หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เข้าห้องสมุดในอเมริกาครั้งแรก


หลังจากได้ใบขับขี่ชั่วคราวมาครอง ทีนี้ก็สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกไม่ต้องพก Passport ให้ยุ่งยาก แถมติดต่ออะไรก็ใช้ใบขับขี่ใบเดียว เสมือนเป็นประชากรของประเทศอเมริกาเลย สมัครสมาชิกห้องสมุดก็ฟรี 

บัตรสมาชิกห้องสมุดมีส่วนที่เป็นบัตรขนาดปกติ และบัตรเล็กๆสำหรับห้อยเป็นพวงกุญแจพกติดตัว

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ (Residency)ที่ไม่มีใบขับขี่ก็สามารถใช้ Photo ID หรือ Social Security Card คู่กับ Address ID เช่น จดหมายจากธนาคารที่ส่งมาบ้านไม่เกิน 30 วัน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่) ก็สามารถสมัครบัตรสมาชิกห้องสมุดแบบตลอดชีพได้ฟรี (หากไม่มีการใช้บัตรภายใน 3 ปีจะถูกยกเลิกหมายเลขสมาชิก) แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปหากต้องการสมัครจะต้องเสียค่าธรรมเนียม $25-100 เพื่อให้ได้บัตรสมาชิกแบบ 3, 6, 12 เดือน 

ห้องสมุดที่เราไป ได้แก่ Beaches Branch Library, Neptune Beach, Fl และ Pablo Creek Regional Library, Jacksonville, Fl ทั้งสองแห่งนี้เป็นห้องสมุด 2 จากทั้งหมด 22 สาขาของ Jacksonville Public Library

 
นี่คือป้ายจราจรที่เป็นสัญลักษณ์ห้องสมุดอยู่ริมถนน เวลาขับรถมาเห็นป้ายนี้ก็แสดงว่าถึงห้องสมุดแล้ว อยู่คู่กับแท่นป้ายห้อง Jacksonville Public Library 
(รูปภาพจาก https://www.usa-traffic-signs.com/v/vspfiles/photos/I-8_s-2.gif และ http://img.groundspeak.com/waymarking/large/e0d08a79-fc1a-4b6c-b25e-2647a4f64711.jpg)
Beaches Branch Public Library เปิดวันจันทร์ - เสาร์
(รูปภาพจาก https://www.jaxpubliclibrary.org/sites/default/files/beaches.jpg)
Pablo Creek Regional เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์
(รูปภาพจาก https://www.jaxpubliclibrary.org/sites/default/files/pcr_2.jpg)

ลักษณะห้องสมุดที่นี่จะคล้ายๆกัน คือ ด้านหน้าห้องสมุดจะเป็นลานจอดรถยนต์และที่จอดจักรยาน เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นคล้ายโถงทางเดิน สองข้างฝั่งจะมีบอร์ดป้ายประกาศข่าวสารและกิจกรรมของห้องสมุด และมีแผ่นพับโบร์ชัวร์ต่างๆ ให้หยิบอ่าน เราก็หยิบแผนที่เส้นทางเดินรถเมล์ และแผ่นพับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวติดมือกลับบ้านด้วย 

ด้านในห้องสมุดจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนหนังสือผู้ใหญ่ และโซนหนังสือเด็ก (เรียกว่า Children's library หรือ Children Area)

☝ สำหรับโซนผู้ใหญ่ 

จะจัดแบ่งหมวดหมู่หนังสือเป็น Fiction และ Non-fiction ตอนแรกก็ไม่คุ้น เพราะสมัยอยู่ไทยเข้าห้องสมุดก็จะเจอหมวด ก-ฮ แต่ที่นี่ถ้าเป็นหนังสือนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแต่ง หรือ Fiction จะเรียงตามชื่อผู้แต่ง A-Z ส่วนหนังสืออื่นๆ ทั่วไป หรือ Non-fiction จะเรียงตามตัวเลข นอกจากนี้ที่นี่ยังมีมุมหนังสือวัยรุ่น (Teen),  หนังสือการ์ตูน, หนังสือยอดนิยม, นิตยสาร, CD/DVD ต่างๆ แยกออกมาอีกด้วย 

☝ ส่วนโซนหนังสือเด็ก

จะแบ่งหมวดละเอียดกว่านั้น หนังสือนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแต่งสำหรับเด็ก จะใช้คำว่า Y Fiction หรือ Y Series, หนังสือที่เป็น Non-fiction ก็จะขึ้นต้นด้วย Y ก่อนแล้วตามด้วยเลขหนังสือ, นอกจากนี้ก็มีหมวดสารานุกรม (Encyclopedia), Foreign Language Book, Parent/Techer Book, Comic and Graphic Novel, CD/DVD และจะมีมุมจัดกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ โต๊ะอ่านหนังสือก็มีทั้งขนาดเล็กสำหรับเ็กเล็ก และขนาดใหญ่สำหรับเด็กโต

ตอนแรกเราก็หาหนังสือไม่เจอ ไปขอความช่วยเหลือจากบรรณารักษ์ ซึ่งทุกท่านยินดีให้บริการดีมาก ปลื้มปริ่มกับ service mind ของคนที่นี่

ที่ห้องสมุดยังมี free wifi, คอมพิวเตอร์ ให้บริการฟรี และมีบริการถ่ายเอกสาร ปริ้นท์งาน และ 3D printing ให้บริการในราคาถูกอีกด้วย 

เวลายืมหนังสือ (Check out) เราสามารถไปที่เคาน์เตอร์ให้บรรณารักษ์ทำให้ หรือสามารถยืมเองผ่านเครื่องยืมหนังสือ (Self checkout machine) ลักษณะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีที่สแกนบาร์โค้ดเหมือนเวลาซื้อของที่ห้าง Target

 
เครื่องยืมหนังสือด้วยตนเอง เสร็จแล้วจะมีใบสรุปรายการที่ยืม และวันกำหนดคืนออกมา
(รูปภาพจาก https://s3-media3.fl.yelpcdn.com/bphoto/kZsyqETTedLP2V1epm1eqQ/o.jpg)

ที่นี่สามารถยืมหนังสือได้มากถึง 50 เล่มต่อครั้ง และยืมได้นาน 3 สัปดาห์ (อ่านให้ตาบอดไปเลย ฮ่าๆ)

เราสามารถยืมหนังสือเล่มเดิมต่อ (Renew) ได้ผ่านทางเว็บไซต์ห้องสมุด https://www.jaxpubliclibrary.org/ หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นห้องสมุดมาก็ได้
หน้าตา application
นอกจากนี้ยังสามารถทำรายการต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วคลิก ไม่ว่าจะเป็น
- เสิร์ชดูรายการหนังสือ เพื่อดูเลขรหัสหนังสือ และดูว่ามีใครยืมอยู่หรือไม่
- จองหนังสือ (Hold) ที่มีคนยืมอยู่ หรือจองจากห้องสมุดสาขาอื่นและมารับหนังสืออีกสาขาหนึ่งได้
- แต่หากหนังสือหรือนิตยสารที่เราต้องการไม่มีที่ Jacksonville Public Library สักสาขาเลย เราก็สามารถใช้บริการยืมหนังสือต่างห้องสมุด ทั้งจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ห้องสมุดในฟลอริด้า หรือแม้กระทั่งในรัฐอื่นๆ ของอเมริกาได้ โดยใช้บริการ Interlibrary Loan ผ่านทาง Florida Library Navigator สมกับคำขวัญของห้องสมุด Start Here. Go Anywhere จริงๆ
- ดาวน์โหลด e-books audio magazines music videoต่างๆ
- จ่ายค่าปรับหนังสือได้ผ่านแอพหรือเว็บไซต์
- สามารถดูประวัติการยืมหนังสือของตนเอง
- ดูตารางกิจกรรม(Event) ต่างๆ ที่จัดขึ้นที่ห้องสมุดได้
- มีบริการ email เตือนเมื่อใกล้ถึงวันครบกำหนดคืนหนังสือ
- มี Online Learning and Test Preparation ให้เรียนฟรีอีกด้วย ทั้ง Duolingo, Codecademy, Brainfuse HelpNow, Vocations and Careers Collection, Transparent Language Online, Testing & Education Reference Center
จัดไปเลยค่าบทเรียนภาษาสเปน ภาษาทางการที่สองของคนฟลอริด้า

เราชอบห้องสมุดประชาชนที่อเมริกามาก เพราะเป็นห้องสมุดสาธารณะสำหรับประชาชนจริงๆ คือนอกจากมีหนังสือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ให้บริการแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ความรู้ ความบันเทิง ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดทุกวัน หมุนเวียนกิจกรรมกันไป ก็จะมีคนมาเข้าร่วมกิจกรรมทุกวัน เช่น คลาสสอนภาษาอังกฤษ สอนคอมพิวเตอร์ สอนเล่นกีตาร์ กิจกรรมเล่านิทานสำหรับเด็ก งานสแดงศิลปะและดนตรี เป็นต้น

กิจกรรมที่ห้องสมุดเยอะมากๆ

เราเองก็ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ห้องสมุดฟรีเหมือนกัน เป็นคลาสเรียน conversation ตอนเย็น จะมีอาสาสมัครมาสอนภาษาอังกฤษ นักเรียนในชั้นเรียนก็มีหลากหลายเชื้อชาติ ได้ประโยชน์มากๆ

ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือที่อเมริกาจะอำนวยความสะดวกให้คนพิการให้สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไปด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเป็นภาระของผู้ดูแล ห้องสมุดจึงมีปุ่มเปิดประตูสำหรับผู้พิการนั่งรถเข็นกด ไม่ต้องผลักประตู (แต่ก็เห็นคนขาดีๆ บางคนกดใช้เหมือนกัน) แล้วก็มีหูฟังสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน มีหนังสือเสียง และแอพพลิเคชันสำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็นให้บริการด้วย

หนังสือที่ยืมมา เป็นหนังสือท่องเที่ยวอเมริกา Baby Food Guide เพราะ Host kid เรากำลัง 6 เดือนพอดี เริ่มหัดกิน baby food แล้ว ส่วน Diary of a wimpy kid นี้เป็นนิยายสำหรับเด็กที่เค้าว่ากันว่าใครที่อยากอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษได้ให้เริ่มอ่านจากเรื่องนี้ เพราะอ่านง่าย สนุก คำศัพท์ไม่ยาก เด็กๆ ที่นี่ก็ชอบอ่านกัน กว่าจะได้เล่มนี้มา มีคนยืมหมดตลอด 


ไปครั้งที่ 3 ได้หนังสือ Baby game และ Wonderplay จากโซนหนังสือเด็ก Parent/Techer Book มาสำหรับเป็นไอเดียในการทำกิจกรรมกับHost kids ด้วย ออแพร์คนไหนไม่รู้จะทำกิจกรรมอะไรกับเด็กๆ แต่ละวัย หรือในวันฝนตก กิจกรรมตอนเย็นหลังเลิกเรียน สามารถดูตัวอย่างกิจกรรมได้ในหนังสือเหล่านี้ มีตั้งแต่วัยทารก เตาะแตะ จนถึงก่อนวัยเรียนเลย

การคืนหนังสือ ให้หย่อนหนังสือคืนที่ตู้คืนหนังสือ (Book drop box/bin หรือ Book return box/bin) ได้เลย ไม่ต้องไปเข้าแถวรอคืนกับบรรณารักษ์ที่เคาน์เตอร์

ใครว่างๆ และไม่รู้จะไปไหนดี แนะนำลองไปห้องสมุดดูนะคะ จะไปนั่งเล่น อ่านหนังสือ ยืมหนังสือ เอาโน้ตบุ๊คไปนั่งทำงาน หรือเข้าร่วมกิจกรรมของสมุดก็ได้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมฟรีๆ แก้เบื่อจากการเลี้ยงเด็กค่ะ ฮ่าๆ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น