วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

รีวิว Aupair weekend class in Washington DC

          ข้อบังคับหนึ่งสำหรับออแพร์คือ ต้องเรียนและเก็บหน่วยกิตให้ครบที่กำหนด ตามข้อกำหนดของวีซ่า J-1 Aupair ส่วนใหญ่ก็ลงเรียนภาษาอังกฤษกัน อย่าง ESL (English as a second language) หรือบางคนก็ลงเรียนจิตวิทยา ร้องเพลง เต้นรำ ทำอาหาร ถ่ายรูป ฯลฯ แล้วแต่ความสนใจ แต่ใครที่ชอบท่องเที่ยวและอยากเก็บหน่วยกิตให้ครบเร็วๆ "ออแพร์วีคเอนคลาส (Aupair Weeken class)" ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ

(รูปรวมเพื่อนๆ ในคลาส Washington DC Course A : 13-15 October 2017)

ออแพร์วีคเอนคลาสคืออะไร?
          อธิบายง่ายๆก็คือเป็นคลาสที่ลงเรียนแค่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ศุกร์-อาทิตย์ หรืออาจจะเป็นพฤหัส-อาทิตย์ สัปดาห์เดียวจบ หรือแบบหลายสัปดาห์ก็ได้แล้วแต่ว่าลงเรียนคอร์สไหน มักจัดในเมืองท่องเที่ยว เช่น บอสตัน, ชิคาโก้, ซานฟรานซิสโก เป็นต้น คอร์สก็จะมีทั้งเรียนในห้องเรียนและออกไปทัวร์ตามสถานที่่สำคัญของเมืองนั้นๆ
(https://static.wixstatic.com/media/c14e90_6e4dcf8e04fa4cab80d91f9ff6074fa4~mv2.png/v1/crop/x_0,y_0,w_800,h_680/fill/w_600,h_509,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01/c14e90_6e4dcf8e04fa4cab80d91f9ff6074fa4~mv2.webp)

😀ข้อดีคือ ได้หน่วยกิตเยอะ (3-6 หน่วยกิต) เร็ว(เรียนแค่วันหยุดสุดสัปดาห์ ศุกร์-อาทิตย์ หรือ พฤหัส - อาทิตย์) ได้เที่ยว และได้เพื่อนใหม่เยอะด้วย
😟แต่ข้อเสียคือ ถ้าคนที่อยากเน้นฝึกภาษาอังกฤษ อันนี้ก็อาจจะไม่ได้ช่วยเท่าไร ไม่เหมือนลงเรียนภาษาอังกฤษ หรือESL (แต่สำหรับเราได้ฝึกคุยกับเพื่อนในวีคเอนคลาสมากกว่าESLที่เราเรียนอีก) ราคาวีคเอนคลาสถือว่าแพง ราคาตั้งแต่ $300-600 แล้วก็ต้องหาที่พักกับจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเอง (ถ้าคนไหนได้โฮสต์ประเสริฐสายเปย์จ่ายให้ก็ดีไป หรืออาจจะลองถามเพื่อนออแพร์ที่รู้จักขอไปนอนค้างบ้านสัก 2-3 คืนก็จะประหยัดค่าที่พักได้มาก)

คอร์สอื่นๆ ที่คล้ายออแพร์วีคเอนคลาส เช่น Silver Bay (Albany, NY) และ C.W. Post (Long Island, NY)เพื่อนๆที่อยู่โซนนิวยอร์ก บอสตัน LCC อาจจะให้คอร์สแนะนำมา เป็นวีคเอนคลาสเหมือนกัน เช่น

(ตัวอย่างคอร์สที่ LCC ของเพื่อนที่บอสตันให้มา)

          แต่ของเราลงเรียนกับ APW https://www.aupairclasses.org/ มีหลายเมืองให้เลือก ทั้ง Boston, Chicago, Los Angeles, Salt Lake City, San Diego, San Francisco, Tampa, Washinton DC และNew York


          เราเลือกลง Washington DC คอร์ส A ไป วันที่13-15 October 2017 เหตุผลเดียวที่ลงคือ เพื่อนชวน จริงๆ อยากไปหลายรัฐมาก มีคนบอกว่ารัฐอื่นสนุกกว่า เพราะดี.ซี. เป็นเมืองพิพิธภัณฑ์ แต่เราก็ชอบนะ เดินทางก็สะดวก

(เราไปถึง 4-5 ทุ่มยังมีีรถไฟฟ้า(Metro)วิ่งอยู่เลย แต่ไม่ค่อยมีคนนั่ง)

          ของที่ APW มีให้เลือก 2 คอร์ส ทั้ง 2 คอร์ส มีเวลาเรียนในห้องด้วยและพาออกนอกสถานที่ด้วย ความแตกต่างของแต่ละคอร์ส
💖คอร์ส A เน้นเรียนในห้อง เพราะชื่อคอร์สมันคือ American Dream หรือชื่อใหม่คือ Make a different เนื้อหาที่เรียนก็จะเน้นให้เข้าใจความเป็นอเมริกัน เช่น Cultural shock, Diversity, Stereotype คล้ายๆกับที่เรียนใน Training school แล้วก็มีเพิ่มเติมคือ Voluteerism ให้เราได้ไปทำงานอาสานอกสถานที่ ได้เที่ยวจริงๆ น้อยมากๆ แค่ 2 พิพิธภัณฑ์ คือ Natinal Museum of American History กับ Newseum นอกนั้นใช้เวลาอยู่ในห้องเรียนหมด ใครอยากเที่ยวมากกว่านี้ต้องซื้อทัวร์เพิ่ม $10 เป็นทัวร์เดินชมอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ตอนเย็น (แต่ดันไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง กลางวันก็ครึ้มทั้งวัน ตอนเย็นฟ้าก็มืดเร็วมาก เดินชมอนุสาวรีย์ได้แค่ 1 ที่ก็มืดตื๊ดตื๋อมองอะไรไม่เห็น พลัดหลงกับเพื่อนอีก)
💖คอร์ส B เน้นเยือนสถานที่สำคัญๆ เพราะชื่อคอร์สมันคือ Discover Washington DC

เราเลือกคอร์ส A เรียน 3 วันได้ 3 หน่วยกิต ราคา $355 รวมค่าอาหารบางมื้อ และค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์แล้ว ถ้าใครอยากได้ 6 หน่วยกิตเลย เขาแนะนำให้ลงคอร์สคู่ทั้ง A และ B แต่มันก็เกินงบ $500 ที่โฮสต์ต้องจ่าย และเรียนคนละสัปดาห์กัน ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินค่าที่พักอีก เลยลงแค่คอร์สเดียวแล้วไปเรียน ESL เพิ่มให้ครบ

ก่อนลงสมัครเรียน ในเว็บเขียนคำอธิบายไว้ชัดเจนว่าทุกคนต้องส่งการบ้าน Pre-assignment และ Post-assignment ด้วย
👉Pre-assignment * ต้องทำทุกคน ของคอร์สเราให้ทำ
1. เขียนเป้าหมายของการมาเป็นออแพร์และวิธีนำไปสู่เป้าหมายนั้น
2. ทำชิ้นงานนำเสนอเกี่ยวกับตัวเราและเป้าหมายของการเป็นออแพร์ (เอาไปนำเสนอในชั้นเรียน)
3. ทำแบบทดสอบบุคลิภาพ
(เราทำหนังสือป๊อบอัพไป ได้รางวัลชนะเลิศจากผลโหวตของเพื่อนๆในคลาสด้วย ได้บัตร starbuck มา $5)

👉ส่วนPost-assignment ได้แก่
1. ประเมินผลความพึงพอใจคลาส *ต้องทำทุกคน
2. ดูภาพยนตร์เรื่อง Crash และตอบคำถาม
3. วิเคราะห์ผลที่ได้จากแบบทดสอบบุคลิภาพ

          และถ้าใครลงเรียนแค่คอร์สเดียวแต่อยากได้ 6 หน่วยกิต มีออปชันเสริม ให้ทำProject เป็นงานอาสาและงานพัฒนาตนเองส่ง โดยมีเวลาให้ทำ 3 เดือนหลังจากจบคอร์ส รวมชั่วโมงเข้าร่วมกิจกรรม, Pre-assignment, Post-assignment และProject แล้วจะได้สูงสุด 45 ชั่วโมงสำหรับคอร์สนี้ ก็เอาไปหารดูว่าเท่ากับกี่เครดิต เพราะแต่ละเอเจนซี่คิดชั่วโมงไม่เท่ากัน หรือถ้าใครไม่อยากได้ถึง 45 ชม. ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Post-assignment และ Project ก็ได้ ยกเว้นอันที่ * ไว้ว่าต้องทำทุกคน

รวมรูปกิจกรรม
 
 (เราเรียนทีี่ University of the District of Columbia Community College แต่เป็น campus ย่อย อยู่ใกล้สถานี Union Station เดินแค่ 5-10 นาทีถึง แถมในสถานียังมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งอีก เหมือนเดินห้างเลย เพื่อนๆ ในคลาสส่วนใหญ่ก็อยู่ดี.ซี.กันนี่แหละ เราว่าเรามาไกลแล้ว ยังมีคนมาไกลกว่าเราอีก บางคนบินมาจากแคลิฟอร์เนีย บางคนขับรถมา 12 ชม. อู้วววว)

(นั่งรถเมล์เพื่อไปเดินทัวร์ชมอนุสาวรียสำคัญๆ ของดี.ซี. กับครูคนสวยทั้งสอง)

  
  
(เดินได้แป๊บเดียวก็มืด แต่นักท่องเที่ยวไม่ได้น้อยลงกว่าช่วงกลางวันเลย)

 

 
(มาเป็นอาสาสมัครในงานเดินมาราธอนการกุศลเพื่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์ (Walk to End Alzheimer's)
สนุก และมีความสุขมากๆ )

 
(เดินเล่น ถ่ายรูปกับตึกสวยๆ ในดี.ซี.)

(ไปเป็นอาสาสมัครในงานนิทรรศกาลแสดงผลงานนวัตกรรมของนักศึกษา (ACCelerate) ที่ National Museum of American History และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Newseum (เกิดจากการเล่นคำผสมระหว่าง News ที่แปลว่าข่าวกับ Museum ที่แปลว่าพิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข่าวสารจากทั่วทุกมุมโลก มีข่าวประเทศไทยด้วย)

(ตรงข้ามโรงเรียนเป็นสนามแข่งฟุตบอลอเมริกัน ดูไม่รู้เรื่องหรอก แต่ก็ไปเกาะรั้วดู)

(อยากเที่ยวดี.ซี.ให้ครบต้องตามนี้เลย มีพิิพิธภัณฑ์ให้เข้าฟรีหลายแห่ง)


💥Tips&Trick
1. ควรไปรัฐที่มีเพื่อนอยู่ จะได้ประหยัดค่าที่พักและให้เพื่อนพาเที่ยวได้
2.ไหนๆก็เสียค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ก็ไปหลายๆวันหน่อย จะได้เที่ยวให้คุ้ม และอย่าหวังว่าจะเที่ยวหลังเลิกเรียน เพราะตารางเรียนแน่นมากๆ
3. ควรเลือกช่วงเวลาจะไปให้ดี อย่างวอชิงตันดี.ซี. ควรไปฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้สีชมพูจะบานสะพรั่งประหนึ่งเทศกาลซากุระบานที่ญี่ปุ่น, บอสตันและชิคาโก้เป็นเมืองหนาวอยู่แล้ว ก็อาจจะไปช่วงฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ร่วงที่บอสตันก็จะได้ชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี, ฟลอริด้าเป็นเมืองร้อนและมีพายุเฮอริเคน ควรหลีกเลี่ยงหน้าร้อน (ถ้าไม่อยากไหม้)และฤดูเฮอริเคน(สิงหาคม-กันยายน) เป็นต้น
4. ควรสมัครก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน จะได้มีเวลาทำ Pre-assignment และหาตั๋วเครื่องบินถูกๆ และถ้าสมัครช้าจะมีค่าปรับด้วยนะ
5. วันสุดท้าย เขาบอกว่าอย่าเอากระเป๋ามาในคลาส เพราะไม่รับฝาก ให้เอาไว้ที่ที่พัก แต่ก็เห็นเพื่อนๆ ลากกระเป๋ากันมา เพราะต้องเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักแต่เช้า และก็จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปเอากระเป๋าอีกก่อนกลับ
6. กลับก่อนเวลาได้ แต่ต้องทำงานที่ได้รับในวันนั้นส่งให้ครบ และเขาจะหักเวลาตามจริงว่าเราอยู่ร่วมกิจกรรมจริงๆกี่ชั่วโมง (เคี่ยวมาก)

👧เก็บตก



(เราไปถึงดี.ซี. ตั้งแต่คืนวันพฤหัส คลาสเริ่มตอนบ่ายวันศุกร์ เลยมีเวลาว่างช่วงเช้า มีเพื่อนใจดีให้ที่พักและพาเที่ยว National Harbor)

(ไปละลายทรัพย์ที่คาสิโน MGM
เชื่อไหมว่าเพื่อนเอาใบขับขี่ไทยยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็เข้าคาสิโนได้ (กล้ามาก คนอื่นเขายื่นพาสปอร์ตกัน))
 

(ไปกินไก่ที่ร้าน Nando's ร้านนี้คุณตำรวจหญิงแนะนำมา เป็นร้านกึ่งบริการตัวเอง ราคาไม่แพง รสชาติเผ็ดเปรี้ยว มีซอสให้เลือกหลากหลาย แต่ไม่อร่อยสักซอส สั่งเมนูแนะนำของร้านมา ได้ไก่ครึ่งตัว)

(กลางคืนก็ไปแด๊นซ์ที่ผับ เดินเข้าเดินออกอยู่สามร้าน)

(เวลาผ่านไปรวดเร็ว ถึงเวลาต้องกลับฟลอริด้าแล้ว
ขาไปและกลับบินกับสายการบิน jetBlue ชอบสแน็คของที่นี่มาก อร่อยและมีให้เลือกเยอะดี)