- I-94 ทำตั้งแต่อยู่ Training school
- Sim Card
- SSN
- Debit/Credit Card
- Driver's license / State ID card
เมื่อมาถึงสหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญก็คือการกรอกใบ ตม.ของที่นี่ ซึ่งเรียกว่า I-94 number โดยเขาเปลี่ยนจากการกรอกในกระดาษแล้วยื่นก่อนเข้าประเทศ กลายมาเป็นทำออนไลน์ทันทีที่คุณมาถึงอเมริกา (เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เอเจนซี่จะอธิบายเองตอนปฐมนิเทศน์ที่ Training School)
โดยเข้าไปกรอกในเว็บไซต์ https://i94.cbp.dhs.gov/I94/#/home เลือกตรง Get Most Recent I-94 เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจะได้ตัวเลขมา ให้จดเลขนั้นไว้แล้วเก็บไว้เป็นความลับ ห้ามเปิดเผยให้ใครรู้ เพราะถือเป็นข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญมาก กรอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเข้าบ้านโฮสต์แล้วค่อยไปปริ้นท์ออกมา
การปริ้นท์ก็เข้าเว็บเดิม กรอกข้อมูลตามเดิม แล้วสั่งปริ้นท์ออกมาได้เลย
ต่อไปเวลาเราเข้า-ออกประเทศอเมริกาทุกครั้งก็จะได้รับการบันทึกในเว็บนี้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ และหมายเลขบนระบบ I-94 จะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่กลับเข้ามาใหม่
(ตัวอย่าง I-94)
2. Sim Card
เมื่อมาถึงบ้านโฮสต์ สิ่งที่ควรจะมีอันดับแรกคือ ซิมการ์ด เพราะจะได้สามารถติดต่อสื่อสารกับโฮสต์แฟมิลี่ได้ ที่ปรึกษาท้องถิ่น (LCC) เพื่อน และใช้เบอร์โทรศัพท์ในดำเนินการต่างๆ ได้ ส่วนจะซื้อของค่ายไหนดี ต้องถามโฮสต์เลยจ้า บางคนโฮสต์ก็จ่ายให้หมด บางคนก็หารครึ่ง บางคนออแพร์ก็ต้องจ่ายเอง แต่ส่วนใหญ่โฮสต์จะaddเข้า family plan ให้ทำให้ประหยัด (ได้ราคาถูกลง) *ใช้โทรภายในประเทศเท่านั้นถ้าโทรต่างประเทศ เช่น โทรกลับไทยจะแพงมากๆๆๆๆ ควรโทร/แชทผ่านapplication ฟรี เช่น LINE, Skype, Facebook Messenger, Whatapps, Facetime หรือซื้อบัตร Calling Card
Calling card หน้าตาแบบนี้จ้า ซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ โกรเซอรี่ หรือซื้อทางออนไลน์ก็ได้ มีหลายราคาถูกๆ ถ้าซื้อแบบบัตรก่อนใช้ต้องขูดรหัสPINก่อน แล้วกดหมายเลข Access number ตามด้วย PIN และหมายเลขปลายทางของคนที่ต้องการโทรหา
หรือกรณีจำเป็นต้องโทรเข้าโทรศัพท์ที่ไทย ให้โทรผ่านapplication เช่น Skype credit, MobileVOIP, Rebtel, KeepCalling, tolld.com, good2call.com, GoogleVoice, www.thaidail.net, call muang Thai, Vonage, VoipDiscount.com, http://www.cthai.com/ (บางแอพเราใช้อินเทอร์เน็ตในการโทรเข้ามือถือฝั่งไทย แต่ที่ไทยคนรับ รับโทรศัพท์ปกติไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต) หรือบางคนเปิดซิมไทยโดยใช้ wifi calling คิดค่าใช้บริการรายเดือนตามไทย
KeepCalling โทรไปเมืองไทย นาทีละ 3.9 เซ็นต์เท่านั้นเอง เติม $5 โทรได้ตั้ง 2 ชั่วโมง
* เตือนอีกรอบ อย่าโทรไปต่างประเทศ หรืออย่ารับโทรศัพท์ที่โชว์เบอร์แปลกๆ หรือโชว์ว่าเป็นสายเข้าจากต่างประเทศ เพราะคนรับ (ก็คือเรา) จะโดนชาร์จแพงมากๆๆๆๆๆๆ คิดเป็นนาทีเลย
3. SSN
ขั้นตอนการทำง่ายมาก เสิร์ชหา Social security office ที่ใกล้บ้าน แล้วนำเอกสารต่างๆ ดังต่อไปนี้ไป ได้แก่
- Passport
- DS-2019
- I-94
- จดหมายรับรองที่อยู่จากโฮสต์แฟมิลี่ (ปริ้นท์จากเว็บไซต์ของเอเจนซี่)
* ข้อ 9 ให้กรอกชื่อ นามสกุลเดิมของมารดาก่อนแต่งงาน
(รูป ตัวอย่างแบบฟอร์มการขอ SSN)
บัตร SSN จะถูกส่งไปที่บ้านภายใน 2 อาทิตย์ เมื่อเราได้รับบัตร SSNแล้ว ให้เซ็นชื่อในช่อง signature ทันที บันทึกเลข SSN ทั้ง 9 ตัวนั้นไว้ในมือถือ ทำสำเนาบัตรแยกเก็บไว้ ส่วนบัตรตัวจริงเก็บไว้ที่บ้านในที่ปลอดภัย เวลาไปทำธุรกรรมหรือติดต่ออะไรที่ต้องใช้เลข SSN ก็บอกแค่เลขเขาไป โดยไม่ต้องพกบัตร เพราะเสี่ยงต่อการสูญหายหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
เนื่องจาก SSN จะมีข้อมูลทุกอย่างของเราเลย ประวัติส่วนตัวเรา ฐานะการเงิน การเสียภาษีรายได้ ประวัติเครดิต การประกันสุขภาพ ประวัติการเรียน การทำงานไว้ทั้งหมด อาจมีข้อมูลและที่อยู่ของโฮสต์แฟมิลี่อยู่ด้วย จึงต้องรักษาดีๆ ห้ามเปิดเผยหรือให้เลข SSN กับใครไปใช้เป็นอันขาด หากมีใครนำเลข SSN ของเราไปใช้อย่างผิดกฏหมายเราต้องรับผิดชอบทั้งหมดเสมือนเราเป็นคนทำ เฉพาะบางกรณีที่จำเป็นต้องใช้ SSN card ตัวจริงค่อยพกไป
* เลข SSN นี้ขอได้ครั้งเดียว ใครที่เคยมาอเมริกาและขอเลข SSN แล้ว เช่น มา Work&Travel หรืออะไรก็ตาม อย่าไปขอซ้ำนะ คนหนึ่งมีSSNได้อันเดียวเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.ssa.gov/
4. Debit card/Credit Card
ในการเปิดบัญชี ให้เปิดเป็น checking account ของธนาคารที่มีสาขาเยอะๆ แถวบ้าน หรือปรึกษาโฮสต์เพราะโฮสต์อาจะสะดวกโอนเงินค่าจ้างเข้าธนาคารนั้นๆ และอย่าลืมสอบถามค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขต่างๆ ของบัญชีและบัตรเดบิต/บัตรเครดิตด้วย และควรเปิดเป็นชื่อเราเอง ไม่ควรผูกบัญชีกับโฮสต์หรือทำเป็นชื่อโฮสต์ เพราะเวลามีปัญหา เช่น รีแมช ก็ต้องปิดบัญชีคืนโฮสต์อีก ยกเว้นกรณีที่ยอดเงินไม่ถึงขั้นต่ำที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายเดือนทำให้ต้องผูกบัญชีกับโฮสต์ก็ว่าไป
* สำหรับคนที่มีแต่บัตรเดบิต บางครั้งการซื้อของออนไลน์นั้นไม่สามารถใช้บัตรเดบิตได้ จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต หรือมีบัญชี Paypal ก็สามารถใช้แทนบัตรเครดิตได้ สะดวกมากๆ ช่องทางการโอนเงินให้เพื่อนทางอื่นๆ ก็เช่น Facebook Messenger's Payment ก็สะดวก
5. Driver's License / State ID Card
สุดท้ายสิ่งที่ทำไว้ก็ดี ไม่ทำก็ได้ นั่นคือ State ID card สามารถทำได้ที่กรมการขนส่ง (DMV) เอกสารที่ใช้เหมือนการทำใบขับขี่เลย ถ้ามีแล้วก็สามารถใช้แทน passport ได้ และเอาไว้สำหรับเป็นส่วนลดในการเข้าพิธภัฑ์ หรือซื้อบัตรเครื่องเล่นในราคาResidentได้ถูกกว่า เช่น บัตร Disney's world, Universal Studio, SeaWorld ของฟลอริด้านั้นเสียค่าทำ ID card $25 มีอายุใช้งาน 1 ปี หลักฐานที่ใช้ทำได้แก่ passport, SSN และหลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น จดหมายจากธนาคาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น