน้นสื่อสารรู้เรื่อง เพราะการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นและดูแลลูกให้เค้าจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษค่ะ เป็นเรื่องของความปลอดภัยด้วย
ถ้ายังไงลองติดต่อเอเจ้นซี่ดุก่อนนะคะ

แล้วก็ฝึกฟังเพลง ดูวิดีโอ ฝึกพูดประโยคในชีวิตประจำวันไว้ค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้โชคดี
แอดก็ไม่ได้เก่งภาษามากค่ะก่อนไป แต่พอฟังตอบคำถามง่ายๆได้ ประโยคสั้นๆ

Q16: อยากไปออแพร์อเมริกาต้องมีอะไรบ้างคะ

A: คุณสมบัติผู้สมัครออแพร์  https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/03/qualification.html





Q17: พี่คะ โครงการนี้ไปได้ยังไงคะ?
A: สมัครผ่านเอเจนซี่ค่า https://aupairniceinusa.blogspot.com/2017/04/agency.html?m=1 นี่เป็นรายชื่อเอเจนซี่ที่มีในไทยทั้งหมดตอนนี้นะคะ

Q18: รบกวนปรึกษาเรื่องการจ่ายภาษีค่ะ 
พอดีไปเป็นออแพร์ระหว่าง สิงหา 2017 สิงหา 2018 แล้วไม่เคยยื่นภาษีเลยถามคนอื่นก้บอกว่าไม่ต้องอยู่ไม่ครบปีภาษี ถามโฮส โฮสก้บอกว่ายูเงินไม่ถึงไม่ต้องยื่นก้ได้ จนมาถึงตอนนี้ ถ้าอยากยื่นย้อนหลังจะต้องทำยังไงคะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ

มันจะมีผลตอนขอวีซ่าใช่มั้ยคะ กำลังจะขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ไม่รู้จะผ่านป่าว

A: ถ้ายื่นย้อนหลังไม่ทราบเลยค่ะ ต้องติดต่อ IRS โดยตรง
แต่ไม่มีผลต่อวีซ่าจ้า ส่วนใหญ่จะมีผลกับคนที่แต่งงานแล้วบ้ายไปอยู่ที่นั่น เค้าจะเช็คประวัติ ถ้าเค้าเช็คเจอก็จะต้องจ่ายภาษีย้อนหลังและโดนค่าปรับค่ะ

Q19: ค่าโครงการรวมทั้งหมดประมานเท่าไหร่คะ

A: ประมาณคร่าวๆประมาณ50,000ค่า (อาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้แล้วแต่แต่ละเอเจ้นซี่ค่ะ)



Q20: ขอทราบรายละเอียดสถานที่เลี้ยงเด็กของ จังหวัดเชียงใหม่หน่อยได้มั้ยคะ

A: น้องมีเอเจนซี่ยังคะ บางเอเจ้นเค้าจะเป็นpartnerกับพวกnursery ให้ออแพร์ไปเก็บชมได้ หรือมีแนะนำที่ๆออแพร์ในสังกัดชอบไปเก็บชม.แล้วมาแชร์

ถ้าหาเองน้องลองเสิชพวกnursery หรือพวกสถานรับเลี้ยงเด็กแถวบ้าน แล้วโทรไปถาม แล้วเอาจดหมายจากออเจ้นซี่/ทำจดหมายเองก็ได้ค่ะ แบบแนะนำตัวแล้วก็วัตถุประสงค์ของการมาสมัครดูแลเด็ก แนบสำเนาบัตรปชช เป็นต้น

หรือไปทำอาสาสมัครก็ได้นะคะ ตามรร.หรือสถานสงเคราะห์ ลองโทรไปถามก่อนอ่าจ้า

มีคนแนะนำมาว่าแถวมช., connie’s House, Kido, Egg tots house, Super kids, Little start kiddergarten, 
ลานนาเบบี้โฮม, Hana Christian kindergarten ฯลฯ ลองหาข้อมูลดูนะคะ


Q21: ต้องพูดอังกิดเก่งมากมั้ย กว่าจะไปออแพร์ได้
A: ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษค่า แค่พอสื่อสารได้ ถามตอบคำถามในชีวิตประจำวันได้ เพราะก่อนสัมภาษณ์แต่ละเอเจนซี่จะมีการสัมภาษณ์ทดสอบระดับภาษาอังกฤษก่อน การออนไลน์หาโฮสก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และด่านสุดท้ายคือการสัมภาษณ์วีซ่าค่า

การไปทำงานในอเมริกาต้องใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เขาต้องแน่ใจว่าเราจะไปอยู่ได้
ถ้าด่านแรกสัมภาษณ์กับเอเจนซี่แล้วเค้าประเมินว่าภาษายังไม่ค่อยโอเคก็จะให้น้องไปฝึกฝนเพิ่มแล้วค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่ค่า

แต่ไม่จำเป็นต้องเก่ง แอดก็พูดแบบสำเนียงไทยๆนี่แหละ แต่พยายามตอบ พยายามอธิบาย ไม่ใช่แค่ถามคำตอบคำแบบ yes no จบ เพราะทำงานกับเด็กต่างบ้านต่างเมืองก็มีประเดเรื่องความปลอดภัยด้วยว่าเราจะฟังที่โฮสบอกรู้เรื่องหรือเวลาเกิดเหตุอะไรเราจะสามารถขอความช่วยเหลือได้ค่า ช่วงนี้ก็ฝึกฝนภาษาอังกฤษไปก่อนเนอะ


Q 23: อยากเป็นออแพร์ เริ่มจากไรดีคะ?

A: เริ่มจากมีเป้าหมายค่า ทำไมอยากไป ไปเมื่อไร  ไปแล้วอยากทำอะไรบ้าง กลับมาแล้วอยากทำอะไรต่อ จะเอาประสบการณ์ที่ได้มาต่อยอดอย่างไร 

คือออแพก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรนะ เงินก็น้อยกว่าถ้าเทียบกับคนมี่ทำงานที่ไทยมาสักพักแล้ว ก็ตกประมาณ2หมื่นเอง เหมือนเด็กจบใหม่ ถ้าไม่ติดรื่องเงินแล้วอยากพัฒนาภาษา พัฒนาตนเองก็มาเถอะค่ะ ประสบการณ์แบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว ได้ฝึกอะไรเยอะมาก ถึงแม้จะมีคนเจอโฮสต์ไม่ดี ประสบการณ์แย่ๆแต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าถ้าให้ย้อนเวลากลับไปก็จะมาสมัครออแพร์อยู่ดี
แอดไปมาแล้วรู้สึกภาษาดีขึ้นจริงๆ แล้วก็ตัวเองโตขึ้นมาก เพราะไปอยู่นั่นต้องทำอะไรด้วยตนเอง ความคิดก็เปิดกว้างขึ้น ได้เห็นมุมมองอะไรหลายๆอย่าง
ก่อนไปแอดเงินเดือนสามหมื่นกว่านะ ยอมลาออกไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเงินเดือนน้อยนิด แต่ก็เหมือนพักผ่อนท่องเที่ยวไปในตัวจากที่เอาแต่ทำงานหนัก แล้วก็ไปพัฒนาตนเองด้วยอย่างที่บอกไป

Q24: เป็นออแพร์ มีเงินเก็บมั้ยคะ?

A: มีค่ะ ขึ้นอยู่กับการบริหารเงินแต่ละคน
อ่านต่อเรื่องเงินๆ ทองๆ กับออแพร์ได้ที่นี่ https://aupairniceinusa.blogspot.com/2018/10/money.html