แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเมริกา 50 รัฐ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อเมริกา 50 รัฐ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รัฐเท็กซัส (Texas: TX)

สัมภาษณ์ออแพร์ในออแพร์ไทยในฮิวตัน รัฐเท็กซัส (Hounton, TX)


(รูปภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/Texas)

          รัฐเท็กซัส (Texas: TX) เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา มีขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของอเมริกา มีพื้นที่ติดกับ New Maxico, Oklahoma, Louisiana, Arkansas อ่าวเม็กซิโก และประเทศเม็กซิโก ภาษาที่ใช้คือภาษาอังกฤษ และสเปน มีเมือง Austin เป็นเมืองหลวง เมืองอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ Houston, San Antonio และDallas

(รูปภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/Texas)

          รัฐเท็กซัสมีชื่อเล่นว่า "The Lone Star State" เพื่อสื่อถึงเอกราชของรัฐสมัยที่ยังไม่ถูกยึดครองโดยชาติอื่นๆ ถึง 6 ประเทศ ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส เม็กซิโก สาธารณรัฐเท็กซัส สมาพันธรัฐอเมริกา และสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน จนมีคำกล่าวว่า "six flags over Texas" ก่อนจะกลายมาเป็นรัฐเท็กซัสในปัจจุบัน
          คำว่า Texas มาจากคำว่า taysha เป็นภาษาของเผ่าอินเดียแดง Caddo มีความหมายว่า มิตรภาพ ตรงกับคำขวัญของรัฐที่ว่า friendship

ความหลากหลายทางสภาพภูมิประเทศ
(http://texasfarmbureau.org/wp-content/uploads/2016/07/071916circleranch.jpg)
          เนื่องจากเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ของรัฐจึงมีความแตกต่างตั้งแต่ทะเลทราย ทุ่งหญ้าแพร์รี่ ป่า และชายฝั่งทะเล ผู้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม และปศุสัตว์ ได้แก่ ฟาร์มวัว ม้า แพะ แกะ สำลี และข้าวโพด เป็นต้น
          ส่วนสภาพอากาศเหมือนอยู่เมืองไทย ส่วนใหญร้อนมาก อุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส จะหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่มีหิมะ
         รัฐเท้กซัสที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่และอยู่กลางประเทศสหรัฐอเมริกา จึงใช้ Central Time Zone ยกเว้นในเขตการปกครอง Hudspeth, El Paso และบางส่วนของ Culberson จะใช้ Mountain Time Zone  

Texan's Style
(https://s.hdnux.com/photos/71/43/44/15087927/3/920x920.jpg)
         คนที่อาศัยอยู่ในรัฐจะเรียกว่านี้ว่า Texan หรือ Texian ส่วนใหญ่เฟรนด์ลี่ ใจดี เวลาหลงทางจะมีคนคอยถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมตลอด แต่คนเท็กซัสไม่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนใหญ่ถ้าไม่ไปทำงาน โรงเรียน ก็จะออกกำลังกายอยู่ในยิม หรือพักผ่อนที่บ้าน
          นอกจากนี้ยังมีชาวเม็กซิโกอยู่เยอะ คนพวกนี้เป็นคนสนุกสนาน ชอบร้องรำทำเพลง ที่เมือง Houston มีทั้ง Houston Grand Opera, the Houston Symphony Orchestra, the Houston Ballet, และ The Alley Theatre

เมืองคาวบอย 
          หากพูดถึงเท็กซัสก็ต้องนึกถึงฉากในหนังคาวบอยของอเมริกาสมัยก่อน ที่ดวลปืนกันฝุ่นตลบ การแข่งวัวกระทิง หรือที่เรียกว่า Rodeo กับแนวดนตรีคันทรีที่เปิดฟังระหว่างขับรถบนถนนทอดยาว และสเต๊กชิ้นโต ส่วนอาหารที่โดดเด่นจะเป็นลักษณะผสมผสานระหว่างเม็กซิกัน-อเมริกัน เรียกว่า Tex-Mex Food
ที่เท็กซัสมีเทศกาลแข่งกินสเต๊กกันด้วยนะ

         ขนาดทีมนักกีฬา "Big Four" professional leagues ของรัฐยังมีชื่อหรือสัญลักษณ์ที่สื่อถึงคาวบอย
(https://images.homedepot-static.com/productImages/bfa07218-b5d0-4804-aec9-8fd6e30c9b34/svn/navy-fanmats-sports-rugs-17960-64_1000.jpg)

  • ทีมอเมริกันฟุตบอล ได้แก่ the Dallas Cowboys และ the Houston Texans
  • ทีมเบสบอล ได้แก่ the Houston Astros และ the Texas Rangers
  • ทีมบาสเกตบอล ได้แก่ the San Antonio Spurs, the Houston Rockets และ the Dallas Mavericks
  • ทีมฮอคกี้ คือ the Dallas Stars 
  • นอกจากนี้ยังมีทีมฟุตบอล ได้แก่ the Houston Dynamo และ FC Dallas อีกด้วย
(https://c8.alamy.com/comp/DY911A/usa-united-states-america-texas-houston-nasa-space-center-space-shuttle-DY911A.jpg)

นอกจากนี้หากเอ่ยถึงเท็กซัส ต้องนึกถึงสถานีอวกาศ NASA’s Johnson Space Center

👉The 50 Things You Must Do in Texas
👉14 Top-Rated Tourist Attractions in Texas

ระบบคมนาคม
(http://www.stacywitbeck.com/images/project/61/IMG_2633_resized.jpg)

         สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเท็กซัสคือ Dallas-Fort Worth International Airport ซึ่งเป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ และเป็นอันดับ 4 ของโลก สนามบินแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่สายการบิน American Airline รองลงมาคือสนามบิน Houston’s George Bush Intercontinental (IAH) 
          ผู้คนที่นี่ขับรถกันหมด อายุ 16-17 ปีก็มีรถขับกันแล้ว รถสาธารณะที่นี่มีแค่บางเมืองเท่านั้น คือใน Dallas และ Houston เป็นรถไฟความเร็วสูง มีทางหลวงที่ใหญ่มาก เป็นเส้นตรงยาว ราบเรียบ ผู้คนขับรถไม่เร่งรีบ มีสี่แยกและทางให้กลับรถตลอด ไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิดแต่มีตำรวจประจำตามจุดต่างๆ เพื่อคอยตรวจเช็คผู้ที่ขับรถผิดกฏจราจรมากกว่า
         การสอบใบขับขี่ที่นี่ก็ง่ายมากๆ เนื่องจากปริมาณคนที่ต้องการขับรถในเท็กซัสมีเยอะ ที่นี่จึงอนุญาตให้สอบกับโรงเรียนสอนขับรถได้ โดยไม่ต้องรอสอบจากที่กรมการขนส่งของรัฐ (Texas Department of Public Safety: DPS)เท่านั้น ค่าสอบข้อเขียนและสอบขับรถประมาณ $60-100 เท่านั้น
         อยู่เท็กซัส อย่าลิมขับรถ Drive-through เข้าไปดูหนัง ราคาแค่ $10 ดูได้ 2 เรื่อง

ค่าครองชีพต่ำ เรียนฟรี
(https://defendernetwork.com/wp-content/uploads/2018/08/fairbanks-header.jpg)

          เป็น 1 ใน 7 รัฐไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้ส่วนบุคคลให้รัฐ (Free states tax) ราคาน้ำมันก็ถูกมาก ลิตรละ $2.1-2.7 เท่านั้น (ในขณะที่บางรัฐ $3 ขึ้นไป) สินค้าต่างๆ ก็มีราคาถูก อาหารราคาถูกและมีขนาดใหญ่มาก จนมีคำพูดฮิตว่า "Everything's bigger in Texas" หรือ "Texas-sized" 
          นอกจากนี้ยังสามารถหาคลาสเรียนภาษาอังกฤษ ESL (English as a second language)ฟรีได้ด้วยที่ Lone star college ส่วน Community college อื่นๆ ก็มีราคาถูก เพียง $250 + ค่าหนังสือ $50 เก็บได้ครบ 6 หน่วยกิตเลย

คนไทยเยอะมาก
(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/c/cf/WatBuddhavas.jpg)

         ที่นี่มีคนไทยและคนเอเชีย เช่น จีน เวียดนามอยู่อาศัยจำนวนมาก และมีร้านอาหารไทยเยอะมากๆ มีวัดไทย ได้แก่ Wat Buddhavas of Houston, Wat Buddhananachat of Austin, Wat Pahsamakki, Wat Buddhamahamunee, Wat Saddhadhamma, Wat Thai El Paso Buddhist และ Wat Busayadhammavanaram  ส่วนจำนวนออแพร์ไทยและต่างชาติในรัฐนี้ก็ถือว่าไม่น้อยเลย

"ฝากถึงคนที่กำลังจะแมชกับโฮสที่รัฐนี้..."
         รัฐนี้เป็นรัฐที่ผู้คนใจดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ สอบใบขับขี่ง่ายเหมาะสำหรับคนที่อยากไปต่อปีสองที่รัฐอื่น ของถูก แต่ที่รัฐนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่หวือหวา




ขอขอบคุณ Nink Qz Daowadee ผู้ให้สัมภาษณ์นะคะ



แหล่งอ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Texas
https://thaibicusa.com/state/texas/
20 เรื่องจริงของรัฐ Texas ที่คนไทยหลายคน ยังไม่เคยรู้มาก่อน



วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รัฐฟลอริด้า (Florida: FL)


ประสบการณ์เป็นออแพร์ใน Florida

(รูปจาก https://en.wikipedia.org)

          รัฐฟลอริด้า (Florida: FL) เป็นรัฐที่อยู่ใต้สุดของสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่  เป็นรัฐที่มีประชากรมากและหนาแน่นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา คำว่า “ฟลอริดา” เป็นภาษาสเปน หมายถึง “ที่ซึ่งอุดมไปด้วยดอกไม้” มีอาณาเขตติดกับรัฐ Alabama, Georgia, มหาสมุทร Atlantic และอ่าวเม็กซิโก มีเมืองหลวงชื่อว่า Tallahassee ส่วนเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาก็อยู่ที่รัฐนี้นี่เอง ชื่อว่าเมือง Jacksonville และมีเมืองใหญ่ชื่อดังอย่าง Miami เป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมของนักท่องเที่ยว

 “มลรัฐแห่งตะวัน”
(https://blog1.fkimg.com/wp-content/uploads/2015/03/florida-best-beaches-610x350.jpg)

          รัฐฟลอริด้า ได้ฉายาว่า “มลรัฐแห่งตะวัน” (Sunshine State) มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี และมีฝนตกมาก รัฐนี้ปลูกส้มเยอะ เลยใช้ส้มเป็นผลไม้ประจำรัฐ   

          ฟลอริด้าเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ประมาณประเทศไทย แล้วก็มีสภาพอากาศคล้ายไทยด้วย ตอนบนๆ จะเย็นกว่าตอนล่าง แถมยังมีเกาะKey West เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของฟลอริดา
          สภาพอากาศโดยทั่วไปจะร้อน ร้อนมาก และร้อนมากๆ สูงถึง 40 องศาปลายๆ เลย แล้วก็มีฝนตกบ่อย ไม่ได้มี 4 ฤดูเหมือนรัฐอื่นๆ ของอเมริกา และรู้สึกแดดร้อนกว่าไทย เหมือนดวงอาทิตย์อยู่ใกล้โลกกว่า แต่อากาศจะแห้ง ไม่ค่อยเหนียวตัวเหมือนอยู่ไทย หน้าฤดูใบไม้ร่วงก็จะร่วงบ้าง แต่ไม่ได้มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชื่นชมเหมือนบางรัฐ จะมีบ้างแค่ในเมือง Talahasse ช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็นลงแต่ไม่มีหิมะ ฟลอริด้าตอนบนในหน้าหนาวอาจติดลบ 1-3 องศาช่วงกลางคืน ตื่นเช้ามาเห็นแม่คะนิ้งเกาะตามใบหญ้าก็มี แต่ทางใต้จะร้อนสุดๆ

"ประสบการณ์เฮอริเคน"
(https://s.abcnews.com/images/US/hurricane-irma-main-01-as-170909_16x9_992.jpg)

          เพราะเป็นรัฐที่ทะเลล้อมรอบ ภัยธรรมชาติที่หนีไม่พ้นคือ พายุเฮอริเคน จะมีช่วงฤดูเฮอริเคน เจอทุกปี ปีนึงก็หลายลูก หนักบ้าง เบาบ้าง แต่ไม่ต้องกลัวเพราะว่าฟลอริด้าเจอเฮอริเคนบ่อยเค้าจึงมีระบบรับมือที่ดี
          ปีที่แล้วก็เจอหนักๆ เลยคือ เฮอริเคน Irma ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดและมีรุนแรงระดับรุนแรงที่สุด (ระดับ 5)  ทุกบ้านต้องซื้อเสบียงอาหาร น้ำดื่มมาตุน ไฟฉาย เทียนไข แก๊สหุงต้ม แล้วก็ซื้อWindow shutter หรือไม้อัดมาปิดหน้าต่างกันประจกแตก จำได้เลยว่าติดตามข่าวทุกวัน ทุกคืน ฝนจะมาก่อนแบบมืดฟ้ามัวดิน ฟ้าผ่าดังเปรี้่ยงจนลูกร้องไห้จ้า มือถือก็มีแจ้งเตือน Alert ให้อพยพตลอด ถนนรถติดยาวเหยียด ปั๊มน้ำมันคนแห่กันไปเติมน้ำมันตุนไว้ รถสาธารณะหยุดวิ่ง เครื่องบินบินไม่ได้ บางคนที่บ้านไม่แข็งแรงหรืออยู่ในพื้นที่สีแดงต้องอพยพหนีไปรัฐอื่น หรือไปอยู่ที่ที่หลบภัย (Shelter) แล้วพอพายุผ่านไป เหตุการณ์สงบลง เช้าตื่นมาคือน้ำท่วมรอบบ้าน ต้นไม้ใหญ้ล้มระเนระนาดเหมือนในหนังเลย ไฟดับ ต้องอยู่แบบมืดๆ ร้อนๆ แต่โชคดีที่บ้านเราเป็นหมู่บ้านใหม่ สายไฟอยู่ใต้ดิน ไฟดับแค่หนึ่งวัน แต่ทางฟลอริด้าตอนใต้ไฟดับเป็นอาทิตย์เลย
          อีกอย่างที่เจอบ่อยๆ คืองูเข้าบ้าน แล้วก็จระเข้ (Alligator)ในสวนสาธารณะเยอะมาก ต้องระวังอย่าไปเล่นน้ำสุ่มสี่สุ่มห้าจะโดนกัดเอา แล้วยุงที่ฟลอริด้าก็ตัวใหญ่มาก ตัวเท่าแมงมุมเลย

"ไม่มีรถขับ เหมือนไม่มีขา"
(https://c1.staticflickr.com/1/769/33046740925_f3873bfc2b_b.jpg)

          ระบบขนส่งสาธารณะของฟลอริด้าไม่ดีเลย เข้าขั้นแย่ รถบัส รถไฟแทบไม่มี จะมาทีรอเป็นชั่วโมงและวิ่งไม่ทั่วเมือง คนส่วนใหญ่จะขับรถกัน เพราะที่นี่ แต่ละอย่างอยู่ไกลมาก อารมณ์เหมือนอยู่ต่างจังหวัด ชานเมือง คนที่นี่เขาไม่ออกมาเดินกันด้วยนะ เพราะเดินไปก็ไม่เจออะไร ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านคน ไม่เหมือนในเมืองอย่าง New York, San Francisco, Boston  แล้วก็จะขี่จักรยานกันแค่ที่ใกล้ๆ ทะเล ขี่ไปบีชกัน เป็นต้น
          การขับรถที่นี่ไม่ยาก ไม่ต้องขับบนหิมะ แล้วขับง่ายกว่ากรุงเทพฯแน่นอน โดยเฉพาะชานเมือง จะมีปัญหาแค่แสงแดดที่จ้ามากๆ แล้วก็เวลาฝนตกหนัก แต่ไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรง คนที่นี่ใจดี ไม่ค่อยบีบแตรกันพร่ำเพรื่อเหมืองบางรัฐ เราเห็นเขาหยุดรถให้เป็ดข้ามถนนกันด้วย แต่ทางตอนใต้เช่น Miami คนจะขับรถเร็วกันมาก
👉สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 1 (drug and alcohol course)
👉สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 2 (สอบข้อเขียน) 
👉สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 3 (road test)
          ใครที่คิดจะมาอยู่ฟลอริด้าต้องขับรถได้ และควรเลือกโฮสที่มีรถให้ออแพร์ใช้ส่วนตัว ไม่งั้นจะลำบากมากๆ เพราะที่นี่มีUber/Lyftบริการ แต่ราคาแพง และไม่มีแบบ Uber Pool / Lyft share ด้วย และเนื่องด้วยระยะทางระหว่างแต่ละที่ไกล เวลาเรานั่งทีเราก็จ่ายที $25-30 เลย (เคยจ่ายค่าUberอาทิตย์ละ $150)

          ด้วยความที่ฟลอริด้าเป็นรัฐใหญ่ อะไรๆ ก็จะยิ่งใหญ่หมด รัฐนี้มีสนามบิน 7 แห่ง ได้แก่ Miami International Airport (MIA), Orlando International Airport (MCO), Fort Lauderdale–Hollywood Int'l Airport (FLL), Tampa International Airport (TPA), Southwest Florida International Airport (RSW), Palm Beach International Airport (PBI), และ Jacksonville International Airport (JAX)

"ชุมชนคนเกษียณ"
(https://i.ytimg.com/vi/6p6KCxzODEc/maxresdefault.jpg)

          ฟลอริด้าเป็นรัฐที่ประชากรส่วนใหญ่คือคนที่ย้ายมาจากรัฐอื่นหลังเกษียณ หรือเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ เราเรียกคนฟลอริด้าว่า Floridian หรือ Floridan ทางตอนบนจะมีคนขาวอยู่เยอะกว่า ตอนล่างจะมีคนผิวดำและพวกละตินอเมริกา (Latino) เยอะมาก แต่ไม่น่ากลัวนะ บางคนดีมาก แต่คนไม่ดีก็เยอะโดยเฉพาะที่ไมอามี่ ที่รัฐนี้คนพูดภาษาสเปนกันโดยทั่วไป บางที่ไม่พูดภาษาอังกฤษกันเลย

          รัฐนี้มีออแพร์ไทยและต่างชาติไม่เยอะ รอบที่เรามาเทรนนิ่งสคูลมามีแค่เรากับเพื่อนต่างชาติอีก 1 คนที่มาอยู่ฟลอริด้า ส่วนที่เมืองJacksonville รวมถึงเมืองเล็กๆริมทะเลรอบๆ ที่เราอยู่มีแค่เราคนเดียวที่เป็นออแพร์ไทย ดังนั้นเวลาจะมีทติ้งออแพร์ที LCC จะรวมออแพร์จากเมืองเล็กๆ หลายเมืองๆ และจาก 2-3 LCC มามีทติ้งที่เดียวกันใน Downtown เราต้องขับรถอย่างต่ำ 30 นาทีทุกครั้ง ส่วนเพื่อนเราขับประมาณ 45 นาทีเพื่อมามีทติ้ง

          ส่วนคนไทยที่ไม่ใช่ออแพร์ในฟลอริด้ามีเยอะมากๆ โดยเฉพาะ West Palm Beach คนกัมพูชาก็เยอะมากเช่นกัน ดังนั้นจะหาร้านอาหารไทยและ Asian Market ได้ง่าย (แต่ไม่บอกว่าใกล้บ้านนะ เพราะที่นี่ทุกอย่างอยู่ไกล) และมีของเยอะมาก หาวัตถุดิบที่ต้องการได้ทุกอย่างเลย มีวัดไทยเยอะมากๆด้วย ได้แก่ Wat Mongkolratanaram (Tampa และ Walton Beach), Wat Florida Dhammaram (Kissimmee), Wat Buddharangsi (Miami),  Wat Florida Buddharam (Navarre), Wat Buddhasaengdham (Panama City) ส่วนใหญ่จะจัดงานวันอาทิตย์ แล้วก็มีตลาดนัดคนไทย มีพืชผักผลไม้ อาหารไทยมาขาย

          กรุ้ปเฟสบุ๊คคนไทยในฟลอริด้าเป็นกรุ้ปที่ดีมากๆ มากที่สุดเลยก็ว่าได้ จากประสบการณ์ส่วนตัว และจากที่คนที่อยู่รัฐอื่นบอกมา เพราะเค้าจะช่วยเหลือกันมาก (ถ้าไปดูกรุ้ปคนไทยในรัฐอื่นๆ จะรู้สึกโพสต์อะไรไปไม่ค่อยมีใครมาตอบ แต่กรุ้ปนีี้จะแอคทิฟตลอดเวลา โพสต์ขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลืออะไรจะมีคนมาตอบตลอด) เราเคยรู้จักคุณป้าคนหนึ่งจากกรุ้ปนี้ แต่อยู่ต่างเมือง คุณป้าอุตส่าห์ขับรถมารับเราไปเที่ยวเพราะตอนนั้นเรายังขับรถไม่ได้ แล้วกรุ้ปนี้ชอบแจกเมล็ดพันธุ์ ผักผลไม้ให้กัน ตอนเฮอริเคนเข้าก็มีการโพสต์รับคนมาพักหลบภัยเฮอริเคนที่บ้านฟรี หรือมีอะไรก็จะโพสต์แบ่งบันกันตลอด ใจดีมากๆ

"ค่าเรียนถูก"
(http://floridapolitics.com/wp-content/uploads/2017/11/USF_entrance.jpg)
       
          การหาที่เรียนสำหรับออแพร์ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก เพราะมีโรงเรียนที่เรียนได้อยู่ไม่กี่ที่ (บอกแล้วว่าที่นี่แต่ละอย่างไกลกัน) แต่ค่าเรียนถูกมากๆ เมื่อเทียบกับรัฐอื่น เราเรียน ESL ที่ Community College แค่เทอมละ $30 เอง แต่ด้วยเพราะทุกอย่างในฟลอริด้าอยู่ไกลกัน และระบบขนส่งสาธารณะไม่ดี ก็จะลำบากเรื่องเดินทางไปเรียน ต้องขับรถอย่างเดียว แต่ก็มีAu Pair Weekend Class ที่เมือง Tampa 4 วัน 6 เครดิต ครบจบเลย

"Where dreams come true"

          ถ้าพูดถึงฟลอริด้านอกจากทะเลสวยๆ แล้ว จะต้องนึกถึงเมือง Orlando ที่มี Disney World ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, Universal Studio, Sea World ที่ใหญ่มากๆ  ถ้าได้ไปแล้วจะรู้สึกว่า Aquarium ไหนๆ ก็เทียบไม่ติดเลยสักนิด, รวมถึงสวนน้ำต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

          ถ้าขับรถออกไปหน่อย ที่เกาะ Merritt Island จะมีพิพิธภัณฑ์แลสถานียานอวกาศ Kenedy Space Center ที่จะแสดงยานอวกาศของจริง ถ้าไปถูกจังหวะก็จะได้เห็นตอนเขากำลังปล่อยยานอวกาศสู่ท้องฟ้า และสามารถพบเจอ กินข้าวกลางวันพร้อมพูดคุยกับนักบินตัวเป็นๆ ได้ด้วย

          St. Augustine เมืองเล็กๆ น่ารักอีกเมืองที่อยู่ไม่ไกลออรันโด้ เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นเมืองแรกๆ ที่ชาวยุโรปอพยพมาตั้งถิ่นฐานและเปลี่ยนคนพื้นเมืองให้กลายเป็นคริสเตียน

          อีกที่หนึ่งที่คนที่มาฟลอริด้าต้องมาแน่ๆ คือ เมือง Miami ที่มีออกแนวปาร์ตี้ เสียงเพลง และขับลงไปใต้สุดจะเป็นเกาะที่สวยงามชื่อว่า Key West 

"แสงแดด หาดทราย สายลม และนกสีชมพู"         
(https://www.miamiherald.com/news/local/environment/ufj29o/picture201275309/alternates/FREE_1140/115FLFlamingo23%20NEW%20PPP) 

          สัญลักษ์ของฟลอริด้าก็คือนกฟลามิงโก้สีชมพูสด พะยูน Manatee และต้นปาล์มที่มีราคาแพงมาก แล้วก็ชายหาดสวยๆ เยอะมาก ทั้งทางฝั่งมหาสมุทร Atlantic และอ่าวเม็กซิโก มีคนบอกว่าทะเลฟลอริด้าสวยกว่าที่แคลิฟอร์เนีย แล้วหาดทรายก็ขาวสะอาดกว่าด้วย ถ้าใครชอบทะเลและกิจกรรมทางน้ำ ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำเฉยๆ เจ็ตสกี ล่องเรือ ตกปลา แต่Surfing จะไม่ค่อยมีคลื่นให้เล่นเท่าไร ต้องไปฝั่งแคลิฟอร์เนีย และสำหรับคนที่ชอบเดินป่าขึ้นเขา ที่นี่มีแต่ Walking Trail ไม่มี Hiking Trail เลย



          นอกจากนี้ฟลอริด้ายังดังเรื่องกีฬากอล์ฟมากๆ เคยมีรายการ PGA Tour มาแข่งที่หมู่บ้านด้วย ประธานาธิบดีโรนัลด์ ทรัมป์ก็มีบ้านพักตากอากาศและสนามกอล์ฟส่วนตัวที่ใหญ่โตมโหฬารจากหัวมุมถนนฝั่งหนึ่งจนสุดหัวมุมถนนฝั่งหนึ่งอยู่ที่ฟลอริด้าด้วย ไปนั่งรถดูรอบๆ ได้ แต่เข้าไปไม่ได้นะ

"คิดว่ารัฐนี้เป็นรัฐที่ดีในการเริ่มต้นการเป็นออแพร์เลย"
(https://i.ytimg.com/vi/6p6KCxzODEc/maxresdefault.jpg)

          เพราะผู้คนที่นี่ใจดี เป็นมิตร ทักทายก่อนตลอด ถ้าเดินไปตามท้องถนนจะมีคน Say Hi เราตลอด ค่อนข้างใจกว้าง เปิดใจให้กับคนต่างชาติต่างถิ่น ตอนมาใหม่ๆ เราฟังพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เลยบอกคนขับอูเบอไปว่า Sorry, my English isn't good. แล้วคนขับก็ตอบมาว่า That's OK, my Thai isn't good too. เลยทำให้ไม่เกร็งเวลาพูดภาษาอังกฤษผิดๆ ถูกๆ เราคิดว่ารัฐนี้เป็นรัฐที่ดีสำหรับออแพร์ไทยที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้อย่างเรา ส่วนสภาพอากาศก็คล้ายๆ ที่ไทย หาอาหารและวัตถุดิบไทยได้ง่าย เวลาคิดถึงเมืองไทยก็หาอาหารไทยกินได้ไม่ยาก  แล้วก็เป็นรัฐที่เหมาะสำหรับฝึกภาษาสเปน เพราะคนพูดสเปนเยอะมาก ค่าครองชีพก็ไม่แพง Sale Tax $7 และเป็น 1 ใน 7 ที่ไม่ต้องเสีย State Tax ด้วย อีกอย่างที่ชอบคือสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่จะใหญ่อลังการดี เช่น Disney World, Sea World แต่สถานที่ท่องเที่ยวนอกจากที่บอกไปก็ไม่ค่อยมีเท่าไร นอกนั้นคือมีแต่ทะเลๆๆๆๆๆ เอะอะก็ชวนกันไปทะเลกับPool Party ถึงแม้ว่าจะสวยแค่ไหน แต่เรารู้สึกเบื่อ ดังนั้นเราเลยอยู่แค่ปีเดียวพอ ถ้าใครชอบทะเล สายลม แสงแดด life guardงานดี ก็ฝากรัฐนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก แต่ต้องมีรถขับนะ ไม่งั้นชีวิตลำบากจริงๆ อยู่ๆรัฐนี้นานๆ ไปจะได้ผิวสีแทนกับผมสีน้ำตาลเป็นของที่ระลึกจากฟลอริด้า




แหล่งอ้างอิง https://en.wikipedia.org/wiki/Florida


วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รัฐจอร์เจีย Georgia (GA)

สัมภาษณ์ออแพร์ที่อยู่ Atlanta, GA

ก่อนอื่นต้องบอกว่านี่คือรัฐจอร์เจียในอเมริกา ไม่ใช่ประเทศจอร์เจีย อย่าสับสน 5555


(รูปภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/รัฐจอร์เจีย)

          รัฐจอร์เจีย (Georgia: GA) เป็นรัฐตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เป็น 1 ใน 13 รัฐที่ต่อต้านการปกครองของอังกฤษในสมัยปฏิวัติอเมริกา (The original tirteen colonies) ในปีค.ศ. 1733 มีพรมแดนติดกับรัฐ Tennessee, North Carolina, South Carolina, Florida, Alabama และ มหาสมุทรแอตแลนติก มีเมืองหลวงชื่อว่า Atlanta และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐนี้ด้วย คนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะเรียกว่า "Georgian" ภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่คือ ภาษาอังกฤษ และสเปน

"Peach State"
(https://statesymbolsusa.org/sites/statesymbolsusa.org/files/primary-images/GeorgiaQuarterGeorgia.jpg)

          รัฐนี้มีชื่อเล่นว่า "Peach State" เพราะพีชที่ปลูกในจอร์เจียมีรสชาติ เนื้อสัมผัส รูปร่าง และคุณค่าทางโภชนาการโดดเด่นกว่าพีชจากที่อื่น จอร์เจียจึงตัดสินใจใช้พีชเป็นผลไม้ประจำรัฐ (the official state fruit) ตั้งแต่ปีค.ศ.1995 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีชื่อเล่นรัฐอื่นๆ อีก ได้แก่ "The Goober State" ("goober" เป็นคำโบราณ แปลว่า peanut) ซึ่งถั่วพีนัทเป็นพืชที่ปลูกมากในรัฐนี้ (the official state crop) และอีกชื่อหนึ่งว่า "The Empire State of the South." 

"4 major professional leagues"
(รูปจาก https://images-na.ssl-images-amazon.com/images/I/51uuN5FgWLL.jpg)

          รัฐนี้มีทีมนักกีฬาของรัฐทั้ง 4 ลีก ได้แก่ Atlanta Braves (Baseball), Atlanta Falcons (American Football), Atlanta Hawks (Basketball) และ Atlanta United FC (Soccer)

"รัฐจอร์เจีย สภาพอาการศคล้ายๆ ไทยเลย"
(รูปจาก https://cdn.thecrazytourist.com/wp-content/uploads/2017/11/ccimage-shutterstock_172296818.jpg)

          สภาพอากาศทีนี่ ช่วงหน้าร้อนอากาศจะคล้ายๆที่ไทยเลย แต่บางทีก็ร้อนมากๆ แตะ 40 องศาเลยทีเดียว (เขาเรียกว่า Hot'Lanta) ช่วงฤดูหนาว อากาศหนาวสุดจะเป็นเลขตัวเดียว ไม่ถึงติดลบ และแทบจะไม่มีหิมะเลย หิมะตกครั้งละ 1-2 ครั้งต่อปี เหมือนตกมาให้ถ่ายรูปเล่นสวยๆ เลยทำให้รัฐนี้ไม่มีรถกวาดหิมะ ช่วงหิมะตกบางทีโรงเรียนหยุด ออฟฟิศหยุดไปเลยก็มี

"รถบัส รถไฟ ใช้บัตรเดียวกัน ไม่เสียเงินเพิ่ม"


          ระบบขนส่งสาธารณะที่นี่เรียกว่า MARTA สามารถใช้บัตรเดียวกันขึ้นรถบัสและรถไฟด้วยกันได้เลย คือถ้านั่งรถไฟลงสถานีแล้วต่อรถบัสจะไม่เสียเงินเพิ่ม รถไฟไปไม่ทั่วถึงทุกที่ แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ ราคาเที่ยวละ $2.5 คนส่วนใหญ่ที่นี่ใช้รถส่วนตัวและ Uber/Lyft อาจเป็นเพราะรถไฟไปไม่ทั่วนี่แหละ แต่มีไปถึงสนามบินนะ เวลาขึ้นรถไฟ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นคนผิวสี จะเจอคนขาวก็ต่อเมื่อเค้าเดินทางไป/กลับสนามบิน หรือมีเทศกาล/event/concert แต่ก็ไม่น่ากลัวนะ เรานั่งคนเดียวประจำ เวลาไม่รีบและอยากประหยัด ถ้าโฮสต์บ้านไหนมีรถให้ออแพร์ใช้ส่วนตัวก็จะดีมากเลย

"ที่นี่มีออแพร์เยอะมาก คนไทยก็เยอะมากเช่นกัน"

          ออแพร์เยอะมาก ใน area เราที่ LCC เดียวกันกับเรามีมากกว่า 30  คน และเอเจนซี่อื่นๆด้วย ก็พอสมควรเลย ออแพร์ไทยแถวบ้านเรามี 5-6 คนที่เจอบ่อยๆ แต่ก็มีคนที่เก็บตัว ไม่สุงสิงกับเพื่อน หรือบางทีเค้าอาจจะไปเพื่อนต่างชาติก็เป็นไปได้ ที่พูดถึงคือ ออแพร์ใน Atlanta และเมืองรอบๆ ถ้าเมืองที่ไกลออกไปจาก Atlanta หน่อย อาจจะไม่ค่อยมีออแพร์เท่าไหร่

(รูปจาก https://georgiameditation.org/uploads/3/6/1/1/36112701/4955896.jpg?314)
       
          คนไทยที่ไม่ใช่ออแพร์สำหรับเราถือว่ามีค่อนข้างเยอะนะ เวลาไปวัดไทย (Wat Buddha Bucha Foundation) วันอาทิตย์ โดยเฉพาะวันที่มีงานก็เจอเยอะมากกว่าที่คิด และมีงานพบปะคนไทยที่จัดโดยชมรมคนไทยในจอร์เจียก็จะเจอพี่ๆ คนไทยที่นี่เหมือนกัน งานนี้น่าจะมีปีละครั้ง ถ้าจำไม่ผิด นอกจากคนไทยแล้ว ร้านอาหารไทยก็เยอะมากเช่นกัน อยู่มาเป็นปี วันก่อนยังไปเจอร้านที่ไม่เคยเห็นโดยบังเอิญ

"ผลกระทบจากเฮอริเคน"

          ที่รัฐนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบโดยตรง มีแต่เกิดกับรัฐใกล้เคียง เช่น Florida, North Carolina และ South Carolina แล้วเราได้รับผลกระทบไปด้วย ตั้งแต่อยู่มาที่เจอก็คือเฮอริเคน

"เป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของโลก"
(https://previews.agefotostock.com/previewimage/medibigoff/0960c5bd4707592d20a3db1bae3f60d6/mar-w447952.jpg)

          ได้แก่ Home Depot, UPS, Coca-Cola, TSYS, Delta Air Lines, Aflac, Southern Company, Anthem Inc., Honeywell, and SunTrust Banks ถ้าพูดถึงรัฐนี้ หลักๆ เลยก็น่าจะ Coca-Cola museum, สำนักข่าว CNN, Georgia Aquarium ที่เคยใหญ่ที่สุดในโลก แต่ตอนนี้โดนพี่จีนแซงไปแล้วจ้า

          ถ้าที่เที่ยวใน downtown ก็ตามข้างบนเลย แต่ถ้าใครสายธรรมชาติ รัฐนี้มีที่ให้ไป Hiking เยอะแยะเลย แต่ต้องขับรถออกไปนอกเมืองตาม Park หรือเขาต่างๆ ที่ใกล้ที่สุดน่าจะเป็น Stone mountain (30 min) หรือขับรถไป Savannah ซึ่งมีเขตประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 เอาไว้ หรือ Tybee island (3-4 hr) ได้ เป็นเมืองน่ารักๆ ไปพักผ่อนเดินชมเมือง ส่วนถ้าใครชอบเล่นเครื่องเล่นสวนสนุก ทางเราก็มี SixFlags ด้วยเช่นกัน ละก็ถ้าใครมีรถส่วนตัว สามารถขับไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ ได้ เช่น Florida, Nashville, Alabama, New orleans, South Carolina, Great Smoky mountain หรือจะขึ้นบัสไปก็ได้เช่นกัน

(รูปถ่ายตามโปสเตอร์ซีรีย์ Walking Dead โดย Phung Greenut)

          ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยว Georgia ไปตามรอยซีรีส์ Walking dead ที่ Senoia ภาพแรกเป็นฉากที่พระเอกขี้ม้าเข้าเมืองบนถนน Jackson Street Bridge และซีรีย์ Vampre Diaries ที่ Convington ได้ 

"หาที่เรียนสำหรับออแพร์ไม่ยาก มีทั้งราคาย่อมเยาว์จนถึงแพง "


มหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ Georgia Institute of Technology
(รูปจาก https://i2.wp.com/parsippanyfocus.com/wp-content/uploads/2018/02/Georgia-Institute-of-Technology.jpg?resize=696%2C464)

          การหาที่เรียนสำหรับออแพร์ อันนี้ต้องแล้วแต่ตารางงานของแต่ละคนด้วย จะมีคลาส ESL ที่ Georgia Piedmont Technical College ฟรี ช่วงเช้า 9.15 - 12.45 วันจันทร์ถึงพฤหัส และคลาสเย็น 18.00 - 21.00 วันอังคารถึงวันพฤหัส แล้วก็มีคลาสฟรีที่ Adult school ด้วย ส่วนคลาสที่ต้องจ่ายเงินก็จะมีทั้งราคาย่อมเยาว์และราคาแพง บางที่มีส่วนลดสำหรับออแพร์ 

"ชอบที่อากาศไม่หนาวเกินไป และธรรมชาติสวยงาม"
(รูปจาก https://www.journalofnomads.com/wp-content/uploads/2017/07/places-to-visit-in-Georgia.png )

          ฤดูหนาวก็ยังสามารถเดินข้างนอกได้ ไม่หนาวสั่นเกินไป แต่ฤดูร้อนก็แผดเผาเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์ใกล้โลกมากกว่าที่ไทย 5555 อีกอย่างที่ชอบคือรัฐนี้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยๆ เยอะ 

"ฝากถึงคนที่กำลังจะแมชกับโฮสที่รัฐนี้..."

          รัฐนี้ไม่ค่อยมีอะไรในเมือง ถ้าคนชอบเมืองใหญ่ที่มีคนพลุกพล่านแบบ New York, Boston, Chicago หรือ San Francisco อาจจะไม่ชอบ อยู่ไม่ได้ เพราะไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ในความธรรมดา ก็มีความสุขในอีกแบบนึง มีตึกสูงๆ ทันสมัย ไม่น้อยหน้ารัฐอื่นๆ ข้างต้น และค่าครองชีพถูกกว่ารัฐต่างๆ ที่กล่าวมาแน่นอน (Sale Tax Rate 4%-8.9%) มี Farmer market ที่มีของไทยเยอะมาก คือไม่ต้องพกLobo มาจากไทยเลยก็ได้ ที่นี่มีหมด ขนม เครื่องปรุงต่างๆ มีครบเลย อีกอย่างที่นี่คนเกาหลีเยอะมากๆ มีร้านอาหารเกาหลีและบิงซูอร่อยๆ ทำให้หายคิดถึง ​After you  ได้แน่นอน 5555 อ่อ อีกอย่าง ถ้า search เมืองนี้ในกูเกิ้ล พันทิพ จะเจอว่าคนผิวสีเยอะ ซึ่งเยอะจริง แต่ไม่ได้น่ากลัวบางคนniceมาก

😃ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก Phung Greenut (พฤศจิกายน 2561)



ข้อมูลเพิ่มเติม https://en.wikipedia.org/wiki/Georgia_(U.S._state)

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561

อเมริกา 50 รัฐ (ตอนที่ 1: ที่สุดในอเมริกา)

บทความนี้ ได้ไอเดียมาจากตอนกำลังจะต่อออแพร์ปีสองแล้วไม่รู้จะไปอยู่รัฐไหนดี ? แล้วก็ชอบมีเพื่อนมาถามว่ารัฐนั้นรัฐนี้ดีไหม? เลยคิดว่ามันคงจะดีถ้ามีคนรวมข้อมูลของแต่ละรัฐในอเมริกาไว้ให้ เหมือนหนังสือความรู้รอบตัว"ที่สุดประเทศไทย" อันนี้ก็เป็น "ที่สุดในอเมริกา"แทน แต่เอาที่เกี่ยวกับแต่ละรัฐพอเนอะ จะได้พอเห็นภาพและรู้จักอเมริกามากขึ้น ประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกแมชต์กับโฮสต์บ้านไหนดี   

(http://holidaymapq.com/wp-content/uploads/2015/08/floor-puzzle-usa-map-100-scratch-and-dent-collectible-packaging-.jpg)

ข้อมูลทั่วไป

(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTXGThtaRFww-m39-INspdJR5qJumOb1BRzlmlhzWPjZuvxpCDV)

              สหรัฐอเมริกาประเทศที่กว้างใหญ่และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากๆ มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 หรือ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก พื้นที่ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 18 เท่า ผู้คนมาจากหลากหลายเชื้อชาติ หลายประเทศ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก  รองลงมาคือภาษาสเปน
               ธงชาติสหรัฐอเมริกา ส่วนที่เป็นแถบขาวและแดงหมายถึงรัฐดั้งเดิม 13 รัฐ ส่วนสัญลักษณ์ “ดาว” ทั้ง 50 ดวงบนผืนธงชาติสหรัฐอเมริกา หมายถึงรัฐต่างๆ ในอเมริกาปัจจุบันทั้ง 50 รัฐ แต่ละรัฐเทียบได้กับประเทศหนึ่งๆ มีการปกครองแบบอิสระของตนเองภายในระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีดินแดนอิสระที่เป็นเขตปกครองตนเอง ชื่อว่า District of Columbia เรียกย่อ ๆ D.C. เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศ คือ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นคนละรัฐกับ Washington ที่อยู่ฝั่งตะวันตก ซึ่งแม้มิได้เป็นรัฐเต็มตัวเหมือนรัฐอื่น ๆ แต่ก็มีฐานะเทียบเท่ารัฐในการออกเสียงต่าง ๆ รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดี

การแบ่งภูมิภาค

(https://i.pinimg.com/originals/e9/ed/2b/e9ed2b40d7a168534efcb00120a63c1c.gif)

ฤดูกาล

ประเทศสหรัฐอเมริกามี 4 ฤดู อุณหภูมิในแต่ละรัฐจะแตกต่างกันออกไป
1. Spring ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม) วันที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิจะมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง จะรู้สึกว่าพระอาทิตย์ตกช้า 1-2 ทุ่มฟ้ายังสว่างอยู่เลย
2. Summer ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน - สิงหาคม)
3. Fall ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน - พฤศจิกายน) จะมีการปรับเวลาให้ช้าลง 1 ชั่วโมง พระอาทิตย์ตกเร็ว ตั้งแต่ 4-5 โมงเย็นฟ้าก็มืดแล้ว ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีช่วงปิดเทอม Spring break 1 อาทิตย์ด้วย
4. Winter ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์)


               เวลาในอเมริกาจะช้ากว่าประเทศไทย และมีการปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น/ช้าลงปีละ 2 ครั้ง เช่น NY เวลาต่างจากไทย 11 ชั่วโมงในฤดูใบไม้ผลิ แต่ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมงในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น

State sale tax 

              ภาษีมูลค่าเพิ่มเวลาซื้อสินค้าของแต่ละรัฐไม่เท่ากัน บางรัฐก็ไม่เสีย ได้แก่ Oregon, Montana, New Hampshire, และ  Delaware
(https://files.taxfoundation.org/20180212171639/LOST2018.png)

รวมที่สุดของรัฐในอเมริกา

(http://www.newenglishreview.org/files/100/Image/UScitiesIllustratedMap.jpg)



  • The Most Famous Brand From Each State In The US มาดูว่าแต่ละแบรนด์ดังๆ มีต้นกำเนิดมาจากรัฐอะไร ส่วนใหญ่จะมีพิิพิธภัณฑ์หรือโรงงานให้เยี่ยมชมด้วย

(https://static.boredpanda.com/blog/wp-content/uuuploads/fun-maps/fun-maps-31.jpg)




แหล่งอ้างอิง https://www.npr.org/sections/npr-history-dept/2015/05/12/404660475/51-words-the-united-states-of-colloquialisms