วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เข้าห้องสมุดในอเมริกาครั้งแรก


หลังจากได้ใบขับขี่ชั่วคราวมาครอง ทีนี้ก็สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกไม่ต้องพก Passport ให้ยุ่งยาก แถมติดต่ออะไรก็ใช้ใบขับขี่ใบเดียว เสมือนเป็นประชากรของประเทศอเมริกาเลย สมัครสมาชิกห้องสมุดก็ฟรี 

บัตรสมาชิกห้องสมุดมีส่วนที่เป็นบัตรขนาดปกติ และบัตรเล็กๆสำหรับห้อยเป็นพวงกุญแจพกติดตัว

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ (Residency)ที่ไม่มีใบขับขี่ก็สามารถใช้ Photo ID หรือ Social Security Card คู่กับ Address ID เช่น จดหมายจากธนาคารที่ส่งมาบ้านไม่เกิน 30 วัน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่) ก็สามารถสมัครบัตรสมาชิกห้องสมุดแบบตลอดชีพได้ฟรี (หากไม่มีการใช้บัตรภายใน 3 ปีจะถูกยกเลิกหมายเลขสมาชิก) แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปหากต้องการสมัครจะต้องเสียค่าธรรมเนียม $25-100 เพื่อให้ได้บัตรสมาชิกแบบ 3, 6, 12 เดือน 

ห้องสมุดที่เราไป ได้แก่ Beaches Branch Library, Neptune Beach, Fl และ Pablo Creek Regional Library, Jacksonville, Fl ทั้งสองแห่งนี้เป็นห้องสมุด 2 จากทั้งหมด 22 สาขาของ Jacksonville Public Library

 
นี่คือป้ายจราจรที่เป็นสัญลักษณ์ห้องสมุดอยู่ริมถนน เวลาขับรถมาเห็นป้ายนี้ก็แสดงว่าถึงห้องสมุดแล้ว อยู่คู่กับแท่นป้ายห้อง Jacksonville Public Library 
(รูปภาพจาก https://www.usa-traffic-signs.com/v/vspfiles/photos/I-8_s-2.gif และ http://img.groundspeak.com/waymarking/large/e0d08a79-fc1a-4b6c-b25e-2647a4f64711.jpg)
Beaches Branch Public Library เปิดวันจันทร์ - เสาร์
(รูปภาพจาก https://www.jaxpubliclibrary.org/sites/default/files/beaches.jpg)
Pablo Creek Regional เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์
(รูปภาพจาก https://www.jaxpubliclibrary.org/sites/default/files/pcr_2.jpg)

ลักษณะห้องสมุดที่นี่จะคล้ายๆกัน คือ ด้านหน้าห้องสมุดจะเป็นลานจอดรถยนต์และที่จอดจักรยาน เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นคล้ายโถงทางเดิน สองข้างฝั่งจะมีบอร์ดป้ายประกาศข่าวสารและกิจกรรมของห้องสมุด และมีแผ่นพับโบร์ชัวร์ต่างๆ ให้หยิบอ่าน เราก็หยิบแผนที่เส้นทางเดินรถเมล์ และแผ่นพับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวติดมือกลับบ้านด้วย 

ด้านในห้องสมุดจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนหนังสือผู้ใหญ่ และโซนหนังสือเด็ก (เรียกว่า Children's library หรือ Children Area)

☝ สำหรับโซนผู้ใหญ่ 

จะจัดแบ่งหมวดหมู่หนังสือเป็น Fiction และ Non-fiction ตอนแรกก็ไม่คุ้น เพราะสมัยอยู่ไทยเข้าห้องสมุดก็จะเจอหมวด ก-ฮ แต่ที่นี่ถ้าเป็นหนังสือนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแต่ง หรือ Fiction จะเรียงตามชื่อผู้แต่ง A-Z ส่วนหนังสืออื่นๆ ทั่วไป หรือ Non-fiction จะเรียงตามตัวเลข นอกจากนี้ที่นี่ยังมีมุมหนังสือวัยรุ่น (Teen),  หนังสือการ์ตูน, หนังสือยอดนิยม, นิตยสาร, CD/DVD ต่างๆ แยกออกมาอีกด้วย 

☝ ส่วนโซนหนังสือเด็ก

จะแบ่งหมวดละเอียดกว่านั้น หนังสือนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแต่งสำหรับเด็ก จะใช้คำว่า Y Fiction หรือ Y Series, หนังสือที่เป็น Non-fiction ก็จะขึ้นต้นด้วย Y ก่อนแล้วตามด้วยเลขหนังสือ, นอกจากนี้ก็มีหมวดสารานุกรม (Encyclopedia), Foreign Language Book, Parent/Techer Book, Comic and Graphic Novel, CD/DVD และจะมีมุมจัดกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ โต๊ะอ่านหนังสือก็มีทั้งขนาดเล็กสำหรับเ็กเล็ก และขนาดใหญ่สำหรับเด็กโต

ตอนแรกเราก็หาหนังสือไม่เจอ ไปขอความช่วยเหลือจากบรรณารักษ์ ซึ่งทุกท่านยินดีให้บริการดีมาก ปลื้มปริ่มกับ service mind ของคนที่นี่

ที่ห้องสมุดยังมี free wifi, คอมพิวเตอร์ ให้บริการฟรี และมีบริการถ่ายเอกสาร ปริ้นท์งาน และ 3D printing ให้บริการในราคาถูกอีกด้วย 

เวลายืมหนังสือ (Check out) เราสามารถไปที่เคาน์เตอร์ให้บรรณารักษ์ทำให้ หรือสามารถยืมเองผ่านเครื่องยืมหนังสือ (Self checkout machine) ลักษณะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีที่สแกนบาร์โค้ดเหมือนเวลาซื้อของที่ห้าง Target

 
เครื่องยืมหนังสือด้วยตนเอง เสร็จแล้วจะมีใบสรุปรายการที่ยืม และวันกำหนดคืนออกมา
(รูปภาพจาก https://s3-media3.fl.yelpcdn.com/bphoto/kZsyqETTedLP2V1epm1eqQ/o.jpg)

ที่นี่สามารถยืมหนังสือได้มากถึง 50 เล่มต่อครั้ง และยืมได้นาน 3 สัปดาห์ (อ่านให้ตาบอดไปเลย ฮ่าๆ)

เราสามารถยืมหนังสือเล่มเดิมต่อ (Renew) ได้ผ่านทางเว็บไซต์ห้องสมุด https://www.jaxpubliclibrary.org/ หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นห้องสมุดมาก็ได้
หน้าตา application
นอกจากนี้ยังสามารถทำรายการต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วคลิก ไม่ว่าจะเป็น
- เสิร์ชดูรายการหนังสือ เพื่อดูเลขรหัสหนังสือ และดูว่ามีใครยืมอยู่หรือไม่
- จองหนังสือ (Hold) ที่มีคนยืมอยู่ หรือจองจากห้องสมุดสาขาอื่นและมารับหนังสืออีกสาขาหนึ่งได้
- แต่หากหนังสือหรือนิตยสารที่เราต้องการไม่มีที่ Jacksonville Public Library สักสาขาเลย เราก็สามารถใช้บริการยืมหนังสือต่างห้องสมุด ทั้งจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดในฟลอริด้า หรือแม้กระทั่งในรัฐอื่นๆ ของอเมริกาได้ โดยใช้บริการ Interlibrary Loan ผ่านทาง Florida Library Navigator สมกับคำขวัญของห้องสมุด Start Here. Go Anywhere จริงๆ
- ดาวน์โหลด e-books audio magazines music videoต่างๆ
- จ่ายค่าปรับหนังสือได้ผ่านแอพหรือเว็บไซต์
- สามารถดูประวัติการยืมหนังสือของตนเอง
- ดูตารางกิจกรรม(Event) ต่างๆ ที่จัดขึ้นที่ห้องสมุดได้
- มีบริการ email เตือนเมื่อใกล้ถึงวันครบกำหนดคืนหนังสือ
- มี Online Learning and Test Preparation ให้เรียนฟรีอีกด้วย ทั้ง Duolingo, Codecademy, Brainfuse HelpNow, Vocations and Careers Collection, Transparent Language Online, Testing & Education Reference Center
จัดไปเลยค่าบทเรียนภาษาสเปน ภาษาทางการที่สองของคนฟลอริด้า

เราชอบห้องสมุดประชาชนที่อเมริกามาก เพราะเป็นห้องสมุดสาธารณะสำหรับประชาชนจริงๆ คือนอกจากมีหนังสือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ให้บริการแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ความรู้ ความบันเทิง ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดทุกวัน หมุนเวียนกิจกรรมกันไป ก็จะมีคนมาเข้าร่วมกิจกรรมทุกวัน เช่น คลาสสอนภาษาอังกฤษ สอนคอมพิวเตอร์ สอนเล่นกีตาร์ กิจกรรมเล่านิทานสำหรับเด็ก งานสแดงศิลปะและดนตรี เป็นต้น

กิจกรรมที่ห้องสมุดเยอะมากๆ

เราเองก็ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ห้องสมุดฟรีเหมือนกัน เป็นคลาสเรียน conversation ตอนเย็น จะมีอาสาสมัครมาสอนภาษาอังกฤษ นักเรียนในชั้นเรียนก็มีหลากหลายเชื้อชาติ ได้ประโยชน์มากๆ

ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือที่อเมริกาจะอำนวยความสะดวกให้คนพิการให้สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไปด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเป็นภาระของผู้ดูแล ห้องสมุดจึงมีปุ่มเปิดประตูสำหรับผู้พิการนั่งรถเข็นกด ไม่ต้องผลักประตู (แต่ก็เห็นคนขาดีๆ บางคนกดใช้เหมือนกัน) แล้วก็มีหูฟังสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน มีหนังสือเสียง และแอพพลิเคชันสำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็นให้บริการด้วย

หนังสือที่ยืมมา เป็นหนังสือท่องเที่ยวอเมริกา Baby Food Guide เพราะ Host kid เรากำลัง 6 เดือนพอดี เริ่มหัดกิน baby food แล้ว ส่วน Diary of a wimpy kid นี้เป็นนิยายสำหรับเด็กที่เค้าว่ากันว่าใครที่อยากอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษได้ให้เริ่มอ่านจากเรื่องนี้ เพราะอ่านง่าย สนุก คำศัพท์ไม่ยาก เด็กๆ ที่นี่ก็ชอบอ่านกัน กว่าจะได้เล่มนี้มา มีคนยืมหมดตลอด 


ไปครั้งที่ 3 ได้หนังสือ Baby game และ Wonderplay จากโซนหนังสือเด็ก Parent/Techer Book มาสำหรับเป็นไอเดียในการทำกิจกรรมกับHost kids ด้วย ออแพร์คนไหนไม่รู้จะทำกิจกรรมอะไรกับเด็กๆ แต่ละวัย หรือในวันฝนตก กิจกรรมตอนเย็นหลังเลิกเรียน สามารถดูตัวอย่างกิจกรรมได้ในหนังสือเหล่านี้ มีตั้งแต่วัยทารก เตาะแตะ จนถึงก่อนวัยเรียนเลย

การคืนหนังสือ ให้หย่อนหนังสือคืนที่ตู้คืนหนังสือ (Book drop box/bin หรือ Book return box/bin) ได้เลย ไม่ต้องไปเข้าแถวรอคืนกับบรรณารักษ์ที่เคาน์เตอร์

ใครว่างๆ และไม่รู้จะไปไหนดี แนะนำลองไปห้องสมุดดูนะคะ จะไปนั่งเล่น อ่านหนังสือ ยืมหนังสือ เอาโน้ตบุ๊คไปนั่งทำงาน หรือเข้าร่วมกิจกรรมของสมุดก็ได้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมฟรีๆ แก้เบื่อจากการเลี้ยงเด็กค่ะ ฮ่าๆ


วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 1 (drug and alcohol course)

หายไป 2 เดือนกับชีวิตออแพร์ตัวน้อยๆ ต้องใช้เวลาปรับตัว-ใจ และปรับความคิดสักพักใหญ่ๆ จนกระทั่งชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทางก็มีเรื่องให้ทำอีกเยอะแยะ  วันนี้ก็เช่นกัน(4 สิงหาคม 2560)ต้องตื่นแต่เช้าไปสอบใบขับขี่(ของฟลอริด้า) แล้วรีบกลับมาทำงานต่อให้ทัน 09.45 น. แล้วก็ทำได้ ผ่าน!!! ได้ใบขับขี่ชั่วคราวมาครอบครองได้สำเร็จ เลยจะมารีวิวให้ฟัง เผื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้อ่านทุกคน

Florida First Time Driving

การได้ใบขับขี่ของฟลอริด้านั้นจะต้องผ่านการสอบ 3 อย่าง ได้แก่
1. First Time Driver education course เรียนคอร์สออนไลน์ สำหรับคนที่มีใบขับขี่จากไทยหรือรัฐอื่น ๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใบขับขี่ชั่วคราวหรือ 5 ปี หรือใบขับขี่สากล ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
 2. Driver's license written exam สอบข้อเขียน
✅ 3. Driving test/ Road test/ Behind the wheel test สอบขับรถ

Welcome to the 4-Hour Florida Drug&Alcohol Traffic Awareness (D.A.T.A) Course!

ย้ำอีกครั้ง คอร์สนี้เฉพาะคนที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อนในชีวิต เพิ่งมาสอบที่ฟลอริด้าครั้งแรกซิงๆ เลย ต้องผ่านคอร์สนี้ทุกคน (แต่โฮสเราไม่รู้เรื่องจ้า บอกว่าทุกคนต้องผ่านคอร์สนี้ เราก็เครียด มันแพงไม่อยากจ่าย เค้าก็ไม่บอกว่าจะจ่ายให้ สุดท้ายเราเลยบอกกับเขาตรงๆว่าเราไม่มีเงิน โฮสคุณพ่อเลยบอกว่าไม่ต้องกังวล เดี๋ยวจ่ายให้หมด ฮ่าๆ)





คอร์สนี้มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น First time driving drug and alcohol course, DATA (drugs, alcohol, traffic, awareness), DATE (drugs, alcohol, traffic education), หรือ TLSAE (traffic law substance abuse education) ซึ่งจะขอเรียกย่อๆว่า "drug&alcohol course"  


คอร์สนี้เป็นคอร์สออนไลน์ 4 ชั่วโมงเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาที่มีผลต่อการขับรถ และกฏจราจรของฟลอริด้า เนื้อหาคอร์สดังนี้
      🚗 Introduction<Test 1-2>
🚗 Physiological Factors Part1-2<Test 3>
🚗 Psychological Factors<Test 4>
🚗 Societal and Economic Costs of Alcohol and Drug Abuse<Test 5>
🚗 Effect of Alcohol and Other Drug Abuse on the Driver of a Motor Vehicle<Test 6>
🚗 Major Traffic Laws of Florida Part 1-2
🚗 <Exam>

สามารถเรียนได้จากที่บ้านโดยเข้าเว็บไซต์ http://www.highschooldriver.com/data-course ลงทะเบียนและจ่ายค่าสมัคร $ 29.95 และสามารถเพิ่ม option พิเศษได้ คือมีเสียงพากย์และวิดีโอประกอบ ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มอีก ได้แก่
     ➮ Streaming Upgrade ($9.95) lets you watch the course through narrated video and animations.
     ➮ Audio Read-Along Upgrade ($4.49) lets you listen to the entire course through headphones or speakers on your comupter.

หรือจะไม่เลือกออปชั่นก็ได้ ประหยัดตังค์ไป แต่โฮสคุณพ่อเราให้เลือก Streaming Upgrade ($9.95) มันก็มีแอนนิเมชั่นประกอบด้วยนะ แต่ใช้เวลาจบคอร์สนี้นานมาก เพราะต้องรอบรรยายจบแต่ละหน้า (ขนาดสารบัญและบรรณานุกรมยังพากย์ให้ฟังอ่า) แต่บางบทคนพากย์พูดเร็วกว่าตัวหนังสือที่เราอ่าน เราก็ไม่สามารถ replay เฉพาะหน้าที่เราฟังไม่ทันได้ เราก็ต้องเริ่มต้นฟังใหม่หมด ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่เลือกออปชั่นเสริมจะสามารถจบคอร์สได้เร็วกว่านี้ไหมเพราะไม่ต้องรอฟังบรรยาย 

เวลาเรียนบังคับให้เริ่มเรียนจากบทแรก-สุดท้าย ข้ามบทไม่ได้ และที่สำคัญเราต้องอยู่หน้าคอมเกือบตลอดเวลา จะเปิดวิดีโอทิ้งไว้ให้มันเล่นไปเรื่อยๆไม่ได้ เพราะก่อนเริ่มเรียนจะมีคำถาม 10 ข้อ (The Security Questions)ให้ตอบ เป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา เช่น คุณเคยอยู่ฮาวายไหม? คุณชอบสีแดงไหม? แนะนำให้ตอบ yes หรือ no ให้เหมือนกันให้หมด เพราะระหว่างที่เรียน ทุกๆ 30 นาที คำถามเหล่านี้จะเด้งขึ้นมาให้เราตอบ เพื่อเช็คว่าเราอยู่หน้าคอมนะไม่ได้เปิดคอมทิ้งไว้แล้วไปทำอย่างอื่น (รู้ทันอีก) ถ้าหากเราตอบไม่ทันภายในเวลา 90 วินาที หรือตอบไม่ตรงกับที่ให้คำตอบไว้ตอนแรก ระบบจะ log out อัตโนมัติ และเมื่อเรา log in เข้ามาใหม่เราก็ต้องเริ่มบทนั้นใหม่อีก 


(10 คำถามที่ตอบไว้ตอนแรก)

(ระหว่างเรียนไป ก็จะเด้งขึ้นมาข้างบนให้เราตอบภายใน 90 วินาที มีนาฬิกานับถอยหลังด้วย)

สรุประยะเวลาที่เราใช้ไป 2 วัน ตอนแรกๆก็ตั้งใจเรียนอยู่หรอก แต่รำคาญตอนมันพากย์สารบัญ บรรณานุกรมนาน เสียเวลา และโมโหที่ต้องเริ่มใหม่ๆตลอดหน้าไหนที่ไม่ทัน บวกกับต้องเลี้ยงลูกโฮสอีก เป็นออแพร์จะเอาเวลาที่ไหน เลยเปิดทิ้งไว้ๆและคอยดูนาฬิกาเอา ทุกๆ 30 นาทีจะรีบมาตอบคำถาม 

จบเนื้อหาแล้ว ยังต้องทำแบบทดสอบ self test อีก ซึ่งมีทั้งแบบ yes-no question, multiple choices และเขียนตอบ ต้องตอบให้ถูกหมดทุกข้อถึงผ่านได้ (ยกเว้นคำถามเขียนตอบ พิมพ์มั่วๆไปได้) ไอ้เราก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนไง เปิดวิดีโอทิ้งไว้ เดายังไงก็ไม่ถูก 100% อยู่ดี จึงใช้วิชามารแอบดูเฉลยจึงผ่านมาได้ แต่แบบทดสอบสุดท้าย (Exam) 40 ข้อต้องทำเอง ดูเฉลยไม่ได้ แต่ไม่ต้องตอบให้ถูก 100% แค่ 80% ก็ผ่านแล้ว ไม่ยากๆ อันนี้ทำได้ 36/40 คะแนน แต่ละแบบทดสอบจะมีเฉลยให้เราอ่านหลังทำเสร็จด้วย เพื่อทบทวนความรู้


(เอาคะแนนมาอวด)

หลังจากผ่านคอร์สนี้ ก็จะได้รับ email congratulations! และมันจะถามว่าจะให้ส่งผลสอบทางไปรษณีย์(ฟรี) หรือทางอิเมล์(เสียเงิน) เราก็เลือกของฟรีสิคะ เพราะเขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องเอาผลสอบไปให้กรมขนส่ง(DMV) มันจะลิ้งค์ไปถึงเองอัตโนมัติ แต่อยากได้หลักฐานเก็บไว้ให้อุ่นใจ ซึ่งเขาก็ส่งมารวดเร็วมาก วันรุ่งขึ้นก็ได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง
👉 สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 2 (สอบข้อเขียน)
👉 สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 3 (road test)



สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 2 (สอบข้อเขียน)

2. การสอบข้อเขียน (DL written test)

ถามว่าสอบข้อเขียนยากไหม? ตอบเลยว่ายาก!! แต่ไม่เกินความสามารถของทุกคนแน่นอน
เคยถามโฮสและหลายคนที่เคยสอบใบขับขี่ฟลอริด้าเขาก็บอกง่ายๆ กัน แต่นั่นก็หลายสิบปีมาแล้ว เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนข้อสอบใหม่กันแล้วค่ะ บวกกับภาษาอังกฤษอ่อนด๋อย และประสบการณ์ขับรถน้อยนิดไม่ถึงสามเดือนของออแพร์อย่างเรา แต่ก็ผ่านมาได้อย่างหวิดหวิด ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว

ลักษณะข้อสอบ
แต่ก่อนข้อสอบใบขับขี่ฟลอริด้ามี 40 ข้อ แบ่งเป็น เครื่องหมายจราจร 20 ข้อและกฏหมายจราจรอีก 20 ข้อ ซึ่งข้อสอบนี้ใช้กันมากว่า 20 ปีแล้ว แต่ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนในฟลอริด้ามีมาก ดังนั้น เขาจึงปรับปรุงข้อสอบใหม่ เพิ่มจำนวนข้อสอบเป็น 50 ข้อ เน้นเรื่องการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย เช่น ถ้าถนนลื่น หรือมีรถขับแซงมาทางขวา มีรถขับสวนทางมามองเห็นไฟดวงเดียว หรือมีรถมาถึงสี่แยกพร้อมกันใครจะได้ไปก่อน เป็นต้น ส่วนใหญ่มาในรูปโจทย์สถานการณ์ค่อนข้างยาวประมาณ 40+ ข้อ ข้อสอบเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจรเหลือเพียง 5 ข้อ และที่เหลือเป็นคำถามเกี่ยวกับ drug & alcohol อีกประมาณ 2 ข้อ ต้องตอบให้ถูก 40 ข้อ และผิดได้ไม่เกิน 10 ข้อถึงจะผ่าน จึงเป็นเหตุให้คนที่ไปสอบส่วนใหญ่กว่า 80% ไม่ผ่านในการสอบครั้งแรก (อ่านข่าวเพิ่มเติม)

Class E Knowledge Exam (50 multiple-choice questions) is about:
1. Florida traffic laws,
2. Safe driving practices, and identifying traffic controls. 
You will be expected to know:
Seat Belt Laws, Traffic Controls, Vehicle Control, Lane Controls, Speed Limits, Turns, Yielding the Right-of-way, Vehicle Restrictions, Parking Restrictions, Maintaining Attention, Headlight Use, Signaling, Licensing, Insurance and more!
(อ้างอิงจาก 2017 Florida Department of Highway Safety and Motor Vehicles)

ทำยังไงถึงจะสอบผ่านข้อเขียนตั้งแต่ครั้งแรก?

1. ฝึกทำข้อสอบทางเว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่นเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี เว็บไซต์ที่แนะนำคือ

สองอย่างนี้เหมือนกันจะเลือกทำในเว็บหรือโหลดแอพมาก็ได้ ข้อสอบมีระดับให้ฝึกตั้งแต่ง่าย-ยาก 8 ชุด ชุดที่ 9 เป็นแบบมาราธอนรวม 350 ข้อ และชุดที่ 10 เป็น exam mode มีเฉลยและคำอธิบายให้ครบทุกข้อ ทำวนไป แรกๆ ก็อ่านไม่เข้าใจเพราะติดเรื่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และไม่เข้าใจกฏจราจรที่นี่ด้วย เลยใช้วิธีเขียนลงกระดาษข้อไหนที่ไม่เข้าใจหรือตอบผิด แล้วก็ท่องเอาค่ะ วิธีของเด็กนักเรียนไทยโบราณแต่ใช้ได้ผล คัดแล้วท่องวนไป ถ้ามีเวลาก็ฝึกทำข้อสอบในเว็บ/แอพอื่นๆ ด้วยก็จะดีค่ะ เพราะจะได้เห็นแนวคำถามที่หลากหลาย เพราะบางครั้งภาษาอังกฤษมันดิ้นได้ คำตอบเดียวกันแต่ใช้คำถามไม่เหมือนกัน ก็ดูๆไว้เป็นแนวทาง
(รูปโพยของเราเอง ใช้เวลาว่างตอนhost kidหลับ ฝึกทำข้อสอบแล้วก็จดข้อที่ผิดลงกระดาษ
จดไปจดมาโอ้โหเราทำผิดตั้ง 137 ข้อ 
แล้วก็เอามาอ่านซ้ำๆ  วันก่อนสอบเราฝึกทำ exam mode อีก 2 รอบ แล้วก็จดเฉพาะอันที่จำผิดบ่อยๆ ลงกระดาษแผ่นเล็กขวามือไว้ท่อง 
เห็นไหมคะว่าจาก 137 ข้อเหลือแค่โน้ตเล็กๆ 2 หน้าเอง)

2. โหลดคู่มือมาอ่าน
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด Florida driver handbook
อันนี้สำคัญมาก ดอกจันสามดอก🌟🌟🌟
ฝึกทำข้อสอบอย่างเดียวไม่พอค่ะ เพราะว่าข้อสอบมันเปลี่ยนไปแล้ว ข้อสอบจริงไม่ค่อยตรงกับที่ฝึกทำมาเลย โจทย์มันออกเป็นสถานการณ์ ซึ่งคำตอบก็อยู่ในคู่มือนั่นแหละ ในเว็บ/แอพจะตรงก็แค่ข้อที่เป็นเครื่องหมายจราจร และอื่นๆ รวมกันแล้วไม่ถึง 20% นอกนั้นต้องใช้ความสามารถในการจำเนื้อหาในคู่มือและการเดาของท่านเอง

คู่มือมีทั้งหมด 104 หน้าค่ะ โอ้โห เยอะใช่ไหม ทำยังไงถึงจะอ่านหมดล่ะ เราก็อ่านไม่หมดเหมือนกัน มันง่วงอ่าทำไงดี มีแต่ภาษาอังกฤษเป็นพรืด ของเราใช้วิธีปริ้นท์คำถามท้ายคู่มือออกมาค่ะ แล้วก็หาคำตอบจากในคู่มือมาเติมเอา และก็ไฮไลท์เนื้อหาไปด้วย ซึ่งคำถามจะเรียงเนื้อหาไปตั้งแต่หัวข้อแรกจนถึงหัวข้อสุดท้าย ซึ่งทำให้เราพยายามอ่านเนื้อหาได้จนเกือบหมด (บางอันก็ข้ามๆไปบ้าง)

(ตัวอย่างเนื้อหาในคู่มือและคำถามท้ายบท)

วิธีหาคำตอบง่ายๆ ให้กด Ctrl+F แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดของคำถามลงไป ตัวอย่างเช่น ข้อ 1a. In your vehicle, what should you adjust before you start your engine? เราก็กด Ctrl+F แล้วพิมพ์ว่า Start หรือ engine ลงไป บางคำถ้าพิมพ์แล้วไม่มี ก็ลองเปลี่ยนคำดูนะคะ

(รูปตัวอย่างการหาคำตอบโดยใช้คีย์เวิร์ดค้นหา)

เราใช้เวลาในการฝึกทำข้อสอบและอ่านคู่มือประมาณ 1 เดือนได้ (ไม่ได้อ่านทุกวันนะคะ ช่วงเวเคชั่นก็เที่ยวอย่างเดียว เสาร์อาทิตย์ก็ออกตะลอนนอกบ้าน) คนอื่นอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่นี่ชอบอู้ไง ฮ่าๆ ก่อนสอบ 1 วัน เราฝึกทำข้อสอบ exam mode อีกสองรอบก่อนไป แล้วก็อ่านแค่โน้ตเล็กๆ ของเรา


พร้อมแล้วไปสอบข้อเขียนกัน

ที่ฟลอริด้า คนที่อายุน้อยกว่า 18 ปีสามารถสอบข้อเขียนออนไลน์ได้ที่บ้านหรือที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์  แต่ค่าสอบแพง สอบผ่านแล้วเอาผลสอบไปยื่นที่ กรมขนส่ง (DMV) หรือสำนักงานสรรพากร (County Tax Collector) ที่ใกล้บ้านเพื่อเจ้าหน้าที่จะออก Lerner's permit ให้ มีอายุใช้งาน 1 ปี สามารถขับได้เฉพาะช่วงเวลากลางวันเท่านั้น (Daylight only) หลังจากพ้น 3 เดือนแล้วจึงสามารถขับได้ถึง 22 น.โดยต้องมีคนที่มีใบขับขี่และอายุมากกว่า 21 ปีนั่งข้างเราด้วย

คนที่อายุเกิน 18 ปีอย่างเราๆ ไม่สามารถสอบออนไลน์ที่บ้านได้ ต้องไปDMVหรือCounty Tax Collector เท่านั้น ซึ่งจะนัดล่วงหน้าออนไลน์หรือไม่นัดก็ได้ แต่ต้องไปแต่เช้า มากๆ ยิ่งวันธรรมดาจะดี (บางแห่งเปิดวันเสาร์ด้วย) เพราะคนเยอะตลอด เพื่อความชัวร์เราเลยนัดไว้ดีกว่า แต่ DMV นัดเต็มหมดแล้วทุกวันเลย แถมอยู่ไกล เดี๋ยวกลับมาทำงานไม่ทัน 09.45 น. เลยไปใช้บริการที่ County Tax Collector อยู่แถวบ้านนั่งรถประมาณ 5-10 นาทีก็ถึง นัดรอบเช้าสุด 8.30 น. แต่ให้ไปก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง เขาบอกว่าคนที่มีนัดและไปก่อนเวลาจะไม่ต้องเข้าแถว
นัดหมายวันสอบ

เอกสารที่ต้องเตรียมไป (สำหรับออแพร์)

1. Passport
2. Visa J-1
3. SSN
4. I-94
5. ใบขับขี่ของไทย และเอกสารรับรองภาษาอังกฤษ(สำหรับใบขับขี่ชั่วคราว)
6. เอกสารระบุที่อยู่ เราใช้จดหมายจากโฮสแฟมิลี่และจดหมายจากธนาคาร
7. Certificate of drug & alcohol test อันนี้จริงๆไม่ต้องใช้สำหรับคนที่มีใบขับขี่จากประเทศไหนแล้วก็ตาม แต่มีก็เลยเอาไป

เราไปถึง Duval county tax collection ตั้งแต่ 7.55 น. (เวลาทำการที่นี่ 8-18 น.) มีคนเข้าแถวรออยู่ข้างหน้าเรา 9 คนแล้ว เราเป็นคนที่ 10 อุตส่าห์มาเช้าแล้ว ก็กังวลว่าจะกลับไปทำงานทันไหม เพราะเพื่อนที่อยู่รัฐอื่นไปสอบวันเสาร์รอคิว 4 ชั่วโมง แม่เจ้า แต่พอถึงเวลา 8น. พอดีเด๊ะ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่ประจำ front desk เดินออกมาทักทาย และถามว่าใครมีนัดบ้าง ซึ่งมีเราคนเดียวที่นัด ที่เหลือไม่มีใครเขานัดกัน และส่วนใหญ่เขามาสอบขับรถกัน มีแค่เราและผู้ชายอีกคนที่มาสอบข้อเขียน แต่เราสอบข้อเขียนครั้งแรกคนเดียว เขาก็ให้คนที่มีนัดเข้าก่อน ที่เหลือตามมา พอเข้าไปข้างในเขาจะออกบัตรคิวให้ และนั่งรอเรียกคิวตามหมายเลขเคาน์เตอร์ เราได้เคาน์เตอร์หมายเลข 6 เจ้าหน้าที่ผู้หญิงมีอายุ ใจดีมาก เขาถามว่ามาทำอะไร? คุณเคยสอบข้อเขียนมาก่อนไหม? คุณมีใบขับขี่จากที่อื่นมาก่อนหรือเปล่า? เราก็ยื่นเอกสารให้เขาทั้งหมด

(Duval County Tax Collector รูปจาก google map)

(มีคนมาสอบข้อเขียนสองคน ได้คิวคนที่สอง)

หลังจากนั้นเขาจะให้วัดสายตาโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ (ใส่แว่นได้)ให้อ่านตัวอักษรแถวที่ 5 ถ้าอ่านถูกหมดก็ผ่าน เขาก็ถามเราว่าจะให้ระบุลงไปในบัตรไหมว่าใส่แว่น เราก็ yesๆ ไป เพราะตั้งแต่มาอยู่ฟลอริด้าได้ 2 เดือนสายตาแย่ลงมาก ขนาดใส่แว่นยังอ่านไม่ชัดเลย แต่ก็ผ่าน แล้วเขาก็จะให้ถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ใจดี ถ่ายออกมาไม่สวยก็ให้ถ่ายใหม่ แต่ยังไงมันก็ไม่สวยอยู่ดี ขนาดแต่งหน้าไปแล้วนะเนี่ย หน้าดำเหลืองทุเรศมาก ใบขับขี่ไทยยังดูดีกว่าอีก ฮ่าๆ

เสร็จแล้วเขาจะอธิบายวิธีสอบว่า ข้อสอบมี 50 ข้อน้า ต้องตอบถูกอย่างน้อย 40 ข้อ เวลา 1 ชม. นั่งสอบโต๊ะคอมตรงโน้นนะ เป็น touch screen ระหว่างสอบห้ามใช้เครื่องมือ electronic หรือจดข้อสอบ เสร็จแล้วให้กลับไปที่ front desk และกลับมาเอาเอกสารคืนที่เคาน์เตอร์นี้

เราก็โอเคๆไป ตื่นเต้นมาก มีโต๊ะคอมทั้งหมด 3 เครื่อง ไม่มีใครสอบเลย เราได้เครื่องแรก หน้าจอใหญ่มาก ก่อนเริ่มสอบก็อ่านคำอธิบายนิดหน่อยแล้วก็สอบ บนจอจะมีบอกเวลานับถอยหลัง จำนวนข้อที่ถูก ผิด และต้องทำอีกกี่ข้อ ข้อไหนไม่แน่ใจสามารถกดปุ่มเว้นไว้ก่อนแล้วกลับมาทำทีหลังได้ ข้อไหนกดเลือกคำตอบแล้วแน่ใจค่อยกดปุ่มส่งคำตอบ บางข้อมีรูปประกอบให้ นี่ก็ทำไปด้วยใจระทึก ข้อสอบไม่ค่อยเหมือนที่ฝึกทำมา แต่ก็พอเดาได้ มีช้อยส์ให้เลือก 3 ช้อยส์ ถ้าตอบผิดจะเฉลยทันที

เราเริ่มต้นได้ดี แต่พอทำไปประมาณ 10 ข้อรู้สึกว่าเมื่อไหร่มันจะเสร็จ เลยเดาๆไป ผิดก็ช่างจะได้ครบ 50 ข้อเร็วๆ ทำไปทำมาผิดไป 7 ข้อยังเหลือข้อที่ต้องทำอีกครึ่งนึง ทีนี้เริ่มเครียด และเครียดขึ้นๆ เมื่อผิดครบ 10 ข้อแล้ว แต่ยังเหลือข้อต้องทำอีก 3 ข้อซึ่งจะผิดไม่ได้อีก และเป็นข้อสอบที่ไม่แน่ใจคำตอบด้วย ต้องเดา เป็นช่วงเวลาที่กดดันมากๆ ตอนข้อสุดท้ายนี่กดส่งคำตอบเสร็จหลับตาภาวนาเลย พอลืมตาปุ๊บ ผ่าน! ดีใจมาก เพราะถ้าไม่ผ่านก็ไม่รู้จะหาเวลาไหนมาสอบอีก


(ข้อสอบที่เจอ จำได้แค่นี้เอง โจทย์มันยาว ส่วนใหญ่มาเป็นสถานการณ์ แต่ข้อง่ายๆ สั้นๆ ก็มี)

*เพิ่มเติม*จากคุณ Kaewkanlaya Huiphithak ไปสอบมาหลังเรา 1 อาทิตย์ที่ ที่Hudson FL เจอข้อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ ขับรถตอนกลางคืน,ฝนตก,รถมอไซค์,อุบัติเหตุแล้วไม่มีประกัน,ค่าปรับต่างๆ,โทษของการเมาแล้วขับ,อายุของผู้ถือขับขี่ชั่วคราว หรือLearner permit ,จำนวนPoint ต่างๆ ถ้ารถมีควันออกมาจากห้องเครื่องต้องทำอย่างไร ถ้ามีรถฉุกเฉินต้องทำอย่างไร รถมอเตอร์ไซค์สามารถใช้เลนถนนได้เต็ม 

A Safer Florida:
"Keep your eyes on the road,
your hands on the wheel,
and your mind on driving"
อะไรที่ทำแล้วขัดกับหลักการนี้ ทำให้ขับรถไม่ปลอดภัยคือข้อผิดค่ะ 
หลังจากสอบผ่านก็ไปติดต่อรับบัตรคิวที่ front desk และกลับไปเคาน์เตอร์เบอร์ 6 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็จะถามเราว่าจะสอบขับรถเลยไหม หรือจะนัดวันสอบ ซึ่งเราไม่พร้อมเลยบอกว่าขอนัดทางอินเทอร์เน็ตวันหลัง แล้วเขาก็ถามส่วนสูง ลืมไปว่าที่นี่ใช้เป็นฟุต ก็ไม่รู้ส่วนสูงตัวเอง เขียนเป็นเซนติเมตรให้เขา เจ้าหน้าที่เขาก็ใจดีแปลงเป็นฟุตแล้วบอกเราให้ แล้วก็ถามคำถามเกี่ยวกับประวัติการขับขี่ 15 ข้อ เช่น เคยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับไหม? เคยโดนยึดใบขับขี่ไหม? อะไรทำนองนี้ เคยมีID Card ของฟลอริด้าไหม? เพราะที่ฟลอริด้าไม่อนุญาตให้คนเดียวถือทั้งใบขับขี่และ ID card เราก็ตอบตามความเป็นจริงไป ซึ่งก็ No เกือบหมด ยกเว้นข้อสุดท้ายจะถามว่า เรายืนยันว่าข้อมูลที่เราให้ไปตั้งแต่ข้อ 1-14 เป็นความจริงใช่ไหม? ข้อนี้อย่าลืมตอบ Yes แล้วเขาก็สแกนเอกสารของเราทกอย่างที่ยื่นไปตอนแรก ช่วงนี้จะเสียเวลาหน่อย เสร็จแล้วก็ให้เราเซ็นชื่อลงในบัตร แล้วก็ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อ นามสกุล ที่อยู่บนบัตร แล้วก็ออกใบขับขี่ชั่วคราว(Lerner permit driver's license)ให้ มีอายุใช้งาน 1 ปี สามารถขับได้เฉพาะช่วงเวลากลางวันเท่านั้น (Daylight only) หลังจากพ้น 3 เดือนแล้วจึงสามารถขับได้ถึง 22 น.โดยต้องมีคนที่มีใบขับขี่และอายุมากกว่า 21 ปีนั่งข้างเราด้วย

(ตัวอย่างใบขับขี่ชั่วคราว แต่ของจริงเหลืองและดูเก่ากว่านี้มาก
http://www.tampabay.com/resources/images/dti/rendered/2015/10/license_new_16128835_8col.jpg)

ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็เรียบร้อย แต่เราทำข้อสอบไม่ถึง 1 ชั่วโมงเพราะกลัวกลับบ้านไม่ทันเวลาทำงาน ต้องใช้เวลาเรียกอูเบออีก จะเรียกรถตั้งแต่ตอนรอเจ้าหน้าที่สแกนเอกสารก็ไม่ได้ เพราะเขาห้ามใช้โทรศัพท์ขณะอยู่หน้าเคาน์เตอร์ แต่สุดท้ายก็กลับมาทัน ถึงบ้าน 9.45 น.พอดีเด๊ะ ลุ้นหัวใจจะวายสองรอบวันนี้ หวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว

ค่าใช้จ่ายในวันนี้ ได้แก่ ค่าบริการ $6.25 และค่าทำบัตรใบขับขี่ชั่วคราว $48 แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน
จะต้องเสียค่าสอบข้อเขียนใหม่ $10

บทความที่เกี่ยวข้อง
👉 สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 1 (drug and alcohol course)
👉 สอบใบขับขี่ฟลอริด้า part 3 (road test)